Please wait...

E-catalogue
สายด่วน
0
Loading...
0
คุณไม่มีรายการสินค้าในตะกร้าของคุณ
0 สินค้าในตะกร้า
ยอดรวมรถเข็น : 0
×
สร้างความเชื่อมั่น ธุรกิจโรงแรม Hospitel

จากสถานการณ์ที่โควิด-19 ระบาดหนัก ส่งผลกระทบทางการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้ธุรกิจโรงแรมในหลายแห่งจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนโรงแรมให้เป็นสถานพยาบาลชั่วคราว หรือที่เรียกว่า Hospitel เพื่อให้บริการลูกค้าที่ต้องกักตัว รวมถึงเป็นสถานที่รับรองผู้ป่วยที่ติดเชื้อ จึงเกิดเป็นคำถามต่อจากนี้ว่า… ในวันที่สถานการณ์โควิด-19 ผ่านพ้นไปแล้ว ธุรกิจโรงแรมจะสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการอีกครั้งได้อย่างไร สิ่งที่ธุรกิจโรงแรมจะต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษต่อจากนี้ คือ การสร้างมาตรฐานความสะอาด ต้องทำให้ลูกค้าหรือนักท่องเที่ยวมั่นใจว่าโรงแรมของเราปลอดเชื้อแล้ว สามารถเข้าพักได้อย่างปลอดภัย เพื่อดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวกลับมาใช้บริการของเราอีกครั้งหนึ่ง เกณฑ์การทำความสะอาดที่ต้องคำนึงถึง การทำความสะอาดห้องพักหลังมีผู้กักตัวหรือผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้ารับบริการ พนักงานทำความสะอาดจะต้องเตรียมอุปกรณ์สำหรับทำความสะอาดที่แตกต่างจากการทำความสะอาดทั่วไปทั้งน้ำยาทำความสะอาด น้ำยาฆ่าเชื้อ และเพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้ได้รับเชื้อที่อาจปนเปื้อนอยู่ทุกที่ของห้อง พนักงานจำเป็นต้องสวมหมวกคลุมผม ถุงมือ หน้ากากอนามัย และ Face Shield เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับเชื้อโดยตรง ยิ่งไปกว่านั้นหากห้องที่ต้องทำความสะอาดเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว พนักงานจำเป็นต้องสวมเสื้อคลุมป้องกันเชื้อโรคอีกชั้นหนึ่งด้วย ความสะอาดของห้องน้ำห้องน้ำเป็นแหล่งรวมเชื้ออันดับ 1 และมีความชื้นที่เป็นปัจจัยสำคัญให้เชื้อเติบโตและมีชีวิตต่อไปได้นาน การทำความสะอาดและฆ่าเชื้อไวรัสให้หมดจึงจำเป็นต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดผสมกับโซเดียมไฮเปอร์คลอไรด์ 0.5% เทราดกับพื้นและสุขภัณฑ์ต่างๆ ทิ้งไว้อย่างน้อย 20 นาที ก่อนทำความสะอาดตามมาตรฐานของโรงแรม โดยต้องไม่สาดน้ำแรง เพื่อป้องกันละอองน้ำกระเด็นสู่ร่างกาย ความสะอาดของเครื่องกรอง หรือระบบปรับอากาศความสะอาดของอากาศก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน พนักงานทำความสะอาดจะต้องระบายอากาศในห้องพักด้วยการเปิดหน้าต่างเพื่อรับแสงแดดและให้อากาศได้ถ่ายเท จากนั้นจึงจะถอดแผ่นกรองฝุ่นออกมาล้างทำความสะอาด ตากให้แห้ง และฉีดทับด้วยสเปรย์แอลกอฮอล์หากต้องล้างคอยล์เย็น ขั้นตอนนี้พนักงานทำความสะอาดจำเป็นต้องใส่ชุดป้องกันเชื้อโรคอย่างรัดกุม สวมหมวกคลุมผม สวมถุงมือ สวมหน้ากากอนามัย N95 และ Face Shield เพื่อป้องกันละอองไอน้ำที่ฟุ้งกระจาย เมื่อล้างเสร็จแล้วจะต้องฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์ซ้ำด้านนอกไปอีกครั้งด้วยเช่นกัน ความสะอาดของชุดเครื่องนอนการเปลี่ยนปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน และผ้าห่ม จำเป็นต้องทำอย่างระมัดระวัง ไม่ควรสะบัดผ้า เพราะจะทำให้เชื้อที่อาจติดอยู่ที่ผ้าฟุ้งกระจายขึ้นมา จะต้องค่อยๆ ถอดและม้วนเก็บผ้าด้านที่สัมผัสกับเชื้อเข้าด้านใน จากนั้นใส่ถุงขยะ หรือถุงคัดแยกเพื่อนำไปซักทำความสะอาดให้ถูกวิธีโดยการทำความสะอาดผ้าที่มีการปนเปื้อน จำเป็นต้องใช้ความร้อนในการซักล้าง 70 องศา และเปิดระบบทำความสะอาดให้นานกว่าปกติ 30 นาทีเพื่อประสิทธิภาพการซักล้างที่มากขึ้น การจัดการกับขยะและสิ่งปนเปื้อนขยะทุกสิ่งที่ผ่านการสัมผัสจากผู้ติดเชื้อมาแล้ว พนักงานทำความสะอาดต้องทำการแยกใส่ถุงขยะให้เรียบร้อย วิธีการรวบถุงขยะไม่ควรหันหน้าเข้าหาตัวเอง ให้หันปากถุงออกจากตัวแล้วค่อยๆ ม้วนปากถุงเข้าหากันแล้วมัดให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของเชื้อ จากนั้นนำไปใส่รถเข็นทำความสะอาดโดยแยกถุงใส่ผ้าและถุงขยะออกจากกันการจัดการกับขยะที่ปนเปื้อนจะต้องนำไปเผา ทำลาย แต่ถ้าหากโรงแรมไม่มีเตาเผาขยะ สามารถแยกประเภทขยะที่ปนเปื้อนออกจากขยะทั่วไป อาจจะใส่ถุงขยะสีแดงเพื่อแยกประเภทออกอย่างชัดเจนและแจ้งรถขนขยะให้นำไปทำลายอย่างถูกวิธีต่อไป หลังผ่านวิกฤตก็ยังต้องยึดมาตรฐานความสะอาดต่อไป จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ลูกค้าหรือนักท่องเที่ยวคำนึงเรื่องความสะอาดและสุขภาพกันมากขึ้น ดังนั้นทางธุรกิจโรงแรมจึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนและยกระดับมาตรฐานความสะอาดจากเดิมให้สูงขึ้นไปอีก พนักงานในโรงแรมอาจต้องยึดหลักความสะอาดที่เข้มงวดขึ้น เช่น การใส่ถุงมือหยิบจับสิ่งของหรือบริการอาหารให้ลูกค้า มีการฉีดแอลกอฮอล์หรือเช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่ส่วนกลางทุกๆ 3-5 ชม. เพิ่มจุดบริการแอลกอฮอล์ ร่วมไปถึงเพิ่มมาตรการดูแลความสะอาดในส่วนกลางอื่นๆ เพื่อให้ธุรกิจโรงแรมของคุณมีมาตรฐาน สร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการของคุณอีกครั้ง ยกระดับมาตรฐานความสะอาดให้ธุรกิจโรงแรมสามารถเข้ามาเลือกซื้อสินค้าได้ที่เว็บไซต์ https://www.jenbunjerdstore.com/ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 02-096-9898 (200 คู่สาย) อ้างอิงข้อมูล: 1. https://www.youtube.com/watch?v=2_Rv_1Gao3Y 2. https://www.youtube.com/watch?v=ELLO6Z1gOdk

2023-09-25
คลังสินค้าอัจฉริยะ (Intelligent Warehouse) ทำงานอย่างไร

คลังสินค้าอัจฉริยะ (Intelligent Warehouse) ทำงานอย่างไร ระบบอัตโนมัติกับรถยกไฟฟ้า ความแตกต่างที่ใช้คู่กันได้ การดำเนินธุรกิจในปัจจุบันกำลังก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 ซึ่งเป็นยุคที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม หลายๆ ธุรกิจจึงได้ให้ความสนใจกับเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยให้การดำเนินธุรกิจมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นและสามารถแข่งขันในตลาดระดับโลกได้ คลังสินค้าอัจฉริยะ (Intelligent Warehouse) เป็นเทคโนโลยีที่หลายธุรกิจให้ความสนใจเพราะเป็นระบบที่ใช้ในการบริหารจัดการ Supply Chain ได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นระบบอัตโนมัติที่ควบคุมทุกอย่างผ่านเทคโนโลยีที่มีการเขียนโปรแกรมสำหรับการบริหารจัดการและการวิเคราะห์ที่จะถูกใช้ในคลังสินค้าอัจฉริยะ ซึ่งสามารถใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์เดิมที่ใช้ในคลังสินค้าได้ เช่น รถยกไฟฟ้า, รถลากพาเลท นำมาปรับเปลี่ยนเพื่อให้สามารถนำไปใช้งานในระบบอัตโนมัติได้ หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดเก็บสินค้าเช่น ลังพลาสติก, กล่องพลาสติก, ถังพลาสติกก็ยังมีความจำเป็นในการใช้งานในระบบคลังสินค้าอัจฉริยะเพราะสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายและยังช่วยปกป้องสินค้าไม่ให้เกิดความเสียหายหากมีการขนย้ายโดยใช้ระบบอัตโนมัติ คลังสินค้าอัจฉริยะ (Intelligent Warehouse) เป็นการบริหารคลังสินค้าที่นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการวางแผนการปฏิบัติงานด้วยระบบอัตโนมัติเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์ จุดประสงค์ของคลังสินค้าอัจฉริยะก็เพื่อปรับเปลี่ยนให้การบริหารคลังสินค้ามีประสิทธิภาพในการใช้งานมากขึ้น โดยเฉพาะเครื่องมือที่ต้องใช้ในคลังสินค้า เช่น รถยกไฟฟ้าหรือรถลากพาเลทซึ่งโดยปกติจะใช้คนในการควบคุมการทำงานแต่คลังสินค้าอัจฉริยะจะใชัเทคโนโลยีในการควบคุมการทำงานของรถยกไฟฟ้าหรือรถลากพาเลทแทน รวมไปถึงรายละเอียดในการเคลื่อนย้ายหรือยกสินค้า เช่น ประเภทสินค้าและจำนวน คำสั่งทั้งหมดเกิดจากข้อมูลที่บันทึกไว้และระบบคลังสินค้าอัจฉริยะจะนำข้อมูลมาวิเคราะห์ข้อมูลและออกเป็นคำสั่ง ซึ่งมีความแม่นยำสูง จึงลดโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดได้หลักการทำงานของคลังสินค้าอัจฉริยะ คลังสินค้าอัจฉริยะจะใช้ระบบอัตโนมัติตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ตั้งแต่รับสินค้าเข้าคลังสินค้า หรือรับคำสั่งซื้อ ตรวจสอบความถูกต้องของประเภทและจำนวนของสินค้า, การเช็คสินค้าในสต็อคโดยใช้การสแกนบาร์โค้ด, การเลือกพื้นที่หรือรูปแบบการจัดเก็บ, คำนวนการเบิกจ่ายทั้งในปัจจุบันและในอนาคต การคำนวนขนาดและพื้นที่กล่องพลาสติกหรือลังพลาสติกในการจัดเรียงสินค้าในชั้นวางสินค้า ไปจนถึงการเลือกบรรจุภัณฑ์เพื่อบรรจุหีบห่อเพื่อเตรียมจัดส่ง ซึ่งการบริหารจัดการทั้งหมดนี้ใช้เทคโนโลยีที่เป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมดโดยมีระบบเทคโนโลยีหลายระบบที่ถูกนำมาใช้ในคลังสินค้าอัตโนมัติเพื่อให้การทำงานในคลังสินค้าอัจฉริยะมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น   ระบบเทคโนโลยีที่เพิ่มประสิทธิภาพให้คลังสินค้าเป็นอัจฉริยะ Artificial intelligence Artificial intelligence หรือที่เรียกย่อๆ ว่า AI หรือปัญญาประดิษฐ์ เป็นระบบที่ช่วยเพิ่มความสามารถในกระบวนการผลิตและช่วยเพิ่มความได้เปรียบทางเศรษฐกิจและการแข่งขัน เพราะปัญญาประดิษฐ์สามารถรวบรวมข้อมูลสินค้าจากฐานข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้และนำข้อมูลเหล่านั้นนำมาวิเคราะห์ซึ่งเกิดจากการจดจำรูปแบบของข้อมูลและนำมาเรียบเรียงเพื่อนำข้อมูลมาใช้บริหารจัดการคลังสินค้า เช่น การเติมสินค้าที่ใกล้หมดสต๊อก, การเลือกใช้กล่องพัสดุที่เหมาะกับการขนส่งโดยคำนวนจากจำนวนสินค้า, ขนาดสินค้า และน้ำหนัก, การค้นหาเส้นทางขนส่งที่สั้นที่สุดเพื่อให้รถยกไฟฟ้า,รถลากพาเลท หรือรถเข็น เคลื่อนย้ายสินค้าโดยใช้เวลาน้อยที่สุด, การคำนวนและออกแบบการจัดวางสินค้าในชั้นวางสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดโดยอาจวิเคราะห์จากขนาดกล่องพลาสติกหรือลังพลาสติกที่ใช้ในการบรรจุสินค้า หรือบางโรงงานอุตสาหกรรมสามารถใช้หุ่นยนต์ทำงานร่วมกับพนักงานได้ก็จะใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการคิดค้นหาวิธีการในการบรรจุสินค้าโดยใช้พื้นที่ในกล่องพลาสติกหรือลังพลาสติกให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด Drones and Cobot โดรน เป็นอุปกรณ์ที่เหมาะใช้ในคลังสินค้าที่มีขนาดใหญ่ หรือตั้งอยู่บนที่สูงและเข้าถึงยาก โดยส่วนใหญ่โดรนที่ใช้ในคลังสินค้าจะมีกล้องเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งระบบเทคโนโลยี RFID หรือเครื่องสแกนบาร์โค้ดไว้ใช้สำหรับสแกนบาร์โค้ดเพื่อค้นหาสินค้า หรือเช็คสต็อกในคลังสินค้าทำให้มีความรวดเร็วในการทำงาน สำหรับโรบอท หรือหุ่นยนต์ สามารถใช้เพื่อทดแทนแรงงานมนุษย์หรือทำงานร่วมกันกับมนุษย์ในคลังสินค้าอัจฉริยะได้ ตัวอย่างเช่น งานที่ต้องเคลื่อนย้ายกล่องพลาสติกที่มีจำนวนมาก, งานจัดเรียงสินค้าในชั้นวางสินค้า เป็นต้น Warehouse management systems (WMS) เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในการบริหารคลังสินค้าโดย WMS ต้องรองรับกระบวนการทำงานขั้นพื้นฐานของคลังสินค้าทั้งหมด และยังต้องรองรับการเชื่อมต่อของระบบคลังสินค้าและเทคโนโลยีระบบต่างๆ เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันได้ เช่น การรับสินค้าโดยจะบันทีกรายละเอียดของสินค้าเข้าระบบ WMS โดยอาจใช้พนักงานในการบันทึกข้อมูลในระบบและระบบ AI จะจดจำรูปแบบของสินค้าเพื่อนำไปใช้งานต่อไป, การจัดเก็บสินค้าระบบ WMS จะค้นหาพื้นที่และรูปแบบในการจัดเก็บสินค้าที่เหมาะสมโดยคำนวนจากกล่องพลาสติกหรือลังพลาสติกที่ใช้ในการบรรจุสินค้า, การจัดส่งสินค้าระบบ WMS จะจัดเตรียมสินค้าหรือแจ้งข้อมูลของสินค้าที่จะใช้ในการจัดส่ง โดยบางโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้ระบบอัตโนมัติจะใช้ระบบอัตโนมัติในการสั่งการรถยกไฟฟ้าหรือรถลากพาเลทที่มีการเชื่อมต่อระบบไว้ให้เคลื่อนย้ายหรือยกสินค้าจัดเตรียมไว้เพื่อให้พนักงานมาเช็คสินค้าก่อนทำการจัดส่งสินค้า ระบบ WMS เป็นระบบที่ช่วยเสริมการบริหารการจัดการคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพ ด้วยความรวดเร็วและความแม่นยำในการบริหารจัดการของ WMS ทำให้ประหยัดเวลาและลดความผิดพลาดจากการทำงานของพนักงาน และช่วยลดต้นทุนด้านแรงงานได้มาก The internet of thingsThe internet of things หรือเรียกย่อๆ ว่า IoT เป็นเทคโนโลยีที่ใช้เชื่อมต่อเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างของเทคโนโลยีระบบต่างๆ และเครื่องมืออัตโนมัติ โดยใช้ระบบ Internet เป็นการเชื่อมต่อ เพื่อให้ระบบเทคโนโลยีและเครื่องมืออัตโนมัติทำงานร่วมกันได้ เช่น เมื่อคลังสินค้าได้รับสินค้า จะติดตั้ง RFID ที่กล่องสินค้าหรือกล่องพลาสติกที่บรรจุสินค้า และเครื่องสแกนบาร์โค้ด RFID จะสแกนแท็กและจะจัดหมวดหมู่สินค้า และบันทึกรายละเอียดของสินค้าเช่น จำนวน ขนาดและน้ำหนัก และแจ้งข้อมูลให้กับ WMS จากนั้น WMS จะสื่อสารกับหุ่นยนต์ รถยกไฟฟ้า หรือรถลากพาเลทอัตโนมัติ เพื่อออกคำสั่งและแจ้งรายละเอียดในการจัดเก็บสินค้าตั้งแต่ ขนาดของกล่องพลาสติกหรือลังพลาสติกที่เหมาะสมในการบรรจุ, ขนาดพื้นที่ที่เหมาะสม, รูปแบบการจัดเรียงที่จะช่วยเพิ่มความสามารถของการจัดเก็บ หรือตำแหน่งของสินค้าที่ควรวางบนชั้นวางสินค้า ซึ่งกระบวนการทำงานทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้จาก loT เป็นตัวกลางของการสื่อสารของระบบอัตโนมัติทั้งหมด Mobile devices-based warehouse mobility โทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นอุปกรณ์ที่สามารถนำมาใช้ในคลังสินค้าอัจฉริยะได้ เพราะโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ พกพาติดตัวได้ตลอดเวลา และสามารถโหลดแอพพลิเคชั่นมาใช้งานได้ ซึ่งปัจจุบันแอพพลิเคชั่นได้เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมากส่งผลให้หลายๆ เทคโนโลยีได้สร้างแอพพลิเคชั่นขึ้นมาเพื่อให้ข้อมูลหรือบริการ ซึ่งร่วมไปถึงเทคโนโลยีที่ใช้ในคลังสินค้าอัจฉริยะด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นระบบอัตโนมัติเองก็สามารถส่งผ่านข้อมูลผ่านเรดาร์ได้ ดังนั้นโทรศัพท์เคลื่อนที่จึงเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับพนักงานในการดูข้อมูลของสินค้าที่มีการจัดเก็บในคลังสินค้า ชื่อสินค้า, จำนวนสินค้า, ตำแหน่งสินค้าที่ถูกจัดเก็บในชั้นวางสินค้า ทำให้มีความรวดเร็วในการค้นหาสินค้าหรือการให้ข้อมูลกับแผนกต่างๆที่มีความเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกข้อมูลเป็นรูปภาพทำให้ง่ายต่อการค้นหา หรือติดตามสินค้าที่มีการจัดส่งไปโดยใช้ระบบคลาวด์เข้ามาช่วยในการค้นหาหรือติดตามสินค้า คลังสินค้าอัจฉริยะเป็นศูนย์รวมของเทคโนโลยีที่จะช่วยให้คลังสินค้ามีศักยภาพทำให้ได้เปรียบในการแข่งขันเพราะมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้ แต่การจะปรับเปลี่ยนคลังสินค้าธรรมดามาเป็นคลังสินค้าอัจฉริยะนั้นต้องใช้เงินลงทุนที่สูงมาก ในการปรับเปลี่ยนระบบการทำงานมาเป็นระบบอัตโนมัติที่ใช้เทคโนโลยีทั้งหมดในการควบคุม ซึ่งหลายธุรกิจอาจจะยังไม่มีความพร้อมในการลงทุน ดังนั้นเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในคลังสินค้าก็ยังมีความสำคัญเพราะเครื่องมือและอุปกรณ์เหล่านี้สามารถนำมาใช้งานร่วมกับระบบอัตโนมัติที่ใช้เทคโนโลยีควบคุมได้ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เคลื่อนย้ายเช่น รถยกไฟฟ้า, รถลากพาเลท,โต๊ะยกปรับระดับหรือรถเข็น หรืออุปกรณ์ในการจัดเก็บ เช่น กล่องพลาสติก, ลังพลาสติก, ถังพลาสติก, พาเลทพลาสติก ที่ใช้ในการบรรจุสินค้าหรือใช้รองสินค้าเพื่อยกสินค้าซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญเพราะคลังสินค้าอัฉจริยะเป็นระบบอัตโนมัติ ซึ่งระบบอัตโนมัติจะทำงานได้ดีเมื่ออุปกรณ์จัดเก็บมีขนาดได้มาตรฐาน ซึ่งนอกจากบรรจุภัณฑ์ต่างๆแล้ว ชั้นวางสินค้าโดยเฉพาะชั้นวางสินค้าเหล็กเป็นอุปกรณ์สำคัญในการจัดเก็บเพราะมีความแข็งแรงและทนทานและสามารถใช้ในการจัดเรียงสินค้าหรือแยกประเภทสินค้าได้ Jenstore by Jenbunjerd เป็นผู้จำหน่ายอุปกรณ์ยก-ย้าย เช่น รถยกไฟฟ้า, รถแฮนด์ลิฟท์, รถลากพาเลท, โต๊ะยกปรับระดับ, รถเข็น และรับทำเข็นตามแบบที่ต้องการ และอุปกรณ์ในการจัดเก็บ เช่น พาเลทพลาสติก, ถังพลาสติก, กล่องพลาสติก, ลังพลาสติก, ลังอเนกประสงค์, ชั้นวางของเหล็ก, ชั้นวางสินค้า ที่มีมาตรฐานและคุณภาพสูง พร้อมให้คำปรึกษาและบริการหลังการขายแบบมืออาชีพ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) Tel : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
เทียบให้เห็นกันชัดๆ รถเข็นผลิตในไทยคุณภาพส่งออก VS รถเข็นนำเข้าจากจีน

รถเข็นผลิตในไทยกับรถเข็นนำเข้าจากจีนแบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน!!! เราคงจะคุ้นตากับรถเข็นเวลาไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาเก็ต แต่รถเข็นไม่ได้มีเพียงรถเข็นที่ไว้ ช้อปปิ้งที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตเท่านั้น ยังมีรถเข็นอีกหลายประเภทที่แยกตามการใช้งาน ในบทความนี้เราจะไปทำความรู้จักรถเข็นแต่ละประเภทกันและรถเข็นที่ผลิตในไทยกับรถเข็นนำเข้าจากจีนแบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน รถเข็นเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการขนย้ายสิ่งของโดยการใช้งานผ่านแรงผลักของคน รถเข็นมีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมของ งาน เช่น รถเข็นในห้องครัว รถเข็นช้อปปิ้ง รถเข็นกระเป๋าเดินทาง รถเข็นขนวัสดุก่อสร้าง รถเข็นอุตสาหกรรม ไปจนถึงรถเข็นพับได้ ฯลฯรถเข็นไม่ได้เป็นอุปกรณ์สำคัญแค่ในซุปเปอร์มาร์เก็ตเท่านั้น ตามอุตสาหกรรมขนาดเล็กไปถึงขนาดใหญ่ หรือในสำนักงานทั่วไป ก็มีการใช้รถเข็นเช่นกัน การเลือกซื้อรถเข็นให้เหมาะกับการใช้งานจึงเป็นสิ่งจำเป็น การเลือกรถเข็นควรดูตั้งแต่วัสดุที่ใช้ในการผลิต ตั้งแต่พลาสติก เหล็ก อะลูมิเนียมหรือสเตนเลส ซึ่งวัสดุที่แตกต่างเหล่านี้เหมาะกับงานที่แตกต่างกัน ในบทความนี้จะพาไปทำความรู้จักรถเข็นแต่ละประเภท ประโยชน์ และการเลือกซื้อรถเข็นรถเข็นคือ ยานพาหนะขนาดเล็ก มีล้อ ไว้สำหรับเคลื่อนที่โดยการออกแรงผลักจากคน เป็นอุปกรณ์ช่วยอำนวยความสะดวกในการขนของ บรรทุกหรือเคลื่อนย้ายสิ่งของต่างๆ รถเข็นมีทั้งหมดกี่ประเภท รถเข็นถือเป็นอุปกรณ์อเนกประสงค์ที่จำเป็นต้องใช้ในธุรกิจหลายประเภท โดยเฉพาะในโรงงาน ที่มีโกดังเก็บสินค้า รถเข็นถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่มาช่วยทุ่นแรง ทุ่นเวลาและยังช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการขนย้ายสิ่งของต่างๆ ไปยังที่ๆ เราต้องการ แต่ในตลาดมีรถเข็นอยู่หลายประเภท เราควรมีวิธีการเลือกรถเข็นให้เหมาะกับงานของเราเพื่อจะได้ตอบโจทย์ในการใช้งานมากที่สุด รถเข็นอเนกประสงค์รถเข็นประเภทนี้จะมี 4 ล้อ และมีราวจับเชื่อมติดกับฐาน ใช้งานง่าย รองรับน้ำหนักได้มาก และเหมาะสำหรับการขนของทั่วๆ ไป เช่น ขนลังหนังสือ ขนกล่องวัสดุ ขนขวดน้ำดื่มขนาดใหญ่ในสำนักงาน ขนพัสดุในคลังสินค้า ฯลฯ รถเข็นอเนกประสงค์นี้ยังช่วยให้การทำงานมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น รถเข็นอเนกประสงค์นี้จึงเป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย รถเข็นทรงสูงรถเข็นประเภทนี้มีลักษณะเป็นตะแกรงสูง ปิดล้อมฐานทั้ง 4 ด้าน ด้านในมีการแบ่งเป็นช่องสำหรับการขนย้ายหรือจัดเก็บสินค้าแยกออกเป็นหมวดหมู่ เหมาะสำหรับงานที่ต้องขนสินค้าหลายประเภท และจำเป็นต้องมีการแยกประเภทในการขนย้าย เช่น โกดังสินค้า ห้างสรรพสินค้าที่ต้องขนย้ายสินค้า หรือซุปเปอร์มาร์เก็ต เป็นต้น รถเข็นดอลลี่รถเข็นประเภทนี้ เป็นรถเข็นอเนกประสงค์ สามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่มีด้ามหรือราวจับและสามารถนำรถเข็นดอลลี่นี้ไปประยุกต์ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ รถเข็นประเภทนี้ยังสามารถนำมาต่อกันให้เป็นรถเข็นขนาดใหญ่เพื่อใช้ขนย้ายสินค้าที่ต้องการใช้พื้นที่ได้อีกด้วย รถเข็นแบบ 2 ล้อเป็นรถเข็นที่นิยมนำมาใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ด้วยความที่รถเข็นประเภทนี้มีความคล่องตัว ด้วยขนาดและน้ำหนักที่เบา ทำให้สามารถเข็นและขนย้ายสิ่งของในพื้นที่จำกัดได้อย่างสะดวกสบาย และยังสามารถรับน้ำหนักได้มาก นิยมนำมาใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม พื้นที่ก่อสร้าง ฯลฯ รถเข็น 4 ล้อรถเข็นประเภทนี้ มีล้อทั้งหมด 4 ด้านติดตั้งบริเวณมุมทั้ง 4 มุม มีมือจับกับแผ่นรองน้ำหนัก เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน มีน้ำหนักเบา คล่องตัว และผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องออกแรงมากในการเข็น มักจะพบเห็นรถเข็น 4 ล้อนี้ได้ทั่วไป เหมาะกับการขนของในโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงาน โกดัง เป็นต้น รถเข็นไต่บันไดเป็นรถเข็นที่มีบันไดสามารถไต่ขึ้น-ลงได้ เหมาะสำหรับการขนย้ายสินค้าที่ต้องมีการขึ้น-ลงบันได โดยรถเข็นประเภทนี้จะมีล้อข้างละ 3 ล้อ ทำให้เกิดความคล่องตัวในการเคลื่อนย้าย มีให้เลือกทั้งที่เป็นโครงสร้างเหล็กและโครงสร้างอะลูมิเนียม รถเข็นที่เหมาะกับการใช้เฉพาะทาง รถเข็นที่ใช้กับงานเฉพาะทาง เช่น รถเข็นถัง รถเข็นปูน รถเข็นกระเป๋าโรงแรม รถเข็นช้อปปิ้ง รถเข็นแม่บ้าน รถเข็นผ้า และรถเข็นอาหาร โดยแต่ละประเภทเหมาะกับการใช้งานดังต่อไปนี้ รถเข็นถัง รถเข็นถังน้ำมัน 200 ลิตร รถเข็นถังน้ำมัน 400 ลิตร หรือใช้สำหรับขนย้ายถังอื่นๆ ก็ได้ เหมาะกับการขนย้ายถังประเภทต่างๆ เช่น ถังน้ำมัน ถังน้ำขนาดใหญ่ ถังขยะ ถังที่มีน้ำหนักมากๆ หรือรถยกถังน้ำมันที่มีการออกแบบพิเศษมาให้ช่วยเพิ่มความสะดวกในยกเอียงถังให้เทของเหลวที่อยู่ในถังได้สะดวกอีกด้วย รถเข็นปูนรถเข็นปูนจะมีล้อแค่ 1 ล้อเท่านั้น ด้านหน้า-ด้านหลัง เป็นขาตั้งสำหรับไว้พักรถเข็น มีถาดหรือกระบะก้นลึกสำหรับใส่ทราย ปูน อิฐ ดิน เหล็ก หรือวัสดุก่อสร้างอื่นๆ เหมาะกับการใช้ในงานก่อสร้าง รถเข็นกระเป๋าในโรงแรมเป็นรถเข็นที่มี 4 ล้อ มีฐานสำหรับรับน้ำหนักของกระเป๋าเดินทาง ราวจับมีทรงสูงและมีดีไซน์ที่หลากหลาย บางรุ่นมีราวสำหรับแขวนสูทหรือเสื้อผ้า ส่วนใหญ่แต่ละโรงแรมจะออกแบบรถเข็นให้เหมาะกับโรงแรม อาจมีการเพิ่มลูกเล่นในรถเข็นให้มีความหรูหรา เพื่อเพิ่มความประทับใจให้กับลูกค้าเมื่อได้พบเห็น รถเข็นช้อปปิ้งเรามักจะเห็นรถเข็นช้อปปิ้งได้ตามห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต รถเข็นช้อปปิ้งนี้เพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าที่มาซื้อของในห้างฯ หรือในซุปเปอร์มาร์เก็ต ช่วยทุ่นแรงให้กับลูกค้าสามารถเดินช้อปปิ้งได้อย่างเพลิดเพลิน รถเข็นแม่บ้านรถเข็นแม่บ้าน รถเข็นโรงแรม ให้นึกภาพเวลาเราไปพักตามโรงแรม รีสอร์ทต่างๆ จะเห็นแม่บ้านเข็นรถเข็นนี้มาเพื่อทำความสะอาดห้องให้เรา รถเข็นแม่บ้านนี้ออกแบบมาให้มีหลายชั้นคล้ายตู้กับข้าว โดยมีชั้นวางของที่แยกแบ่งช่องชัดเจน เพื่อให้สามารถหยิบสิ่งของออกมาใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย มักจะเห็นรถเข็นแม่บ้านนี้ตามโรงแรม รีสอร์ท ฯลฯ รถเข็นผ้า รถเข็นประเภทนี้ บางรุ่นจะเป็นรถเข็นทรงสูง มีขนาดใหญ่ และเหมาะสำหรับขนย้ายผ้าจำนวน มากๆ มีโครงสร้างที่แข็งแรง สามารถรับน้ำหนักได้มาก ส่วนใหญ่มักจะเห็นตามโรงแรมที่แม่บ้านไว้ใช้ขนผ้าเช็ดตัว ปลอกหมอน ผ้าปูเตียง เพื่อนำไปห้องซักล้าง หรือมักจะพบเห็นได้ตามโรงพยาบาล รถเข็นเสิร์ฟอาหาร หรือรถเข็นอาหารเป็นรถเข็นอีก 1 ประเภทที่นิยมใช้ในโรงแรม รีสอร์ท ฯลฯ หรือในภัตตาคาร ร้านอาหาร มีทั้งรถเข็นเสิร์ฟอาหารและรถเข็นเสิร์ฟเครื่องดื่ม และยังสามารถประยุกต์รถเข็นเสิร์ฟอาหารนี้เป็นรถเข็นเก็บจานสำหรับเก็บเศษอาหาร จาน ชาม หรือภาชนะที่ใช้แล้วได้อีกด้วย เหมาะกับการใช้งานในโรงแรม ที่พักต่างๆ รถเข็นพับได้รถเข็นพับได้ มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวก เหมาะกับแม่บ้านที่ไปจ่ายตลาด หรือใช้ขนของภายในบ้าน หรือสำนักงานที่ไม่ใช่ของที่ใหญ่หรือมีน้ำหนักมาก   ประโยชน์ของรถเข็น อย่างที่ได้อธิบายมาข้างต้นว่า รถเข็นแต่ละประเภทเหมาะกับงานแบบไหนกันบ้าง จริงๆ รถเข็นแต่ละประเภทนั้นล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ในการอำนวยความสะดวกในการทำงานด้วยกันทั้งสิ้น และต่อไปนี้จะเป็นประโยชน์หลักๆ ของรถเข็นทุกประเภท ช่วยประหยัดเวลาในการขนย้ายการใช้รถเข็นในการขนย้ายสิ่งของต่างๆ ตั้งแต่สิ่งของขนาดเล็กไปจนสิ่งของชิ้นใหญ่ๆ ก็เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และไม่จำเป็นต้องแบกน้ำหนักสิ่งของเหล่านั้นด้วยตัวเอง สามารถนำใส่รถเข็นและเข็นไปได้ และสามารถขนย้ายสิ่งของปริมาณมากๆ ได้ในเวลาเดียวกัน ป้องกันสิ่งของชำรุดเสียหายระหว่างขนย้ายการใช้รถเข็นในการขนย้ายของที่หนักมากๆ จะช่วยทุ่นแรง และยังช่วยรักษาสภาพสินค้า ของใช้ ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ลดการบาดเจ็บรถเข็นสามารถช่วยลดอาการบาดเจ็บ หรืออุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นระหว่างขนย้ายของได้ รถเข็นจะช่วยขนย้ายของที่มีน้ำหนักมากซึ่งถ้าออกแรงยกอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อกระดูกสันหลัง กระดูกข้อเข่าได้ การใช้รถเข็นช่วยขนของหนักๆ เหล่านี้ จึงเป็นวิธีที่ปลอดภัยทั้งต่อสิ่งของและปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้ใช้งาน ไม่เปลืองเนื้อที่ในการจัดเก็บในบางสำนักงานที่มีพื้นที่จำกัดในการเก็บของ รถเข็นแบบพับได้ หรือรถเข็นขนาดเล็ก รถเข็นอเนกประสงค์ รถเข็นเหล่านี้ถูกออกแบบมาให้เอื้อต่อพื้นที่ๆ มีจำกัด นอกจากรถเข็นเหล่านี้จะไม่เปลืองพื้นที่ในสำนักงานแล้ว รถเข็นเหล่านี้ยังสามารถทำงานได้ดีในพื้นที่จำกัด เช่น ลิฟท์หรือทางเดินเล็กๆ ในสำนักงาน นอกจากประเภทและประโยชน์ที่เราจะได้จากรถเข็นแต่ละชนิดแล้ว การเลือกซื้อรถเข็นที่ผลิตในประเทศไทยกับรถเข็นนำเข้าจากประเทศจีน ซึ่งอาจจะมีราคาที่ถูกกว่า แต่เราลองมาลงรายละเอียดดูว่า มันคุ้มที่จะสั่งสินค้าเหล่านี้เข้ามาหรือไม่? รถเข็นที่ผลิตในไทยกับรถเข็นนำเข้าจากจีนแบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน รถเข็นที่ผลิตในประเทศไทย รถเข็นนำเข้าจากประเทศจีน สามารถควบคุมการผลิตได้ ลูกค้าสามารถบอกความต้องการในการผลิตกับโรงงานหรือผู้จัดจำหน่ายได้โดยสะดวก ไม่สามารถควบคุมการผลิตได้ ต้องเลือกตามสเปคที่มีเท่านั้น ไม่ต้องมีเอกสารยุ่งยาก การนำสินค้าเข้าจากประเทศจีนหรือต่างประเทศ ต้องใช้เอกสารมากมาย และขั้น ตอนการนำสินค้าเข้ายุ่งยาก มีค่าขนส่งภายในประเทศ ต้องเสียค่าขนส่งระหว่างประเทศ ซึ่งมีราคาแพงกว่าและยุ่งยากกว่า มีศูนย์บริการเมื่อสินค้าชำรุด เสียหาย หรือต้องการอะไหล่ทดแทน ไม่มีศูนย์บริการ หากสินค้าชำรุด เสียหาย ต้องทิ้งหรือต้องส่งซ่อมไปที่บริษัทแม่ในประเทศจีน ซึ่งต้องเสียค่าขนส่งที่ไม่น่าจะคุ้ม สามารถตรวจสอบบริษัทผู้จัดจำหน่ายได้ ตรวจสอบผู้จัดจำหน่ายได้ แต่หากเกิด กรณีต้องเคลมของ จะมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก เมื่อเทียบให้เห็นกันชัดๆ แบบนี้แล้ว ผู้อ่านน่าจะมีคำตอบอยู่ในใจว่าควรเลือกซื้อรถเข็นที่ผลิตในประเทศหรือรถเข็นนำเข้าจากจีน หากผู้อ่านอ่านมาถึงตรงนี้ และต้องการจะสั่งผลิตรถเข็น หรือสั่งซื้อรถเข็น บริษัท เจนบรรเจิด จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์จัดเก็บ ยก ย้าย และเป็นผู้ผลิตรถเข็นคุณภาพชั้นนำแบรนด์ JUMBO ที่ได้รับสิทธิพิเศษในการใช้ "Thailand Trust Mark" ที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลไทย ผ่านกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความไว้วางใจและมั่นใจได้ในรถเข็นคุณภาพระดับพรีเมียมของไทย รถเข็น JUMBO ผลิตจากเหล็กเกรดสำหรับยานยนต์ แข็งแรงทนทาน รับน้ำหนักบรรทุกได้เต็มพิกัดโดยแผ่นพื้นไม่โก่งตัว เข็นคล่องเบาแรงและไม่เกิดรอยบนพื้นด้วยล้อคุณภาพสูง โดยส่งออกไปกว่า 30 ประเทศทั่วโลก เรามีแบบรถเข็นให้เลือกใช้งานมากมายตั้งแต่รถเข็นที่ใช้ในสำนักงานเล็กๆ ไปจนถึงรถเข็นอุตสาหกรรม เช่น แฮนด์ลิฟท์ รถลากพาเลท รถยกถังน้ำมัน โต๊ะยกปรับระดับ รถยกไฟฟ้า รถเข็นช้อปปิ้ง รถเข็นทำความสะอาด รถเข็นพลาสติก รถเข็นโรงพยาบาล รถเข็นฉีดยา พร้อมบริการรับสั่งทำรถเข็นสแตนเลสและรถเข็นเหล็กทุกรูปแบบตามความต้องการใช้งาน และอุ่นใจด้วยบริการหลังการขายแบบมืออาชีพ ที่ช่วยให้ทุกการจัดซื้อเป็นเรื่องง่าย ให้เจนสโตร์ทำงานแทนคุณ! ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) Tel : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
รถแฮนด์ลิฟท์ รถลากพาเลท หลากหลายประเภทเหมาะกับงานอะไรบ้าง?

เพิ่มประสิทธิภาพคลังสินค้า ด้วย รถแฮนด์ลิฟท์ รถลากพาเลท ถูกประเภท ในงานอุตสาหกรรมขนาดเบาและขนาดหนัก การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการเพิ่มความปลอดภัยในการทำงานเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมาก และเป็นเป้าหมายหลักในการทำงานของผู้ประกอบการที่ต้องการการทำงานที่ยอดเยี่ยม ราบรื่น โดยที่ไม่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างปฏิบัติงานหนึ่งในวิธีการที่เป็นปัจจัยที่สามารถทำได้ ก็คือการเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับการทำงาน ที่นอกจากจะช่วยทำให้การทำงานนั้นเป็นไปได้อย่างง่ายดาย สะดวกรวดเร็ว และยังทำให้พนักงานสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นการลงทุนที่เรียกได้ว่าคุ้มค่าอย่างแน่นอนในระยะยาวรถลากพาเลท หรือที่หลาย ๆ คนเรียกกันว่ารถแฮนด์ลิฟท์ (Hand Pallet Truck) คือหนึ่งในอุปกรณ์ยอดนิยมที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลาย โดยหลาย ๆ คนอาจจะคุ้นเคยกับการพบเจออุปกรณ์อำนวยความสะดวกประเภทนี้ ในร้านค้าขนาดใหญ่ ที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายสินค้า แต่จริง ๆ แล้ว ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลายในหลายอุตสาหกรรมในปัจจุบันรถยกลากเป็นอุปกรณ์ที่ถูกคิดค้นมาเพื่อการเคลื่อนย้ายพาเลทหรือวัตถุที่มีน้ำหนักมาก ๆ ด้วยการใช้ส่วนยาวของตัวรถที่เรียกว่างาในการตักช้อนของที่ต้องการเคลื่อนย้ายให้ลอยขึ้นจากพื้น แล้วลากหรือเคลื่อนย้ายวัตถุนั้นไปยังที่ต่าง ๆ ก่อนที่จะวางลง ซึ่งโดยปกติแล้ว จะสามารถรับการเคลื่อนย้ายวัตถุได้ระดับน้ำหนักเป็นตันเลยทีเดียว ส่วนประกอบที่สำคัญสำหรับรถลากพาเลท แม้จะมีผู้ผลิตหลายรายที่พัฒนารถแฮนด์ลิฟท์ขึ้นมาในท้องตลาด และแตกต่างกันไปตามฟังชั่นการใช้งานที่หลากหลาย แต่โดยพื้นฐานแล้ว รถยกลากจะมีอุปกรณ์ที่ไม่แตกต่างกัน และรถทุกคันจะต้องมีอุปกรณ์เหล่านี้ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน แต่ผู้ใช้งานสามารถเลือกเพิ่มเติมได้ตามความต้องการในการใช้งานอีกครั้ง A-Frame หรือโครงรูปตัวเอ ซึ่งเป็นพื้นฐานของรถลากพาเลท เป็นส่วนที่ใช้ในการติดตั้งปั๊มและเชื่อมต่อกับงา โดยจะเชื่อมต่อกับฐานที่เรียกว่า Torsion Tube เพื่อป้องกันการบิดตัวของงาอีกที ซึ่งถือเป็นโครงสร้างหลักของรถแฮนด์ลิฟท์ งา หรือ Push rod ที่ใช้ในการรองรับน้ำหนักของพาเลทหรือวัตถุที่ต้องการเคลื่อนย้าย โดยตรงสุดทางของงาจะเป็นตำแหน่งของ Forks หรือ ปลายงา ที่เป็นส่วนที่ไว้สอดช้อนตักพาเลทหรือวัตถุ ซึ่งเป็นส่วนที่ยื่นออกมานอกตัวรถมากที่สุด ปั๊มไฮดรอลิค มีหน้าที่เพิ่มแรงดันในการรับน้ำหนักและการยกให้สูงขึ้น ด้วยการโยกก้านสูบปั๊ม เพื่อเพิ่มแรงดันน้ำมันไฮดรอลิคจากการปั๊มนั่นเอง ซึ่งเป็นส่วนที่จะต้องได้รับการตรวจสอบดูแลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะส่วนของน้ำมันปั๊มว่ารั่วหรือไม่ Tow bar หรือ ก้านบังคับรถ ที่มักจะมีการติดตั้งไกรปลดเอาไว้ที่ด้าม จะทำหน้าที่ในการบังคับรถแฮนด์ลิฟท์ให้ทำงานได้ตามที่ต้องการ และยังเป็นจุดหมุนในการควบคุมทิศทางของรถร่วมกับชิ้นส่วนอื่น ๆ อีกด้วย ล้อต่าง ๆ ซึ่งปกติจะประกอบไปด้วย ล้อบังคับทิศทางขนาดใหญ่ ที่ติดตั้งที่ด้านหลังของรถลากพาเลท มีล้อรับน้ำหนักที่ติดตั้งอยู่ที่ปลายงา รวมถึงล้อปรับระดับ ที่สามารถปรับระดับสูงต่ำได้ตามความต้องการในการใช้งาน จะเห็นได้ว่า อุปกรณ์เหล่านี้คืออุปกรณ์พื้นฐานที่มีความจำเป็นต่อการเลือกใช้งาน Hand Pallet Truck นอกจากนี้ ผู้ใช้งานอาจจะเลือกติดตั้งอุปกรณ์หรือระบบอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกก็ได้ เพื่อความง่ายดายในการใช้งานให้เหมาะสมกับการใช้งานแต่ละประเภทนั่นเอง วิธีการเลือกซื้อรถลากพาเลท อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่ารถแฮนด์ลิฟท์ (Hand Pallet Truck) นั้นมีอยู่หลากหลายรูปแบบ และสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการในการใช้งาน ดังนั้น ก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อมาใช้งานนั้น ก็มีหลักการง่าย ๆ ที่จะต้องคำนึงถึงในการเลือกรถยกลากมาประจำการกับเขาสักคันและนี่คือสิ่งที่ต้องพิจารณากันให้ละเอียดก่อนที่จะเลือกรถลากพาเลทมาประจำการสักคัน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการใช้งานที่ราบรื่น และไม่ต้องเปลี่ยนกันปล่อย ๆ ในอนาคต การรองรับน้ำหนักของรถลากพาเลท เนื่องจากรถกลุ่มนี้เป็นรถที่ใช้งานในอุตสาหกรรมอยู่แล้ว ทำให้มีความสามารถในการรองรับน้ำหนักที่หลากหลายตั้งแต่ 2,000 กิโลกรัมขึ้นไปจนถึงมากกว่า 3.5 ตัน ผู้ใช้งานจะต้องคำนวณว่าจะต้องการใช้งานในระดับใด เพื่อให้สามารถเลือกได้ตามต้องการ ระบบควบคุมรถแฮนด์ลิฟท์ ในปัจจุบัน รถอุตสาหกรรมกลุ่มนี้มีให้เลือกใช้งานได้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่รถลากพาเลทแบบมาตรฐานที่ควบคุมทั้งหมดด้วยระบบแมนวลโดยผู้ใช้งาน รถแบบกึ่งไฟฟ้าหรือแม้แต่รถยกไฟฟ้าที่ใช้ระบบไฟฟ้าทั้งระบบ เพื่ออำนวยความสะดวกและช่วยประหยัดเวลา แต่ก็มีราคาแพงกว่า ซึ่งผู้ประกอบการก็ต้องเลือกให้เหมาะสม รายละเอียดของรถยกลาก โดยปกติแล้วสิ่งที่ผู้ซื้อรถลากพาเลทจะต้องคำนึงถึงก็คือการเลือกความกว้างของรถลากพาเลทให้ตรงกับความต้องการ ซึ่งโดยทั่วไปจะมีให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ รุ่นหน้ากว้าง 685 มิลลิเมตรและรุ่นหน้าแคบ 550 มิลลิเมตร นอกจากนี้ ก็จะมีการเลือกล้อให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น จะเลือกล้อยูรีเทน ที่มีความนุ่ม ยืดหยุ่น ให้ความเงียบขณะลาก หรือจะเลือกใช้ล้อไนล่อน ที่มีความทนทานต่อความชื้นและสารเคมีมากกว่า ก็จำเป็นที่จะต้องเลือกใช้งานตามความเหมาะสม วัสดุที่นำมาผลิตรถลากพาเลท แน่นอนว่าการใช้งานของรถแฮนด์ลิฟท์นั้นมีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป บางอุตสาหกรรมสามารถใช้งานรถที่เป็นเหล็กหรือสังกะสีได้เลย แต่หากต้องการรถยกลากที่กันสนิมและความชื้นได้ เช่น ในอุตสาหกรรมห้องเย็น ก็อาจจะต้องเลือกเป็นผิวสังกะสีเคลือบกัลวาไนซ์ หรือไม่ก็เลือกใช้แบบสแตนเลส ที่มีราคาสูงกว่าไปเลย เลือกบริษัทที่ได้มาตรฐาน ในปัจจุบัน รถลากพาเลทนั้นมีให้บริการอย่างหลากหลาย ทั้งการซื้อขาดและการให้เช่า ซึ่งผู้ใช้งานจำเป็นต้องเลือกผู้ประกอบการที่ได้มาตรฐาน สามารถดูแลได้ในระยะยาว หากมีการให้บริการซ่อมบำรุงอยู่ด้วย ก็จะทำให้การใช้งานรถแฮนด์ลิฟท์ของเราเป็นไปได้อย่างสะดวกและง่ายดาย ธุรกิจเดินหน้าได้อย่างไม่ติดขัด ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่ารถแฮนด์ลิฟท์ หรือ Hand Pallet Truck นั้น เป็นอุปกรณ์สำหรับงานอุตสาหกรรมที่มีความต้องการในการใช้งานอย่างแพร่หลาย และมีทางเลือกที่มากมายให้กับผู้บริโภคในการเลือกใช้งาน ทำให้ในปัจจุบัน มีผู้ประกอบการที่นำเสนอสินค้าเหล่านี้จำนวนมากในตลาด และก็เป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจจะต้องเลือกใช้บริการกันตามความต้องการใช้งาน ที่ เจนบรรเจิด เราคือผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถยกลาก รถลากพาเลท Hand Pallet Truck รถแฮนด์ลิฟท์ Jumbo เป็นรถยกลากพาเลท ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานทั้งในและต่างประเทศ ตลอดระยะเวลา 20 ปี รถแฮนด์ลิฟท์ Jumbo มีหลากหลายรุ่นให้เลือกตามการใช้งาน รถแฮนด์ลิฟท์ Jumbo ได้รับชื่อเสียงในด้านความแข็งแรง ทนทาน งารับน้ำหนักได้ตามสเปค มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า รถยกลากพาเลท ทั่วไปในท้องตลาด ได้รับความเชื่อถือจากผู้ใช้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อย่างกว้างขวางมากกว่า 20 ปี และอุ่นใจด้วยบริการหลังการขายแบบมืออาชีพ เข้าใจทุกความต้องของลูกค้าทุกรูปแบบธุรกิจ ที่ช่วยให้ทุกการจัดซื้อเป็นเรื่องง่าย ให้เจนสโตร์ทำงานแทนคุณ! ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) Tel : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
เพิ่มประสิทธิภาพคลังสินค้าและงานขนส่งโลจิสติกส์ด้วยอุปกรณ์เคลื่อนย้ายสินค้าที่เหมาะสม

ลดเวลา ลดแรง ลดต้นทุน ด้วย รถเข็น รถยก รถลาก ที่ตรงสเป็ค ทนทาน ใช้งานหนักได้จริง ระบบการจัดการด้านโลจิสติกส์ภายในโรงงาน คลังสินค้า หรือศูนย์กระจายสินค้า ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการดำเนินกิจกรรมของธุรกิจในปัจจุบัน และการสร้างโอกาสในการเติบโตให้กับธุรกิจในอนาคต ส่งผลให้ในปัจจุบันนี้จึงได้มีเทคโนโลยีต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมายเพื่อวัตถุประสงค์หลักในการช่วยให้การบริหารจัดการระบบรับ จัดเก็บ และการขนถ่ายวัสดุ (Materials Handling) ด้วยรถอุตสาหกรรมหนัก อย่างเช่น รถเข็นอุตสาหกรรม รถลากพาเลทรถยกไฟฟ้า และ รถแฮนด์ลิฟท์ (Hand Pallet Truck) เป็นไปได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ทันเวลา และมีต้นทุนในการดำเนินงานที่น้อยลงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อช่วยให้ระบบการจัดการคลังสินค้าและการขนถ่ายวัสดุเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการเลือกใช้งานรถเข็นอุตสาหกรรม รถลากพาเลท รถยกไฟฟ้า รถแฮนด์ลิฟท์ รวมไปถึงอุปกรณ์สำหรับยกสินค้าหรือเคลื่อนย้ายสินค้าอื่น ๆ ที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย จะเป็นสิ่งที่มีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจมากสักแค่ไหน แต่การให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อ เลือกใช้ รถเข็นอุตสาหกรรมหรือรถยกไฟฟ้าที่มีความเหมาะสมกับเนื้องาน และถูกผลิตขึ้นมาจากวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทาน และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ก็ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน เพราะการมีอุปกรณ์สำหรับยกหรือเคลื่อนย้ายสินค้าที่มีคุณภาพดีและสามารถนำมาใช้งานได้อย่างเหมาะสม จะช่วยให้การขนถ่ายวัสดุเป็นไปได้อย่างราบรื่นและเกิดประโยชน์ต่อธุรกิจมากที่สุด และนี่คือ 4 เหตุผลว่าทำไมการเลือกใช้งานรถเข็นอุตสาหกรรม รถลากพาเลท รถยกไฟฟ้า รถแฮนด์ลิฟท์ (Hand Pallet Truck) รวมถึงรถยกถังน้ำมัน ที่เหมาะสมทนทานจึงสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และช่วยให้การบริหารธุรกิจของคุณคุ้มค่าแก่การลงทุนมากยิ่งขึ้น ? ทำไมการเลือกใช้อุปกรณ์ขนถ่ายหรือเคลื่อนย้ายสินค้าที่เหมาะสมทนทานจึงสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจของคุณได้ ? 1.ช่วยลดต้นทุนในการขนถ่ายหรือเคลื่อนย้ายสินค้า การเลือกใช้งานรถเข็นอุตสาหกรรม รถลากพาเลท รวมไปถึงรถยกไฟฟ้าที่มีความทนทานและเหมาะสมกับเนื้องาน เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สามารถช่วยลดต้นทุนในด้านต่าง ๆ ให้กับธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยลดต้นทุนในด้านของการดูแลและการซ่อมบำรุงอุปกรณ์ การช่วยลดต้นทุนในด้านของแรงงานที่ถูกนำมาใช้เพื่อการช่วยควบคุมการทำงานของรถเข็นอุตสาหกรรมรถแฮนด์ลิฟท์ (Hand Pallet Truck) หรือรถยกถังน้ำมัน 200 ลิตร เป็นต้น ในการขนถ่ายหรือเคลื่อนย้ายสินค้า รวมไปถึงการช่วยลดต้นทุนในด้านของพื้นที่ในการจัดเก็บสินค้า ซึ่งแน่นอนว่ากลยุทธ์ในการลดต้นทุนในการขนถ่ายสินค้าและการจัดเก็บสินค้าดังกล่าวนี้ ก็นับได้ว่าเป็นหนึ่งในแนวทางการบริหารจัดการระบบคลังสินค้าและระบบโลจิสติกส์ที่หลาย ๆ ธุรกิจเริ่มหันมาให้ความสนใจมากยิ่งขึ้น เพราะถ้าหากยิ่งธุรกิจมีต้นทุนในการขนถ่ายหรือเคลื่อนย้ายสินค้าที่ต่ำลงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะช่วยทำให้ธุรกิจสามารถทำกำไร รวมถึงมีโอกาสที่จะเติบโตต่อเนื่องไปได้อย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้นในอนาคต 2.ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับพนักงาน และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง การเกิดอุบัติเหตุในระหว่างการทำงานเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องมีการทำงานร่วมกับเครื่องจักรหรือเครื่องกลขนาดใหญ่ รวมไปถึงการทำงานในสถานที่ที่มีรถลากพาเลท รถแฮนด์ลิฟท์ (Hand Pallet Truck) หรือรถยกถังน้ำมัน สัญจรไปมาอย่างแน่น เพราะฉะนั้นแล้วเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันในโรงงาน คลังสินค้า หรือศูนย์กระจายสินค้า ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของพนักงานทุกคนในระดับที่ประเมินค่าไม่ได้ เจ้าของธุรกิจจึงจำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญกับการดูแลและควบคุมให้พนักงานทุกคนปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ด้านความปลอดภัยในระหว่างการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด และนอกจากนี้เจ้าของธุรกิจทุกคนยังจำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญกับการปรับปรุงพื้นที่ในการปฏิบัติงานให้มีความปลอดภัย ผ่านการวางแผนและปรับปรุงระบบการทำงานให้มีความเป็นระเบียบและมีแบบแผนมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การกำหนดพื้นที่ในการจัดเก็บสินค้า และเส้นทางสำหรับการเดินรถแฮนด์ลิฟท์ (Hand Pallet Truck) รถเข็นอุตสาหกรรม หรือรถยกไฟฟ้าอย่างชัดเจน ร่วมกับการเลือกใช้งานรถเข็นอุตสาหกรรม รถลากพาเลท รถยกไฟฟ้า รถแฮนด์ลิฟท์ (Hand Pallet Truck) รวมถึงรถยกถังน้ำมัน ที่มีความแข็งแรง ทนทาน และได้รับการรับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัย เพื่อช่วยให้พนักงานทุกคนสามารถใช้งานรถเข็นอุตสาหกรรม รถลากพาเลท หรือรถยกไฟฟ้า เพื่อการขนถ่ายสินค้าหรือการเคลื่อนย้ายสินค้าได้อย่างปลอดภัยมากที่สุด 3.ช่วยให้การทำงานมีความสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ในการควบคุมระบบโลจิสติกส์ภายในคลังสินค้าหรือโกดังจัดเก็บสินค้าขนาดใหญ่ ความรวดเร็วในการขนถ่ายสินค้าหรือเคลื่อนย้ายสินค้าด้วยรถเข็นอุตสาหกรรม รถลากพาเลท หรือรถแฮนด์ลิฟท์ (Hand Pallet Truck) ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สามารถนำมาใช้เป็นตัวชี้วัดถึงโอกาสในการเติบโตและประสบความสำเร็จของธุรกิจได้ เพราะฉะนั้นแล้วการเลือกใช้งานรถเข็นอุตสาหกรรม รถลากพาเลท และรถยกไฟฟ้า ที่มีความเหมาะสมกับเนื้องาน รวมถึงมีความแข็งแรงทนทานที่มากเพียงพอที่จะสามารถขนถ่ายสินค้าที่มีขนาดใหญ่หรือมีน้ำหนักมากได้โดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่ออุปกรณ์ในระหว่างการใช้งาน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยให้การขนถ่ายหรือย้ายสินค้าเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และนอกจากนี้ เมื่อธุรกิจมีระบบการขนถ่ายหรือเคลื่อนย้ายสินค้าที่ดีมากขึ้นแล้วนั้น ก็จะส่งผลให้ธุรกิจสามารถวางแผนเพื่อการจัดเตรียมสินค้าต่าง ๆ มาตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างเท่าทันกับกระแส ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคเกิดความรู้สึกสนใจและอยากเลือกใช้บริการธุรกิจของคุณมากยิ่งขึ้น อีกทั้งการเลือกใช้งานรถเข็นอุตสาหกรรม รถลากพาเลท และรถแฮนด์ลิฟท์ (Hand Pallet Truck) ที่เหมาะสมทนทานยังช่วยให้ธุรกิจไม่ต้องสูญเสียเวลา พื้นที่ และแรงงานไปกับการควบคุมดูแลการขนถ่ายสินค้าภายในโรงงานและคลังสินค้าโดยไม่จำเป็นอีกด้วย 4.ช่วยป้องกันและลดความผิดพลาดในการทำงาน บ่อยครั้งที่ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในระหว่างการขนถ่ายหรือเคลื่อนย้ายสินค้ามักจะมีสาเหตุสำคัญมาจากการที่เจ้าของธุรกิจไม่ได้มีการเลือกใช้งานรถเข็นอุตสาหกรรม รถลากพาเลท รถยกไฟฟ้า รถแฮนด์ลิฟท์ (Hand Pallet Truck) และรถยกถังน้ำมัน 200 ลิตร ที่มีความเหมาะสมกับเนื้องาน รวมถึงมีการเลือกใช้งานรถเข็นอุตสาหกรรมหรือรถยกไฟฟ้าที่ไม่มีประสิทธิภาพมากเพียงพอที่จะสามารถขนถ่ายสินค้าที่มีขนาดใหญ่หรือมีน้ำหนักมาก จนอาจส่งผลให้สินค้าเกิดการแตกหักหรือเสียหายในระหว่างการขนย้ายได้ เพราะฉะนั้นแล้วการเลือกใช้งานรถเข็นอุตสาหกรรม รถลากพาเลท หรือรถยกไฟฟ้า ที่มีความแข็งแรง ทนทาน และมีรูปแบบที่เหมาะสมกับเนื้องาน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยป้องกันไม่ให้มีความผิดพลาดในการขนถ่ายหรือเคลื่อนย้ายวัสดุเกิดขึ้นจนทำให้การขนถ่ายหรือเคลื่อนย้ายสินค้าเกิดการล่าช้ากว่าที่กำหนด อีกทั้งยังเป็นการช่วยป้องกันไม่ให้ธุรกิจต้องสูญเสียผลประโยชน์และชื่อเสียงจากการทำงานที่ผิดพลาดจนส่งผลต่อความไว้วางใจของผู้บริโภคที่ลดน้อยลงได้ หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่กำลังมองหารถเข็นอุตสาหกรรม รถลากพาเลท รถยกไฟฟ้า รถแฮนด์ลิฟท์ (Hand Pallet Truck) รวมไปถึงรถยกถังน้ำมัน มาใช้งานเพื่อการขนถ่ายหรือเคลื่อนย้ายสินค้าภายในโรงงานหรือคลังสินค้าของคุณ เจนบรรเจิด เราคือผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์จัดเก็บ ยก ย้าย และเป็นผู้ผลิตรถเข็นคุณภาพชั้นนำแบรนด์ JUMBO ที่ได้รับสิทธิพิเศษในการใช้ "Thailand Trust Mark" ที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลไทย ผ่านกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความไว้วางใจและมั่นใจได้ในรถเข็นคุณภาพระดับพรีเมียมของไทย รถเข็น JUMBO ผลิตจากเหล็กเกรดสำหรับยานยนต์ แข็งแรงทนทาน รับน้ำหนักบรรทุกได้เต็มพิกัดโดยแผ่นพื้นไม่โก่งตัว เข็นคล่องเบาแรงและไม่เกิดรอยบนพื้นด้วยล้อคุณภาพสูง โดยส่งออกไปกว่า 30 ประเทศทั่วโลก โดยมีแบบรถเข็นให้เลือกใช้งานมากมาย เช่น รถเข็นอเนกประสงค์ รถเข็นพับได้ รถเข็นสแตนเลส รถเข็น 2 ล้อ รถเข็นไต่บันได ดอลลี่ แฮนด์ลิฟท์ รถลากพาเลท รถยกถังน้ำมัน โต๊ะยกปรับระดับ รถยกไฟฟ้า รถเข็นช้อปปิ้ง รถเข็นทำความสะอาด รถเข็นแม่บ้าน รถเข็นเก็บจาน รถเข็นโรงแรม รถเข็นสำหรับงานแพทย์ รถเข็นฉีดยา พร้อมบริการรับสั่งทำรถเข็นสแตนเลสและรถเข็นเหล็กทุกรูปแบบตามความต้องการใช้งาน ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) Tel : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
รถเข็นพื้นพลาสติก รถเข็นพื้นเหล็ก รถเข็นพื้นสแตนเลส เลือกให้ธุรกิจยังไงดี

ต้องรู้ก่อนจัดซื้อรถเข็นสำหรับงานคลังสินค้า งานขนส่ง งานอุตสาหกรรม ถ้าพูดถึงเรื่องการเลือกรถเข็นสำหรับ เคลื่อนย้าย ขนของ มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกซื้อมาก ๆ แต่วันนี้ เจนบรรเจิด มาพร้อมกับความรู้ในการเลือกซื้อรถเข็น เพื่อให้คุ้มค่าและใช้ได้นานมากที่สุด หลายคนคงสงสัยเวลาต้องเลือกซื้อแบบไหน ถึงจะเข็นลื่นแบบคนอื่นเขา จริง ๆ แล้ว รถเข็นของมีพื้นให้เลือก 3 แบบ พื้นพลาสติก พื้นเหล็ก พื้นสแตนเลส ซึ่งพื้นแบบไหนจะตอบโจทย์คุณที่สุดเรามาดูกัน ประโยชน์ของรถเข็น ต้องยอมรับก่อนว่า ปัจจุบันรถเข็นของถูกผลิตออกมาให้เลือกหลากหลายรูปแบบ แต่ข้อมูลความรู้ยังถูกกระจายไม่ทั่วถึง คนส่วนใหญ่เลือกซื้อ ด้วยปัจจัยราคา เลือกซื้อเพราะราคาถูก ด้วยความคิดที่ว่า “แค่เอามาเข็นของ” แต่ลืมนึกถึงผลกระทบต่าง ๆ หรือการใช้งานระยะยาว แต่อย่างไรก็ดีประโยชน์ของรถเข็นที่นอกเหนือจากการทุ่นแรงยังมีอีกมากมายดังต่อไปนี้ ลดเวลาในการขนย้ายการเลือกใช้รถเข็น คือ สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้ประหยัดเวลาในการขนย้ายสิ่งของที่มีน้ำหนัก และในปริมาณที่เยอะนั้นสามารถทำได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ประหยัดเวลา ช่วยรักษาสุขภาพของผู้ใช้งานอย่างที่หลายๆ คนทราบกันดีว่ารถเข็นนั้นช่วยขนย้ายของที่มีน้ำหนักมาก ได้ดีกว่าออกแรกยก ซึ่งการออกแรกยกของหนักๆ อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้โดยไม่รู้ตัว เช่น เป็นโรคกระดูกทับเส้น หรือในบางกรณีอาจเกิดอุบัติเหตุในระหว่างขนย้ายของได้อีกด้วย ช่วยรักษาสิ่งองในขณะขนย้ายสิ่งหนึ่งที่รถเข็นช่วยได้เป็นอย่างดี คือ ช่วยรักษาสิ่งของที่ต้องการย้ายให้คงสภาพเดิม ยิ่งเป็นของที่มีน้ำหนักมาก การนำมาวางบนรถเข็นจะช่วยให้ของนั้นไม่หล่น หรือเสียหาย เนื่องจากรถเข็นส่วนใหญ่มีความแข็งแรงทนทาน รับน้ำหนักได้ดี หรือในบางกรณีผู้ใช้งานเลือกใช้รถเข็นแบบพับได้ ก็ทำให้สะดวกต่อการพกพาอีกด้วย และทั้ง 3 ข้อนี้เป็นเพียงข้อมูลของประโยชน์เบื้องต้นก่อนเลือกซื้อเท่านั้น ซึ่งเคล็ดลับในการเลือกซื้อรถเข็น ส่วนหนึ่งที่ห้ามละเลย คือ เพื่อการซื้อที่ตอบโจทย์ความต้องการ คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปมากที่สุด โดยการเลือกรถเข็นควรพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ 1. สิ่งของที่ต้องการวางบนรถเข็น คุณต้องทบทวนและแน่ชัดก่อนเลือกซื้อ เช่น ใช้วางอาหาร วางของใช้ หรือการขนย้ายในคลังสินค้า มีขนาดใหญ่ เล็กเพียงใด และต้องการใช้จำนวนมากน้อยแค่ไหน ซึ่งการทบทวนจุดประสงค์ คือสิ่งแรกที่เลือก เพราะจะนำมาสู่ขั้นตอนการเลือกพื้นของรถเข็น เช่น รถเข็นสเเตนเลส รถเข็นเหล็ก รถเข็นพลาสติก ซึ่งวัสดุที่แตกต่างกัน มีข้อดีที่ต่างกันออกไป 1.1 รถเข็นพื้นสแตนเลส เหมาะกับงานที่ต้องใช้งานบนความชื้น นิยมใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและยา ซึ่งวัสดุสแตนเลสนั้น ต้องเป็นสแตนเลสเกรด 304 เท่านั้น ไม่เป็นสนิม หากใช้เกรดอื่น อาหารและยาจะมีโอกาสถูกสารเคมีหรือสนิมจากรถเข็นปนเปื้อนได้ ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลให้ต้องเลือกใช้รถเข็นวัสดุสแตนเลส เกรด 304 และไม่เน้นการเคลื่อนที่แบบสมบุกสมบัน เพราะเสี่ยงบุบได้ง่าย ควรใช้ในสถานที่ดังนี้คือ โรงพยาบาล โรงแรม โรงงานแปรรูปอาหาร เป็นต้นตัวอย่างรถเข็นพื้นสแตนเลส พร้อมขอบกันตก มือจับข้างเดียวพับไม่ได้ รุ่น 500 กิโลกรัม ST1-7011T เหมาะกับงานบริการที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีหรือความเปียกชื้น แผ่นพื้นและมือจับผลิตจากสแตนเลส ทำความสะอาดง่าย ไม่เป็นสนิม แข็งแรง รับน้ำหนักได้ดี มีขอบยาง ลดแรงกระแทก พร้อมขอบกันตก ช่วยป้องกันสิ่งของตกหล่น ขอบกั้นสูง 110 มม. ล้อ PU คุณภาพสูงจากต่างประเทศ เข็นได้คล่องแม้รับน้ำหนักเต็มพิกัด 1.2 รถเข็นพื้นพลาสติกโพลิเมอร์ ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะเด่นเรื่องของความยืดหยุ่น และมีน้ำหนักเบา ราคาไม่แรงใช้งานได้หลากหลาย เหมาะสำหรับ ผู้ใช้งานที่ไม่อยากออกแรงขนย้ายรถเข็นแบบมีน้ำหนัก ตัวอย่างรถเข็นพื้นพลาสติกชั้นเดียว มือจับข้างเดียวพับได้ 250 กิโลกรัม BP-210J แผ่นพื้นพลาสติกเกรดเอฉีดขึ้นรูปมีลายกันลื่น น้ำหนักเบา แข็งแรง แผ่นพื้นเจาะรูสำหรับมือหิ้วได้ มีจุกยาง 4 จุด กันลื่น เหมาะสำหรับงานที่สัมผัสความชื้น และทนต่อสารเคมี กรดด่าง มือจับผลิตจากสแตนเลส คุณภาพดี แข็งแรง ไม่เป็นสนิม มือจับพับเก็บได้ เมื่อไม่ใช้งาน ล้อ PU คุณภาพสูงจากต่างประเทศ เข็นได้คล่องแม้รับน้ำหนักเต็มพิกัด 1.3 รถเข็นพื้นเหล็ก เป็นวัสดุที่ขึ้นชื่อเรื่องของความแข็งแรงทนทาน มีความยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนรูปทรงได้ดี จึงนิยมนำมาเป็นวัสดุประกอบในการผลิต ที่สำคัญ เหล็กกล้าเป็นวัสดุที่ไร้สนิม แถมยังคงทนต่อการกัดกร่อนของสารเคมีอีกด้วย ตัวอย่างรถเข็นพื้นเหล็กแบบ มือจับข้างเดียวพับได้ ล้อ PU HB-210J ตัวรถพ่นด้วยสีฝุ่นอะคริลิกชนิด HYRRID อบความร้อนที่อุณหภูมิ 200 องศา จึงทนต่อการขีดข่วนได้ดี แผ่นพื้นเสริมคานเหล็กคู่ รองรับน้ำหนักครอบคลุมทุกจุด แผ่นพื้นแข็งแรง ทนทาน ปูทับด้วยแผ่นพีวีซีกันลื่น คุณภาพดี มีขอบยางกันชนป้องกันการกระแทก แผ่นเหล็กหนากว่าทั่วไปในท้องตลาด มือจับจึงไม่โยก ไม่คลอน แบบชั้นเดียว มือจับข้างเดียวพับได้ ล้อ PU คุณภาพสูงจากต่างประเทศ เข็นคล่อง เบาแรง ไม่ทำให้เกิดรอยบนพื้น สามารถติดอุปกรณ์เสริมชุดเบรกเท้าได้ 2. น้ำหนักของสิ่งที่ต้องใช้เข็น ต้องคำนึงให้สมเหตุสมผลกับความสามารถของรถเข็น ควรตรวจเช็กให้แน่ใจก่อนซื้อว่ารถเข็นที่คุณเลือกสามารถรับน้ำหนักได้ตามคุณสมบัติที่โฆษณาไว้จริง ๆ และน้ำหนักที่รองรับได้นั้นต้องเป็นน้ำหนักที่สามารถเคลื่อนที่ได้เช่นกัน 3.คำนึงถึงสถานที่ พื้นที่การใช้งาน พื้นที่ขรุขระ ควรเลือกล้อให้เหมาะสมกับงาน เช่น การใช้งานในอาคาร : ควรเลือกล้อที่ให้ความสมูทในการเคลื่อนที่ การใช้งานนอกอาคาร : ควรเลือกใช้ล้อที่มีความยืดหยุ่นรองรับแรงกระแทกได้ดี เพื่อให้ตัวล้อเลื่อนได้รับความเสียหาย 4.ระยะทางที่ใช้เป็นประจำ เพราะเป็นหนึ่งปัจจัยในการเลือกรถเข็น เนื่องจากรถเข็นถูกออกแบบมาหลายฟังก์ชันมีตั้งแต่ 2 ล้อ ไปจนถึง 6 ล้อ ขึ้นอยู่กับระยะทางในการใช้งาน และยังมีให้เลือก ทั้งแบบล้อหมุนทั้งหมด หรือล้อตาย และสามารถใส่อุปกรณ์เสริม ชุดเบรกเท้า แต่ถ้าหากคุณไม่แน่ใจแนะนำให้ปรึกษาผู้ขายที่มีความชำนาญก่อนตัดสินใจ 5.ความถี่ในการใช้งาน นอกจากดูความถี่แล้วต้องคำนึงถึงผู้ใช้งาน เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เพราะน้ำหนักของรถเข็นก็มีผลต่อการใช้งาน ต้องพิจารณาถึงความแข็งแรง และขนาดล้อรถเข็น เพื่อให้เหมาะกับผู้ใช้งานและอำนวยความสะดวกมากกว่าการสร้างภาระเคลื่อนย้าย หากพูดถึงการตัดสินใจจริง ๆ ยังมีปัจจัยอีกมากมายที่คุณควรถามจากผู้เชี่ยวชาญก่อนเลือกซื้อ และที่สำคัญนอกจากวัสดุที่ใช้ผลิตแล้ว แบรนด์ ยี่ห้อ ความน่าเชื่อถือ ก็มีส่วนในการประกอบการตัดสินใจ หากคุณเป็นผู้ประกอบการที่ต้องการรถเข็นคุณพภาพ คุ้มค่ากับการใช้งาน บริษัท เจนบรรเจิด จำกัด เราคือผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์จัดเก็บ ยก ย้าย ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2527 เป็นผู้ผลิตรถเข็นคุณภาพชั้นนำแบรนด์ JUMBO ที่ได้รับสิทธิพิเศษในการใช้ "Thailand Trust Mark" ได้รับการรับรองจากรัฐบาลไทย ผ่านกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความไว้วางใจและมั่นใจได้ในรถเข็นคุณภาพระดับพรีเมียมของไทย รถเข็น JUMBO ผลิตจากเหล็กเกรดสำหรับยานยนต์ แข็งแรงทนทาน รับน้ำหนักบรรทุกได้เต็มพิกัดตามสเปคที่ระบุไว้ในแต่ละรุ่น เข็นคล่องเบาแรงและไม่เกิดรอยบนพื้นด้วยล้อคุณภาพสูง ออกแบบมาสำหรับการใช้งานหนักและอายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยส่งออกไปกว่า 30 ประเทศทั่วโลก มีแบบรถเข็นให้เลือกใช้งานมากมาย เช่น รถเข็นอเนกประสงค์ รถเข็นพับได้ รถเข็นสแตนเลส รถเข็น 2 ล้อ รถเข็นไต่บันได ดอลลี่ แฮนด์ลิฟท์ รถลากพาเลท รถยกถังน้ำมัน โต๊ะยกปรับระดับ รถยกไฟฟ้า รถเข็นช้อปปิ้ง รถเข็นทำความสะอาด รถเข็นแม่บ้าน รถเข็นเก็บจาน รถเข็นโรงแรม รถเข็นสำหรับงานแพทย์ รถเข็นฉีดยา พร้อมบริการรับสั่งทำรถเข็นสแตนเลสและรถเข็นเหล็กทุกรูปแบบตามความต้องการใช้งานของคุณ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) Tel : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
รู้จักเทคโนโลยีเม็ดพลาสติกคุณภาพสูงในการผลิตกล่องพลาสติก

นวัตกรรมเม็ดพลาสติกผลิตกล่องพลาสติก ลังพลาสติก และลังอเนกประสงค์ยุคใหม่ที่ใช้น้อยแต่ได้มาก ในยุคปัจจุบันคงไม่สามารถปฎิเสธได้ว่าบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกมีความสำคัญทั้งในการดำรงชีวิตและการดำเนินธุรกิจ หากเรามองกลับไปพลาสติกแทบจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา โดยเฉพาะใช้ในการจัดเก็บสิ่งของ ไม่ว่าจะเป็น กล่องพลาสติก ลังพลาสติก หรือลังอเนกประสงค์ต่างๆ ด้วยคุณสมบัติของพลาสติกที่มีหลากหลายขนาดให้เลือกใช้ เบา แข็งแรง ทนต่อสภาพอากาศ จึงทำให้กล่องพลาสติกเป็นที่นิยมเพื่อใช้จัดเก็บสิ่งของให้เป็นระเบียบเรียบร้อย หรือใช้ในการบรรจุสิ่งของหรือสินค้าเพื่อยกย้ายไปยังสถานที่ต่างๆ ที่ต้องการทั้งในภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ หลายคนอาจคุ้นเคยกับบรรจุภัณฑ์ กล่องพลาสติก ลังพลาสติก และลังอเนกประสงค์ แต่รู้หรือไม่ว่าถึงแม้ว่าลักษณะภายนอกจะคล้ายกันแต่มีคุณสมบัติบางประการที่แตกต่างกันซึ่งส่งผลต่อรูปแบบของการใช้งานที่แตกต่างกันออกไปด้วยกล่องพลาสติก ลักษณะภายนอกมีทั้งแบบใส แบบทึบ และมีสี ส่วนใหญ่จะเป็นทรงสี่เหลี่ยม มีฝาปิด ตัวกล่องมักมีที่ล็อกฝา 2 ข้าง มีทั้งแบบติดล้อเลื่อนเพื่อใช้ให้เคลื่อนย้ายสะดวก และไม่มีล้อเลื่อน เหมาะสำหรับใช้ขนย้ายสินค้า หรือเพื่อจัดเก็บสินค้าให้เป็นระเบียบ หรือแยกเป็นหมวดหมู่ เช่น สี ประเภทของอุปกรณ์ หากกล่องพลาสติกมีสีใสมองเห็นสินค้าด้านในได้ จะนิยมใช้เก็บสินค้าที่ต้องการใช้บ่อยเพื่อความสะดวกในการหยิบใช้งาน สามารถวางซ้อนกันได้ในสินค้าที่ไม่ได้มีน้ำหนักมาก ลังพลาสติก และลังอเนกประสงค์ ลักษณะภายนอกมีทั้งแบบใส แบบทึบ แบบโปร่ง และมีสี มีทั้งแบบมีฝาปิดและไม่มีฝาปิดใช้งานได้หลากหลายแบบขึ้นอยู่กับลักษณะของลัง เช่น ลังพลาสติกแบบใสเหมาะกับการเก็บสินค้าหรือวัสดุต่างๆ ที่ไม่มีบรรจุภัณฑ์ หยิบใช้งานบ่อย ลังแบบทึบและมีฝาปิดมักใช้เก็บสินค้า วัสดุ หรืออุปกรณ์ ที่ไม่ได้ใช้งานบ่อย ใช้ป้องกันฝุ่น แมลง และปลวกได้ บางแบบสามารถเปิดหยิบสินค้าได้จากด้านในเพราะมีฝาเปิดด้านข้างแม้เรียงซ้อนกันหลายๆ ชั้น บางแบบเป็นแบบโปร่งมีรูระบายรอบด้าน นิยมใส่ผัก ผลไม้ หรือพืชพันธุ์ทางการเกษตร ช่วยลดการช้ำของผักและผลไม้ หรือบางแบบมีสีต่างกันในใบเดียวสะดวกในการจัดหมวดหมู่สินค้า หรือตรวจสอบสินค้า แต่คุณสมบัติส่วนใหญ่แล้วลังพลาสติกจะสามารถปกป้องสินค้าภายในได้ดี เคลื่อนย้ายสะดวก รองรับแรงกระแทกได้ดี ประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บเพราะสามารถซ้อนกันได้ ด้วยประโยชน์อันหลากหลาย และด้วยคุณสมบัติที่เหมาะแก่การใช้งานทำให้อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กล่องพลาสติก ลังพลาสติก และลังอเนกประสงค์ จึงมีอัตราการเติบโตที่สูง ตามปริมาณความต้องการของผู้ใช้งาน จึงมีการพัฒนาเทคโนโลยีในการผลิตกล่องพลาสติกเพื่อเพิ่มคุณภาพสินค้าให้มีความโดดเด่นและตอบโจทย์การใช้งานแต่ละประเภทได้อย่างเหมาะสม เทคโนโลยีเม็ดพลาสติกคุณภาพสูงที่ใช้ผลิตกล่องพลาสติก ลังพลาสติก และลังอเนกประสงค์ จุดกำเนิดของกล่องพลาสติก ลังพลาสติก และลังอเนกประสงค์ วัตถุดิบหลักในการผลิตกล่องพลาสติก ลังพลาสติก และลังอเนกประสงค์ คือ เม็ดพลาสติก โดยมีแหล่งกำเนิดจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นปลายที่ทำให้ได้สารประกอบไฮโดรคาร์บอน หลังจากนั้นจึงนำสารไฮโดรคาร์บอนเข้าสู่กระบวนการแยกสลายให้ได้สารประกอบขนาดเล็ก เช่น Ethylene, Propylene แล้วนำมาทำปฏิกิริยาจนได้เป็นสายโซ่ยาว เรียกว่า โพลิเมอร์ ซึ่งจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันตามวัตถุตั้งต้น เช่น ความเหนียว ความทนทาน แข็งแรง น้ำหนักเบา หลังจากนั้นโพลิเมอร์จะถูกนำไปขึ้นรูปเป็นเม็ดพลาสติก เช่น เม็ดพลาสติกโพลีเอทิลีน (PE) แล้วจึงนำเม็ดพลาสติกไปหลอมและไปขึ้นรูปบรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆ ด้วยวัตถุตั้งต้นที่แตกต่างกันของเม็ดพลาสติกทำให้ประเภทของเม็ดพลาสติกมีหลากหลายประเภทแต่ที่มีจำหน่ายในท้องตลาดมีประมาณ 140 ชนิด แต่เม็ดพลาสติกที่นิยมนำมาใช้ผลิตกล่องพลาสติก ลังพลาสติก และลังอเนกประสงค์ มีด้วยกัน 2 ชนิด Polyethylene (PE) ซึ่งในกลุ่มนี้จะมีการแบ่งเม็ดพลาสติกออกอีกเป็น 4 ประเภทคือ LDPE LLDPE HDPE และ MDPE คุณสมบัติของเม็ดพลาสติกชนิดนี้จะมีความทนทานต่อความร้อน-เย็นได้ดี มีความยืดหยุ่นสูง แข็งแรง ทนต่อสารเคมี ไม่แตกหักง่าย ไอน้ำสามารถซึมผ่านได้เล็กน้อยและอากาศสามารถผ่านเข้า-ออกได้ และเป็นเม็ดพลาสติกที่นิยมนำมาใช้กันมากที่สุด Polypropylene (PP) เป็นเม็ดพลาสติกที่มีความแข็งแรงและทนทานกว่าเม็ดพลาสติกประเภท PE และยังทนทานต่อไขมัน และทนความร้อนได้สูง ทนต่อสารเคมี ทนต่อแรงกระแทกได้ดี และไอน้ำซึมผ่านได้เล็กน้อย เป็นเม็ดพลาสติกที่นิยมนำมาทำบรรจุภัณฑ์พลาสติกมากที่สุด ด้วยวิวัฒนาการและเทคโนโลยีทำให้อุตสาหกรรมด้านการผลิตกล่องพลาสติก ลังพลาสติก และลังอเนกประสงค์ ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการการใช้งาน บริบทและบทบาทที่เปลี่ยนแปลงไปของสังคม เศษฐกิจ และทรัพยากรธรรมชาติ จึงมีการพัฒนาเม็ดพลาสติกให้มีคุณภาพสูงเพื่อให้ได้กล่องพลาสติก ลังพลาสติก และลังอเนกประสงค์ที่มีคุณสมบัติที่ดีกว่าเดิม แต่ในขณะเดียวกันก็ลดความสิ้นเปลืองในกระบวนการผลิต ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มีการค้นหาโซลูชั่นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการ จึงค้นพบวิธีการผลิตกล่องพลาสติก ลังพลาสติก และลังอเนกประสงค์ ที่มีประสิทธิภาพตามที่ต้องการ โดยในแต่ละครั้งใช้ปริมาณเม็ดพลาสติกในการผลิตน้อยลงกว่าการผลิตพลาสติกในรุ่นเก่า ซึ่งหมายความว่า ถ้าใช้ปริมาณวัตถุดิบในการผลิตที่น้อยลง พลังงานที่ใช้ในกระบวนการผลิตก็น้อยลง แต่ได้คุณสมบัติของพลาสติกที่ดีมากกว่าเดิม แถมยังได้พลาสติกที่มีน้ำหนักเบาลง ทำให้สะดวกในการขนส่งเพิ่มขึ้นอีกด้วย คุณสมบัติที่โดดเด่นของเม็ดพลาสติกคุณภาพสูง บรรจุภัณฑ์มีความหนาลดลง แต่แข็งแรงมากขึ้น มีความเหนียว ทนทาน ทนต่อแรงกด ทนต่อการเสียรูป ทนต่อการตกกระแทก ทนต่ออุณหภูมิต่ำ ทนต่อสารเคมี ไม่มีกลิ่นฉุน ช่วยเพิ่มจำนวนในการขนส่งได้มากขึ้น เพราะบรรจุภัณฑ์มีน้ำหนักที่เบาลง ด้วยคุณสมบัติพิเศษของเม็ดพลาสติกคุณภาพสูง ช่วยลดปริมาณการใช้เม็ดพลาสติกในการผลิตกล่องพลาสติก ลังพลาสติก และลังอเนกประสงค์ จึงลดการสิ้นเปลืองของพลังงานในกระบวนการผลิต และยังใช้เวลาในการผลิตที่สั้นลง ช่วยเพิ่มจำนวนการผลิตบรรจุภัณฑ์ได้มากขึ้น ด้วยความรวดเร็วในการไหลตัว และ การเซ็ทตัว ส่งผลให้สามารถผลิตสินค้าได้มากขึ้นแต่ใช้เวลาเท่าเดิม กล่องพลาสติก ลังพลาสติก และลังอเนกประสงค์ บรรจุภัณฑ์ยุคใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกเหนือจากคุณสมบัติพิเศษที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานแล้ว อุตสาหกรรมผลิตกล่องพลาสติก ลังพลาสติก และลังอเนกประสงค์ ยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในภาคธุรกิจด้วยบริบทของสังคมที่เปลี่ยนแปลงที่ตระหนักถึงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ภาคธุรกิจจึงต้องค้นหานวัตกรรมเพื่อนำมาพัฒนาเทคโนโลยีเม็ดพลาสติกคุณภาพสูงให้ปลอดภัยต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเริ่มตั้งแต่กระบวนการผลิตโดยเปลี่ยนพลาสติกใช้แล้วที่ยากต่อการรีไซเคิลมาเป็นวัตถุดิบตั้งต้น นำกลับมาผลิตเป็นเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง ที่มีคุณสมบัติและคุณภาพเทียบเท่ากับเม็ดพลาสติกใหม่ หรือเพิ่มความสามารถในการนำกลับมาใช้ซ้ำ หรือพัฒนาพลาสติกที่สามารถรีไซเคิลได้อยู่แล้ว ให้สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้อีกโดยที่คุณสมบัติของพลาสติกไม่ลดลง จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีเม็ดพลาสติกคุณภาพสูงที่ใช้ในการผลิตกล่องพลาสติก ลังพลาสติก และลังอเนกประสงค์ ช่วยพัฒนาให้บรรจุภัณฑ์มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการทุกรูปแบบในการใช้งานในแต่ละอุตสาหกรรมโดยแต่ละอุตสาหกรรมเองก็ต้องเลือกรูปแบบกล่องพลาสติก ลังพลาสติก และลังอเนกประสงค์ ให้ถูกต้องกับลักษณะงานที่ต้องการใช้งานเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุดบริษัท เจนบรรเจิด จำกัด สามารถให้คำแนะนำสำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องการใช้กล่องพลาสติก ลังพลาสติก และลังอเนกประสงค์ เพื่อการจัดเก็บสินค้า หรือการขนย้าย ด้วยเราเป็นผู้นำด้านการผลิต จำหน่ายและส่งออกอุปกรณ์จัดเก็บยกย้ายแบบครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ การติดตั้ง ไปจนถึงบริการหลังการขาย ด้วยประสบการณ์การให้บริการมากกว่า 3 ทศวรรษจึงเป็นการการันตีได้ถึงความเชี่ยวชาญ สามารถค้นหาหรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่เว็บไซต์ Jenstore.com หรือสามารถติดต่อสอบถามได้ตามช่องทางด้านล่าง ทีมขายมืออาชีพของเจนสโตร์พร้อมให้คำแนะนำการเลือกใช้สินค้าที่ตอบทุกโจทย์การใช้งานของคุณ หากธุรกิจของคุณต้องการอุปกรณ์จัดเก็บ ยก ย้าย สินค้าอุตสาหกรรม สำหรับทุกธุรกิจ และงานคลังสินค้า อาทิเช่นกล่องพลาสติก ลังพลาสติก และลังอเนกประสงค์ ถังพลาสติก พาเลทพลาสติก ชั้นเก็บของ ชั้นวางของเหล็ก ชั้นวางสินค้า และชั้นวางของอเนกประสงค์ที่มีคุณภาพ รับน้ำหนักได้จริงตามพิกัด ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน มีให้เลือกหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ให้นึกถึงเรา JenStore by เจนบรรเจิด ผู้ช่วยที่ทำให้ทุกการจัดซื้อเป็นเรื่องง่าย ! ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) Tel : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
5 รุ่นรถเข็นแม่บ้านยอดนิยมสำหรับธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท

รถเข็นแม่บ้านยอดนิยม รุ่นไหนดี คุ้มค่าแก่การลงทุน สำหรับธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท มีวิธีการมากมายที่จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทสามารถสร้างความประทับใจเมื่อแรกพบ หรือ First Impression ให้กับลูกค้าที่มาเข้ารับบริการภายในโรงแรมรีสอร์ทของตนเองได้ ไม่ว่าจะเป็นการกล่าวคำทักทายลูกค้าด้วยรอยยิ้ม การช่วยอำนวยความสะดวกตั้งแต่เรื่องของการขนย้ายสัมภาระ การเรียกรถ การแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว หรือการแนะนำร้านอาหารต่าง ๆ รวมไปถึงการจัดเตรียมเครื่องดื่มต้อนรับเย็น ๆ (Welcome Drink) มาช่วยเติมความสดชื่นให้กับลูกค้าหลังจากการเดินทาง และที่สำคัญที่สุดนั้น คือ การให้ความสำคัญกับการดูแลสภาพแวดล้อมโดยรอบบริเวณโรงแรมและห้องพักให้มีความสะอาดเรียบร้อยอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นแล้วพนักงานในแผนกแม่บ้าน (Housekeeping Department) ภายในโรงแรมและรีสอร์ททุกคน จึงถือได้ว่าเป็นพนักงานด่านหน้าที่เป็นตัวแปรที่สำคัญที่สุดในการช่วยสร้างความประทับใจแรกพบที่จะสามารถดึงดูดให้ลูกค้าตัดสินใจกลับมาใช้บริการที่โรงแรมหรือรีสอร์ทของคุณอีกครั้ง ดังนั้นแล้วจึงเป็นหน้าที่สำคัญของเจ้าของธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ททุกคนที่จำเป็นจะต้องคอยจัดเตรียมรถเข็นแม่บ้าน รถเข็นทำความสะอาด และอุปกรณ์ทำความสะอาดอื่น ๆ ที่มีคุณภาพมาให้พนักงานในแผนกแม่บ้านได้นำมาใช้งาน เพื่อให้งานทำความสะอาดของแผนกแม่บ้านเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและคงเอาไว้ซึ่งมาตรฐานในการดำเนินงานที่ดีเสมอ วันนี้เจนบรรเจิดจึงได้ทำการรวบรวมมาให้แล้วกับ 5 รุ่นรถเข็นแม่บ้านยอดนิยมสำหรับธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทที่จะมาช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน และช่วยให้การ “จัด เก็บ ยก ย้าย” เพื่อการทำความสะอาดห้องพักและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในโรงแรมและรีสอร์ทเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้มากที่สุด รีวิว รถเข็นแม่บ้าน 5 รุ่นยอดนิยม สำหรับธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท 1. รถเข็นแม่บ้าน JUMBO รุ่น SWT-069          มาเริ่มต้นกันที่รถเข็นแม่บ้านคันแรกกับรถเข็นทำความสะอาดจากแบรนด์ JUMBO รุ่น SWT-0695 ซึ่งถือได้ว่าเป็นรถเข็นแม่บ้านที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดารถเข็นแม่บ้านสเตนเลสทั้งหมดที่เราหยิบยกขึ้นมาแนะนำทุกคนในวันนี้ ด้วยความยาว ความกว้าง และความ สูงของตัวรถเข็นแม่บ้านที่มีขนาดเพียงแค่ 95 x 66.5 x 86 เซนติเมตรเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่ารถเข็นทำความสะอาดรุ่นนี้จะมีความเล็กแต่ขอรับรองเลยว่าคุณภาพนั้นไม่เล็กตามไปด้วยอย่างแน่นอน เพราะโครงสร้างของรถเข็นสเตนเลสรุ่นนี้นั้นถูกผลิตขึ้นมาจากสเตนเลสเกรด 304 ที่มีความหนาถึง 1.2 มิลลิเมตร จึงทำให้ตัวโครงสร้างของรถเข็นแม่บ้านมีความเหนียว แข็งแรง และสามารถทนทานต่อความร้อนและการกัดกร่อนได้เป็นอย่างดี         และนอกจากนี้ ด้วยรูปแบบของรถเข็นแม่บ้านที่ถูกออกแบบมาให้เป็นแบบฝาเปิดเข้าหากันได้ทั้ง 2 ฝั่งนั้น สามารถช่วยเพิ่มพื้นที่และความสามารถในการบรรทุกของให้กับรถเข็นแม่บ้าน JUMBO รุ่น SWT-0695 ได้มากถึง 400 กิโลกรัม ส่งผลให้รถเข็นแม่บ้าน JUMBO รุ่น SWT-0695 จึงเป็นรถเข็นแม่บ้านที่เหมาะสำหรับการนำมาใช้งานเพื่อเป็นรถเข็นผ้า หรือรถเข็นเก็บผ้า (Laundry Cart) ที่ยังไม่ได้ซักรีด อย่างเช่น ชุดผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน หรือผ้าเช็ดตัวของแขกที่เข้าพักภายในโรงแรมและรีสอร์ทได้เป็นอย่างดี รวมถึงสามารถนำมาใช้งานสำหรับการช่วยขนย้ายถุงขยะต่าง ๆ ได้ดีไม่แพ้กัน อีกทั้งตัวล้อรถเข็นทำความสะอาดยังเป็นล้อ PU คุณภาพสูงจากต่างประเทศ ที่เป็นล้อเป็น 2 ล้อและล้อตาย 2 ล้อ จึงทำให้แม่บ้านและพนักงานทำความสะอาดทุกคนสามารถใช้งานรถเข็นแม่บ้านได้อย่างคล่องตัวแม้จะมีการรับน้ำหนักแบบเต็มพิกัดก็ตาม 2. รถเข็นแม่บ้าน JUMBO รุ่น MTD-01B          รถเข็นแม่บ้าน JUMBO รุ่น MTD-01B2 เป็นรถเข็นแม่บ้านสเตนเลส แบบมีประตูปิดอีกหนึ่งรุ่นที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะโครงสร้างของตัวรถเข็นแม่บ้านรุ่นนี้ถูกผลิตขึ้นมาจากสเตนเลสคุณภาพสูงทั้งคันจึงทำให้มีพื้นผิวที่สวย เงางาม มีความแข็งแรงทนทานสูง รวมถึงสามารถดูแลรักษาง่ายเพราะไม่มีการดูดซึมสารและกลิ่น และไม่ก่อให้เกิดสนิมในระหว่างการใช้งาน โดยสำหรับรูปแบบของรถเข็นแม่บ้าน JUMBO รุ่น MTD-01B2 นั้นจะเป็นรถเข็นทำความสะอาดขนาดใหญ่ด้วยความยาว ความกว้าง และความสูงที่มากถึง 110 x 54 x 110 เซนติเมตร ที่ถูกออกแบบมาให้มีทั้งหมด 3 ชั้น พร้อมด้วยถาดวางของด้านบนสำหรับวางข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ เพื่อการหยิบจับนำมาใช้งานได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น         นอกจากนี้ที่ตัวรถเข็นแม่บ้านยังมีการติดตั้งถุงผ้าใบใหญ่เอาไว้ที่บริเวณด้านหน้าของตัวรถเข็นแม่บ้าน พร้อมด้วยกล่องสเตนเลสขนาดเล็ก 2 กล่องสำหรับการจัดเก็บอุปกรณ์ที่ถูกติดตั้งเอาไว้ที่บริเวณด้านหลังของตัวรถเข็นแม่บ้าน เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดระเบียบและแบ่งแยกพื้นที่ในการจัดเก็บผ้าและการจัดวางอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเรียบร้อยและเป็นหมวดหมู่มากยิ่งขึ้น และยิ่งไปกว่านั้นรถเข็นแม่บ้าน JUMBO รุ่น MTD-01B2 ยังมาพร้อมด้วยที่คล้องแม่กุญแจที่บริเวณประตูเปิด-ปิด เพื่อประโยชน์ในการช่วยเสริมความปลอดภัยในการจัดเก็บชุดของใช้ในห้องน้ำ (Amenities) สำหรับลูกค้า รวมถึงอุปกรณ์ทำความสะอาดต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 3. รถเข็นแม่บ้าน JUMBO รุ่น MT-NL32          มาถึงรถเข็นทำความสะอาดขนาดใหญ่อีกหนึ่งรุ่นกันบ้างกับรถเข็นแม่บ้าน JUMBO รุ่น MT-NL32 ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรถเข็นทำความสะอาดรุ่นยอดนิยมจากแบรนด์ JUMBO ที่ได้รับความนิยมในการนำมาใช้งานภายในโรงแรมและรีสอร์ทมาอย่างช้านาน เพราะด้วยขนาดของตัวรถเข็นแม่บ้านที่มีขนาดความยาว ความกว้าง และความสูงที่มากถึง 145 x 45 x 121 เซนติเมตรนั้น ส่งผลให้รถเข็นแม่บ้าน JUMBO รุ่น MT-NL32 เป็นรถเข็นแม่บ้านที่มาพร้อมด้วยชั้นวางของที่มากถึง 4 ชั้น โดยแบ่งเป็นชั้นวางของด้านบน 1 ชั้น และชั้นวางของแบบเปิดโล่งด้านข้างอีก 3 ชั้น ซึ่งด้วยดีไซน์การออกแบบที่เปิดโล่งของตัวรถเข็นทำความสะอาดรุ่นดังกล่าวนี้ ถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มความคล่องตัวให้กับแม่บ้านและพนักงานทำความสะอาดทุกคนในการหยิบจับอุปกรณ์ต่าง ๆ มาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น         นอกจากนี้รถเข็นแม่บ้าน JUMBO รุ่น MT-NL32 ยังมาพร้อมด้วยถุงผ้าใบใหญ่ที่บริเวณด้านหน้าของตัวรถเข็นแม่บ้าน รวมไปถึงถุงผ้าใบเล็กและกล่องสเตนเลสขนาดเล็กสำหรับใส่อุปกรณ์ที่ถูกนำมาติดตั้งเอาไว้ที่บริเวณด้านหลังของรถเข็นแม่บ้านอีก 1 กล่อง เพื่อประโยชน์ในการช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของ เพิ่มความเป็นระเบียบเรียบร้อย และเพิ่มความสามารถในการเก็บผ้าที่ยังไม่ได้ซักรีด อย่างเช่น ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว หรือผ้าปูที่นอน ได้มากยิ่งขึ้น และสำหรับในส่วนของคุณภาพในการใช้งานนั้น รถเข็นแม่บ้าน JUMBO รุ่น MT-NL32 เป็นรถเข็นที่ถูกผลิตขึ้นรูปมาจากสเตนเลสทั้งคัน และในส่วนของตัวล้อนั้นถูกผลิตขึ้นมาจากวัสดุ PU คุณภาพสูงจากต่างประเทศที่สามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นแล้วผู้ใช้งานจึงสามารถไว้วางใจในเรื่องความแข็งแรง ทนทาน และความสามารถในการป้องกันการกัดกร่อนและการเกิดสนิมได้ตลอดอายุการใช้งาน 4. รถเข็นแม่บ้าน JUMBO รุ่น MT-8172          ข้ามมาที่ฝั่งของรถเข็นแม่บ้านแบบพลาสติกกันบ้าง กับรถเข็นแม่บ้านจากแบรนด์ JUMBO รุ่น MT-8172 ซึ่งเป็นรถเข็นทำความสะอาดขนาดใหญ่แต่ทว่าเข็นคล่องเบาแรงอีกหนึ่งรุ่น ที่มีขนาดความยาว ความกว้าง และความสูงที่มากถึง 161.5 x 54.5 x 128 เซนติเมตร โดยรถเข็นแม่บ้านจากแบรนด์ JUMBO รุ่นนี้ถือได้ว่าเป็นรถเข็นทำความสะอาดที่มีความแข็งแรงและมีความสามารถในการรองรับน้ำหนักบรรทุกได้ในระดับที่สูงมาก เพราะตัวโครงสร้างของรถเข็นแม่บ้านนั้นถูกผลิตขึ้นมาจากพลาสติกคุณภาพสูง จึงทำให้ในส่วนของชั้นวางที่ถูกติดตั้งมาในรถเข็นแม่บ้านนั้นสามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกได้มากถึง 10 กิโลกรัมต่อชั้นเลยทีเดียว         และนอกจากนี้รูปแบบของตัวรถเข็นแม่บ้านยังถูกออกแบบมาให้เหมาะสมสำหรับการนำมาใช้งานเพื่อเป็นรถเข็นทำความสะอาดและรถเข็นเก็บผ้าภายในโรงแรมและรีสอร์ทได้เป็นอย่างดี ด้วยจำนวนของชั้นวางของที่มากถึง 3 ชั้นด้านในที่มาพร้อมด้วยฟังก์ชันการปรับระดับ และกุญแจล็อกป้องกันของหาย รวมไปถึงช่องขนาดใหญ่สำหรับไว้วางของที่ชั้นบน ชั้นวางสิ่งของทั่วไปที่บริเวณด้านล่างสุดของรถเข็นแม่บ้าน และถุงไนลอนอย่างหนาที่มีความจุสูงสุดถึง 75 ลิตร ที่มาพร้อมด้วยซิปข้างที่ช่วยให้การหยิบจับสิ่งของเข้า-ออกจากถุงเป็นเรื่องที่สะดวกมากยิ่งขึ้น จำนวน 2 ถุง ที่ถูกนำมาติดตั้งเอาไว้ที่บริเวณด้านหน้าและด้านหลังของรถเข็น จึงทำให้รถเข็นแม่บ้าน JUMBO รุ่น MT-8172 สามารถช่วยอำนวยความสะดวกให้แม่บ้านและพนักงานทำความสะอาดที่ใช้งานรถเข็นแม่บ้านรุ่นดังกล่าวนี้ สามารถหยิบจับสิ่งของมาใช้งานได้อย่างสะดวก รวดเร็ว รวมถึงมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น 5. รถเข็นแม่บ้าน JUMBO รุ่น LHC-3          ปิดท้ายกันด้วยรถเข็นแม่บ้านอีกหนึ่งรุ่นยอดนิยมจากแบรนด์ JUMBO อย่างรถเข็นแม่บ้าน JUMBO รุ่น LHC-3 ซึ่งเป็นรถเข็นแม่บ้านแบบประตูบานเปิด ที่ถึงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่ารถเข็นแม่บ้านในรุ่นก่อนหน้าด้วยขนาดความยาว ความกว้าง และความสูงเพียงแค่ 53 x 83 x 37 เซนติเมตรเท่านั้น แต่ต้องขอบอกก่อนเลยว่าในเรื่องของคุณภาพในการใช้งานนั้นเรียกได้ว่าจัดเต็มมาให้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของตัวโครงสร้างของรถเข็นทำความสะอาดที่ถูกขึ้นรูปมาจากพลาสติกคุณภาพดี จึงทำให้มีน้ำหนักเบาแต่ทว่ามีความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานอย่างต่อเนื่องในทุกวันได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงล้อ PU ขนาด 8 นิ้ว ที่เป็นล้อแบบติดเบรก 2 ล้อ และล้อตาย 2 ล้อ จึงทำให้สามารถเข็นเคลื่อนย้ายได้ง่ายและเบาแรงมากยิ่งขึ้น         นอกจากนี้ในส่วนของช่องเก็บของนั้นยังถูกออกแบบมาให้มีฝาปิดทั้งบริเวณช่องเก็บของด้านบนสุดของรถเข็นแม่บ้าน และช่องเก็บของที่บริเวณด้านข้าง เพื่อเป็นการช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานให้กับรถเข็นทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสำหรับฟังก์ชันในการใช้งานนั้น รถเข็นแม่บ้าน JUMBO รุ่น LHC-3 มาพร้อมด้วยชั้นวางของที่สามารถปรับระดับได้ 1 ชั้น ซึ่งสามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกได้สูงสุดถึง 26 กิโลกรัม พร้อมด้วยถุงไนลอนอย่างหนาที่สามารถกันน้ำได้ ที่ถูกนำมาติดตั้งเอาไว้ที่บริเวณด้านหน้าและด้านหลังของรถเข็นแม่บ้านจำนวน 2 ใบ เพื่อเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกให้แม่บ้านและพนักงานทำความสะอาดทุกคนสามารถหยิบจับสิ่งของและอุปกรณ์ทำความสะอาดต่าง ๆ มาใช้งานได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว           หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่กำลังมองหารถเข็นแม่บ้าน รถเข็นทำความสะอาด รวมถึงรถเข็นแม่บ้านสเตนเลสสำหรับงานบริการ มาใช้งานภายในกิจการโรงแรมและรีสอร์ทของคุณ JenStore by เจนบรรเจิด เราคือผู้ช่วยที่รู้ใจ พร้อมช่วยดูแลและให้คำแนะนำในการเลือกซื้ออุปกรณ์สำหรับการจัดเก็บยกย้ายสินค้า ที่มีสินค้าหลากหลายที่สุด ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งาน อาทิเช่น รถเข็นโรงแรม รถเข็นเก็บจาน รถเข็นอาหาร รถเข็นอาหารไฟฟ้า และเรายังรับสั่งทำรถเข็น รับจัดหาสินค้าให้ตรงตามรูปแบบการใช้งานที่ต้องการ มีบริการหลังการขายรับประกันคุณภาพสินค้า ให้เราเป็นผู้ช่วยที่ทำให้ทุกการจัดซื้ออุปกรณ์เคลื่อนย้าย อุปกรณ์ทำความสะอาดเป็นเรื่องง่าย! ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) Tel : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
การเพิ่มความปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรม

มายกระดับความปลอดภัยในโรงงานกันเถอะ แน่นอนว่าการทำงานไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ออฟฟิศธรรมดาๆ สำนักงานต่างๆ ไซต์ก่อสร้างไปจนถึงในโรงงานอุตสาหกรรม ล้วนแล้วแต่มีความอันตรายด้วยกันทั้งสิ้น ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงวิธีการเพิ่มความปลอดภัยให้กับตัวเองและพนักงานที่ต้องทำงานในโรงงานว่ามีอุปกรณ์เสริมอะไรบ้าง และสาเหตุที่มักเกิดอันตรายขึ้นในโรงงานอุตสาหกรรม ความปลอดภัยในสถานที่ทำงานเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ที่เจ้าของธุรกิจควรตระหนักถึง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงานของพนักงาน การสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันต่างๆ เช่น ชุด PPE รองเท้าเซฟตี้ หน้ากากกันสารเคมี แว่นตานิรภัย หมวกนิรภัย ถุงมือกันไฟฟ้า ฯลฯ อุปกรณ์เหล่านี้ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้เป็นอย่างดีจากรายงานสถิติการเกิดอุบัติเหตุในโรงงานในปี 63 มีการเกิดอุบัติเหตุทั้งหมด 54 ครั้ง ลดลง 15.6% ตัวเลขที่ลดลงนี้เกิดจากการออกมาตรการรักษาความปลอดภัยในแต่ละโรงงานของกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ) ได้มีการกำกับดูแล ให้ผู้ประกอบการคำนึงถึงความปลอดภัยในโรงงาน โดยการออกกฏให้สวมใส่อุปกรณ์เซฟตี้ต่างๆ และติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัดอ้างอิง : https://shorturl.asia/TEAxGดังนั้น อุปกรณ์สำหรับป้องกันอุบัติเหตุต่างๆ จึงมีความสำคัญ ผู้ประกอบการควรจัดหาอุปกรณ์เหล่านี้ให้พอเพียงสำหรับพนักงานทุกคนที่ต้องทำงานในโรงงานอุตสาหกรรรม และควรจะต้องเป็นอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน นอกจากอุปกรณ์เซฟตี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ส่วมใส่แล้ว มันยังส่งผลต่อจิตใจของพนักงานผู้ปฎิบัติงาน ทำให้พวกเขามีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น และรู้สึกปลอดภัยเมื่อต้องปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย สาเหตุที่มักเกิดอันตรายขึ้นในโรงงานอุตสาหกรรม ความประมาท - ความประมาทเป็นสาเหตุหลักในการเกิดอุบัติเหตุในโรงงาน ทั้งต่อตัวเองและเพื่อนร่วมงาน ซึ่งมักเกิดจากความประมาทเลินเล่อ ความไม่ใส่ใจ และไม่ปฏิบัติตามกฏข้อบังคับของโรงงาน รู้เท่าไม่ถึงการณ์ - ประโยคนี้มักจะได้ยินบ่อยๆ เมื่อมันเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแล้ว การรู้เท่าไม่ถึงการณ์อาจจะเพราะจากประสบการณ์การทำงานที่น้อย และไม่ยอมศึกษาให้ดีก่อนลงมือทำ ต้องระลึกเสมอว่าการทำงานกับเครื่องจักรนั้นต้องมีสติ และต้องมีความเชี่ยวชาญในระดับหนึ่ง อุปกรณ์ เครื่องมือ - อาจเกิดจากเครื่องจักรทำงานผิดพลาด หรือเครื่องจักรมีปัญหา เช่น เครื่องชำรุด พัง และไม่มีการซ่อมบำรุงรักษา เมื่อใช้เครื่องจักรที่มีสภาพไม่สมบูรณ์ มันจึงเป็นเรื่องไม่น่าแปลกใจที่จะเกิดอุบัติเหตุ สภาพร่างกายของพนักงาน - อย่างที่กล่าวไปว่า การทำงานกับเครื่องจักรเหล่านี้จำเป็นต้องมีสติ มีสภาพร่างกายที่พร้อม สาเหตุหลักๆ ที่มักทำให้เกิดอุบัติเหตุ เช่น อดนอน ดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างปฏิบัติงาน สายตาไม่ดี หรือในบางกรณีที่พนักงานมีโรคประจำตัว เป็นต้น สภาพจิตใจของพนักงาน - ด้านจิตใจก็ส่งผลต่อการทำงานของพนักงานเช่นกัน เช่น ขาดความสามารถในการควบคุมอารมณ์ในขณะปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุนั่นเอง สถานที่ปฏิบัติงาน - สถานที่ปฏิบัติงานไม่อยู่ในสภาพที่พร้อม เช่น พื้นมีน้ำขัง ลื่น พื้นที่แคบเกินไป มีสารเคมีรั่วไหลในบริเวณนั้นๆ หรือการระบายอากาศที่ไม่เหมาะสม และนั่นก็คือ 6 สาเหตุหลักๆ ที่มักจะทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นในโรงงานอุตสาหกรรม การจัดการด้านความปลอดภัยคือวิธีแก้ไขที่ดีที่สุด นอกจากจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในสถานที่ทำงานแล้ว ยังส่งเสริมให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีในการทำงานและยังช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียทรัพย์สินได้อีกด้วย การจัดการด้านความปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรมคือ การจัดการด้านความปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรมคือ การจัดตั้งกฏ ระเบียบ มาตรการด้านความปลอดภัยของพนักงานทุกคนในโรงงาน การจัดตั้งกฎระเบียบเหล่านี้ช่วยให้สามารถลดอันตรายและอัตราการเกิดอุบัติเหตุระหว่างปฏิบัติงานในโรงงานได้ ไม่ว่าจะเป็นโรงงานขนาดเล็ก กลางหรือใหญ่ วัตถุประสงค์ของการจัดการด้านความปลอดภัยคือการทำให้สภาพแวดล้อมในโรงงานมมีความปลอดภัยมากที่สุด นอกจากนี้ ควรมีกฏ ระเบียบในเรื่องการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายอยู่ในกฏข้อบังคับก่อนปฏิบัติงานด้วย อุปกรณ์ความปลอดภัยมีอะไรบ้าง รองเท้าเซฟตี้ - ส่วนหัวของรองเท้าจะมีความแข็ง ป้องกันการเดินเตะสิ่งของต่างๆ และการใส่รองเท้าเซฟตี้นี้เพื่อป้องกันการลื่นล้ม พื้นรองเท้าค่อนข้างหนาและมีดอกยางลึก สามารถยึดเกาะพื้นผิวได้ดีกว่าการใส่รองเท้าผ้าใบธรรมดา หน้ากากกันสารเคมี - มีประสิทธิภาพในการกรองสารเคมีได้ถึง 84% หน้ากากกันสารเคมีนี้เหมาะ กับใช้ป้องกันไอระเหยจากสารเคมีอันตราย เช่น การพ่นสี กลิ่นทินเนอร์ และพวกยาฆ่าแมลง ละอองฝุ่น โลหะ แก๊สพิษ เป็นต้น แว่นตานิรภัย - ป้องกันดวงตาเมื่อต้องทำงานที่ใช้เครื่องมือตัดเหล็ก เชื่อมโลหะ ป้องกันฝุ่นและเศษซากที่อาจจะกระเด็นเข้าตา แว่นตานิรภัยทั่วไปจะป้องกันการกระเด็นที่มาจากด้านหน้าเท่านั้น ส่วนแว่นตานิรภัยที่มีกระบังด้านข้าง จะสามารถปกป้องดวงตาของเราจากเศษหิน เศษโลหะได้ทั้งด้านหน้าและด้านข้าง ซึ่งมีความปลอดภัยที่ครอบคลุมมากกว่าแว่นนิรภัยทั่วๆ ไป หมวกนิรภัยหรือหมวกเซฟตี้ - มีความทนทาน แข็งแรง กันกระแทก กันการเจาะทะลุ และกันไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี ช่วยลดการบาดเจ็บบริเวณศีรษะ เหมาะกับการทำงานในสถานที่มีความเสี่ยงจากสิ่งของหรือวัสดุต่างๆ ที่อาจตกใส่ศีรษะ เช่น การขนย้ายหรือติดตั้งงานก่อสร้าง งานไฟฟ้า หรือในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการขนย้ายสินค้าต่างๆ ถุงมือกันความร้อน ถุงมือกันไฟฟ้า หรือถุงมือนิรภัย - มีความทนทาน ไม่ขาดง่าย ทนต่อสารเคมีต่างๆ เช่น กรด เบสจากธรรมชาติ สามารถกันความร้อนกันไฟฟ้าได้ดี ไม่เปื่อยยุ่ยหรือขาดง่าย มีความหนาที่หลากหลาย ป้องกันสารเคมี วัตถุมีคมต่างๆ ชุดป้องกันสารเคมีหรือชุด PPE - คือชุดที่ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันร่างกายของผู้ใช้งาน ไม่ให้ร่างกายสัมผัสกับวัสดุที่อาจเป็นอันตรายต่อการสัมผัสผิวหนัง เช่น สารเคมี เชื้อโรคต่างๆ แผ่นยางกันลื่น - สำหรับปูพื้นเพื่อกันลื่นเหมาะกับปูพื้นทั่วไป สามารถป้องกันการสะดุดล้ม ป้องกันพื้นโรงงานจากการตกของอุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ แผ่นยางจะเป็นรูๆ เพื่อระบายน้ำและสิ่งสกปรก ใช้งานง่ายและทำความสะอาดง่ายเช่นกัน ที่ครอบหูกันเสียงหรืออุปกรณ์ป้องกันการได้ยิน - ใช้เพื่อป้องกันอันตรายจากเสียงเครื่องจักรที่อาจก่อให้เกิดอันตรายในชั้นหูของผู้ปฏิบัติงาน ป้องกันการสูญเสียการได้ยิน ตู้เก็บสารเคมี - ถือว่าเป็นอุปกรณ์เซฟตี้เฉพาะทางที่จะช่วยป้องกันอันตรายที่เกิดจากสารเคมี ป้องกันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงสารเคมีเหล่านั้นได้ ทำให้เกิดความปลอดภัยในโรงงานมากยิ่งขึ้น ถาดรองสารเคมี - ช่วยป้องกันสารเคมีสัมผัสพื้นผิวโรงงาน ป้องกันสารเคมีรั่วไหล ช่วยลดอุบัติเหตุในโรงงานได้ดีและใช้งานง่าย เข็มขัดกันตกหรือเข็มขัดเซฟตี้ - เป็นอุปกรณ์ป้องกันการพลัดตกจากที่สูง เหมาะกับงานที่ต้องทำบนที่สูง เช่น งานนั่งร้าน งานระบบไฟฟ้า งานเช็ดกระจกบนตึกสูง เข็มขัดเซฟตี้มีหน้าที่ยึดเหนี่ยวไว้ ไม่ให้ตก หรือใช้ในการช่วยทรงตัวไม่ให้ตกเมื่อต้องเดินบนที่สูง ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมประเภทใดก็ตาม ความปลอดภัยทั้งต่อสถานที่ทำงานและต่อพนักงานเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง อุปกรณ์ต้องมีคุณภาพ ได้มาตรฐานจึงจะสามารถป้องกันอันตรายจากอุบัติเหตุในโรงงานได้ หากผู้อ่านกำลังมองหาอุปกรณ์เซฟตี้ต่างๆ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มจากอะไร ตรงไหนก่อน เราแนะนำให้ปรึกษาตัวแทนจำหน่ายที่เชื่อถือได้หรือหาผู้ช่วยที่รู้ใจอย่างเช่น บริษัท เจนบรรเจิด ศูนย์รวมเครื่องมือและอุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยส่วนบุคคล (PPE) จำหน่ายอุปกรณ์เซฟตี้ทุกชนิด อุปกรณ์เซฟตี้เพื่อความปลอดภัยในการทำงานสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมและธุรกิจต่างๆ หลากหลายแบนรด์ชั้นนำ คุณภาพและความทนทานสูง และเรายังมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาแก่ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าได้สินค้าที่ตรงความต้องการมากที่สุด หากอยากรู้จักเราเพิ่มมากขึ้น สามารถติดตามข้อมูล รายละเอียดสินค้าและบริการต่างๆ ได้ที่ https://www.jenstore.com ระบบ กฏเกณฑ์ ระเบียบ รวมไปถึงอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยต่างๆ หากผู้ใช้งานและผู้ประกอบการคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักในการดำเนินกิจการ จะช่วยลดอัตราการสูญเสียและการบาดเจ็บลงได้อีกเยอะทีเดียว นอกจาก นี้ยังช่วยเสริมสร้างกำลังใจในการปฏิบัติงานที่ดียิ่งขึ้นให้กับพนักงานอีกด้วย ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) Tel : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
วิธีดูว่าได้เวลาเปลี่ยนล้ออุตสาหกรรมได้แล้ว

ถึงเวลาเปลี่ยนล้ออุตสาหกรรมให้ธุรกิจบริการ คล่องตัว ลื่นไหล อีกหนึ่งชิ้นส่วนของใช้ใกล้ๆตัวในภาคธุรกิจบริการ อย่าง ล้ออุตสาหกรรม จัดเป็นส่วนประกอบสำคัญไม่ใช่น้อยสำหรับอุปกรณ์รถเข็น ที่เข้ามาช่วยในการเคลื่อนย้ายสิ่งของ สัมภาระต่างๆ ซึ่งการใช้รถเข็นที่มีสมรรถนะสูงด้วยการเลือก ล้อรถเข็นที่เหมาะสมกับประเภทงานที่ใช้ได้อย่างถูกต้อง ก็จะช่วยให้การเคลื่อนย้าย สิ่งของ อุปกรณ์ต่างๆ เป็นไปอย่างลื่นไหล ไม่สะดุด ขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจ หรือ ผู้ให้บริการในแต่ละประเภท ไม่ว่าจะเป็น โรงงานอุตสาหกรรม , โรงแรม, รีสอร์ท , สำนักงาน , โรงพยาบาล ฯลฯ ซึ่งธุรกิจเหล่านี้ล้วนต่างต้องใช้รถเข็นเคลื่อนย้ายที่มีล้ออุตสาหกรรม ประสิทธิภาพสูงเพื่อช่วยทั้งทุ่นแรงและประหยัดเวลาในการทำงานของเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องกับงานบริการดังกล่าวได้โดยตรงอีกทางหนึ่ง เช่นกัน เช็คอายุการใช้ล้อรถเข็น ถึงเวลาต้องเปลี่ยน!! โดยปกติแล้ว ผู้ใช้งานรถเข็นทั่วไป อาจไม่ได้มีความคุ้นเคยมากนักกับการตรวจสอบสภาพหรือสมรรถนะของลูกล้ออุตสาหกรรมที่ใช้งานในแต่ละวันปกติ จะทราบอีกทีก็พบว่า ล้อฝืด เข็นไม่ลื่น เกิดการสะดุด อีกแล้ว!! กลายเป็นสร้างปัญหาต่อผู้ใช้งานไปในที่สุด เอาล่ะ ทีนี้เรามาสังเกตการใช้งานลูกล้อที่มีแนวโน้มใกล้จะเสื่อมสภาพ ซึ่งก็มี 9 วิธีช่วยสังเกตดูว่าได้เวลาเปลี่ยนล้ออุตสาหกรรมกันได้แล้ว อีกทั้งสัญญาณเหล่านี้ จะยังช่วยป้องกันความเสียหาย หรือ สร้างความบาดเจ็บให้กับผู้ใช้งานอีกด้วย เป็นการช่วยธุรกิจประหยัดทั้งต้นทุน และ เวลา ตัวยึดของลูกล้อชำรุดหรือหักตัวยึดของลูกล้อมีตั้งแต่ แป้น เดือย เกลียวที่มีลักษณะเหมือนสกรู ใช้ยึดกับตัวอุปกรณ์ขนย้ายวัสดุ หรือตัวเฟอร์นิเจอร์ โดยตัวยึดของลูกล้อชำรุดหรือหัก อาจเกิดขึ้นได้กับตัวยึดทั้ง 3 แบบ จากสาเหตุต่าง ๆ เช่น การรับน้ำหนักที่มากเกินกว่าลูกล้อจะรับไหว การกระแทกแรง ๆ การเคลื่อนที่แบบผิดรูปของเก้าอี้หรือตัวเฟอร์นิเจอร์ หรือเกิดจากการใช้เกลียวตัวเมียไปหมุนกับเกลียวที่ไม่ใช่สเปคเดียวกัน ทำให้เกลียวเสียหาย เกลียวรูดได้ ลูกล้อฝืดอาการลูกล้อฝืด โดยปกติแล้วอาจเกิดได้จากสนิมที่ตัวล้อ โดยเฉพาะลูกล้อเหล็ก หรือพื้นที่ใช้งานอยู่ มีเศษวัสดุต่างๆ อย่าง ด้าย เชือก เส้นผมตกอยู่ หากสิ่งเหล่านี้มาติดพันลูกล้อ ก็ทำให้ลูกล้อฝืดได้เช่นกัน ซึ่งในจุดนี้ผู้ใช้งานควรหมั่นเช็คความเรียบร้อยทั้งตัวลูกล้อ และ พื้นผิวใช้งาน เพื่อให้ทุกการใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่น ลูกล้อส่งเสียงผิดปกติเอี๊ยดอ๊าดๆ ครืดๆ อาการเสียงของลูกล้อ ที่ส่งสัญญาณเตือนว่าลูกล้อเสื่อมสภาพ เพราะเสียงที่เกิดขึ้นนั้นอาจเกิดจากการสึกกร่อนของตัวโลหะ หรือตัวแกนลูกล้อที่เกิดจากการใช้งานมาเป็นเวลานาน ทำให้เกิดเสียงกระทบระหว่างแกน และตัวลูกล้อ ดังนั้นเมื่อล้อมีเสียงควรเปลี่ยนลูกล้อทันที ลูกล้อแตกลูกล้อแตกหัก อาจจะเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งจากใช้งานมาเป็นระยะเวลานาน การชนกระแทกกับของแข็งอย่างแรงจนเกิดการฉีดขาดหรือแตกหักได้ โดยเฉพาะล้อพลาสติกที่อาจเกิดการเปราะแตกได้ง่ายหากมีการจอดแช่ในบริเวณแดดแรงจัด แบริ่งของลูกล้อหลวม ล้อฟรี ไม่มีแรงเหวี่ยงแบริ่งหรือวงล้อที่รองรับแกนหลวม อาจเกิดได้จากระยะการใช้งานที่ยาวนาน ทำให้แบริ่งหย่อนอาจจะสังเกตุได้จากล้อฟรี หมุนแล้วไม่เกิดแรงเหวี่ยงขณะใช้งาน ทำให้ไม่สามารถควบคุมน้ำหนักของลูกล้อ และรถเข็นได้ ลูกล้อติด เข็นไม่ไปลูกล้อเข็นสะดุด เข็นไม่ไป อาจมาจากหลายสาเหตุ ทั้งเศษวัสุดต่างๆบนพื้นผิวเข้าไปติดสะสมจำนวนมากในวงลูกล้อ โดยไม่ได้เอาออก หรือ ลูกล้อรับน้ำหนักมากเกินไป จนเข็นไม่ได้ โดยกลไกการทำงานของลูกล้อเสียหาย อาจต้องเปลี่ยนอะไหล่บางตัว หรือเปลี่ยนทั้งลูกล้อ ขึ้นอยู่กับความเสียหายของชิ้นส่วนหรืออะไหล่ของตัวลูกล้อ ลูกล้อทำให้พื้นเป็นรอยการที่ลูกล้อทำให้พื้นเป็นรอยอาจเกิดจากวัสดุของลูกล้อบางประเภท เช่น ยาง โพลียูรีเทน ไนล่อน ที่มีคุณสมบัติไม่ทิ้งคราบ หรือรอยเวลาเข็น แต่เมื่อใช้งานอย่างยาวนาวต่อเนื่อง ก็อาจทำให้วัสดุหรือพื้นผิวหน้าลูกล้อสึกกร่อน และทิ้งรอยบนพื้นผิวเมื่อใช้งานได้เช่นกัน เบรคเริ่มใช้งานไม่ได้กรณี ถ้าเบรคมีปัญหาไม่สามารถล๊อคลูกล้อได้ ก็ควรเปลี่ยนเบรคทันที ลูกล้อทำให้ผู้ใช้งานต้องออกแรงมากเกินหากลูกล้อกำลังเสื่อมสภาพ ไม่สามารถรับน้ำหนักของสิ่งของในการเคลื่อนย้ายได้ จะทำให้ผู้ใช้งานต้องมีการออกแรง เพื่อผลัก ดึง เข็น หรือเคลื่อนย้ายมากขึ้น เมื่อรู้ 9 สัญญาณเบื้องต้นในการตรวจเช็คสภาพลูกล้อกันไปแล้ว ตอนนี้เรามาทำความรู้จักการเลือกใช้ลูกล้ออุตสาหกรรม ให้ตรงกับประเภทการใช้งานเพื่อทำการเปลี่ยนล้อรถเข็นให้เหมาะสมกันดีกว่า เลือกประเภทล้อรถเข็น ตรงการใช้งาน ปัจจุบันล้อรถเข็น ล้ออุตสาหกรรม มีลูกล้อที่ผลิตจากวัสดุประเภทต่างๆให้เลือกใช้งานมากมาย อาทิ ล้อยูรีเทน PU, ล้อยูรีเทน PUb, ล้อยูรีเทนไฮเทค PUo, ล้อไนล่อน PA, ล้อพลาสติก PP, ล้อยาง, ล้อรับน้ำหนักมากพิเศษ เป็นต้นโดย ที่ใช้วัสดุแต่ละประเภทในการผลิต จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป เพื่อรองรับการใช้งานได้ตรงตามวัตถุประสงค์อย่างสูงสุด ซึ่งขึ้นอยู่กับความต้องการในการเลือกใช้งานของแต่ละธุรกิจบริการ ดังนี้ ล้อยูรีเทน PUB เข็นเงียบ พื้นไม่เป็นรอย ทนทานต่อสารเคมี ล้อยาง ER เนื้อยางนุ่ม ลดการสั่นสะเทือน ล้อยูรีเทน PUo ทนทานต่อแรงกระแทก ไม่เกิดรอยบนพื้น ล้อพลาสติก PP เข็นลื่นคล่องตัว รับน้ำหนักได้มาก ล้อโอลีฟิน YUPA สำหรับงานเปียกชื้น เข็นลื่น คล่องตัว ล้อยางสังเคราะห์ TPR เข็นได้นุ่มนวล เสียงเงียบ ไม่เกิดรอยบนพื้น จากที่กล่าวมาข้างต้น หากเจ้าของธุรกิจบริการ ในกลุ่มต่างๆ เตรียมวางแผนลดต้นทุนการบริหารจัดการองค์กรพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวแบบนี้ การเลือกสินค้าอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูงและแบรนด์ที่น่าเชื่อถือที่ได้การยอมรับ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีเพิ่มผลผลิต (Productivity) ได้ด้วยเช่นกันโดยเฉพาะในปัจจุบัน ยังมีช่องทางการจัดซื้อสินค้าอุปกรณ์สำหรับธุรกิจต่อธุรกิจ (B2B) ได้สะดวกมากขึ้นกว่าแต่ก่อน โดยผู้ใช้งาน หรือ ผู้ประกอบการธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้อง สามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ล้อรถเข็น ล้ออุตสาหกรรม ผ่านเว็บไซต์เจนสโตร์ JenStore https://www.jenstore.com/ ได้ตลอด24ชั่วโมง ทุกวันJenStore by เจนบรรเจิด เราคือผู้ช่วยที่รู้ใจ พร้อมช่วยดูแลและให้คำแนะนำในการเลือกซื้ออุปกรณ์สำหรับการจัดเก็บยกย้ายสินค้า ที่มีสินค้าหลากหลายที่สุด ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งาน อาทิเช่นล้อรถเข็น ล้ออุตสาหกรรม ล้อยูรีเทน ล้อยาง ล้อไนล่อน เราได้จัดทำเว็บไซต์เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าธุรกิจที่เข้ามาใช้บริการ ไว้อย่างชัดเจน แบ่งหมวดหมู่สินค้าล้ออุตสาหกรรมไว้บนเมนูบาร์ (Menu Bar) ตามประเภทการเลือกใช้งาน ประกอบด้วย กลุ่มล้องานเบา ด้วยสินค้าล้อรถเข็น, ล้อพลาสติก PP, ล้อยางสังเคราะห์ TPR และ ล้อยูรีเทน PUb กลุ่มล้องานปานกลาง-หนัก ด้วยสินค้า ล้อยูรีเทนไฮเทค PUo, ล้อยูรีเทนแกนเหล็ก Put, ล้อพลาสติก PP, ล้อยางสังเคราะห์ TPR, ล้อยูรีเทน Pub, ล้อไนลอน PA, ล้อยางอีลาสติก ER กลุ่มล้องานพิเศษ ด้วยสินค้า ล้อรับน้ำหนักมากพิเศษ, ล้อยางขนาดใหญ่ กลุ่มล้อรถยกลาก ด้วยสินค้าล้อรกยกลาก ล้อปลายงา ล้อรถยกลาก กลุ่มล้อเฟอร์นิเจอร์ ด้วยสินค้า ล้อบอลพีวีซี ให้เลือกทั้งแบบล้อเกลียว และล้อแป้น แป้นเหล็กชุบซิงค์เงิน , ล้อไฟเบอร์ มีให้เลือกทั้งแบบล้อแป้นเหล็กชุบซิงค์ทอง และล้อเกลียวชุบซิงค์เงิน เพราะเราเข้าใจความสำคัญของคุณภาพล้อรถเข็น เราจึงมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและการบริการเพื่อให้ตอบรับความต้องการของลูกค้าและผู้ประกอบการมากที่สุด ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) Tel : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
แนะนำรถเข็น JUMBO สำหรับคลังสินค้าขายปลีก และ E-commerce

รถเข็นอเนกประสงค์ รถยกลากแบรนด์ JUMBO ตัวช่วยสำคัญสำหรับคลังสินค้า การทำงานในโกดัง คลังสินค้า ห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่โรงแรมหรือโรงพยาบาล การขนของ เคลื่อนย้าย และจัดเรียงสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ คือกิจกรรมที่ขาดไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องมองหาตัวช่วยทุ่นแรงที่จะเข้ามาอำนวยความสะดวกให้ทำงานเหล่านี้ง่ายขึ้น นั่นก็คือการใช้รถยกไฟฟ้า รถแฮนด์ลิฟท์ ไปจนถึงรถเข็นอเนกประสงค์แบบต่าง ๆ ที่ใช้ในการขนสินค้า เป็นรถเข็นอเนกประสงค์ ที่ออกแบบมาเพื่อการขนย้ายสินค้า พาเลท และการใช้งานในภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ แต่ทำไมต้องเลือกรถเข็นอเนกประสงค์แบรนด์ JUMBO ลองมาดูกัน! รถเข็นอเนกประสงค์คืออะไร มีแบบไหนบ้าง? รถเข็นอเนกประสงค์ คือ อุปกรณ์เคลื่อนย้าย ยกย้าย ใช้ในการเคลื่อนย้ายสินค้าหรือวัตถุต่าง ๆ จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งทั้งในแนวดิ่งและแนวราบ เป็นรถเข็นที่ใช้ขนสินค้า มีรูปร่างและลักษณะแตกต่างกันออกไปตามการใช้งาน อาจเป็นรถเข็นเหล็ก รถเข็นสแตนเลส รถเข็นพลาสติก รถเข็นทรงสูง มีทั้งแบบรถเข็น 2 ล้อและรถเข็น 4 ล้อ ส่วนรถเข็นอเนกประสงค์ ที่ใช้ยกของหนักนั้นมีเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำอย่างรถยกไฟฟ้าด้วย วัตถุประสงค์ในการใช้งานรถยกลากเหล่านี้ก็คือเพื่อทุ่นแรง ประหยัดกำลังคน และประหยัดเวลาในการขนสินค้า เคลื่อนย้ายสินค้า ไปจนถึงใช้ในการจัดเรียงสินค้าต่าง ๆ ด้วย รถยกไฟฟ้ารถยกไฟฟ้ามีลักษณะคล้ายรถยกลากหรือรถลากพาเลท (Hand Pallet Truck) แต่จะใช้กำลังไฟฟ้าจากมอเตอร์มาเป็นตัวช่วยทำงาน รถยกไฟฟ้าสามารถยกพาเลทสินค้าในแนวดิ่งได้คราวละมาก ๆ ทำงานในที่แคบได้ดี เหมาะสำหรับการเคลื่อนย้ายพาเลทที่จัดวางสินค้าน้ำหนักมากหรือการจัดเรียงสินค้าไว้ในที่สูง ๆ การใช้งานรถยกไฟฟ้าจะช่วยทุ่นแรงได้เป็นอย่างดี แถมยังทำให้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว ไปจนถึงเพิ่มความปลอดภัยในการทำงานได้อีกด้วย รถลากพาเลทรถลากพาเลท (Hand Pallet Truck) หรือรถแฮนด์ลิฟท์ เป็นรถเข็นอเนกประสงค์ที่ใช้ในโกดัง คลังสินค้า ไปจนถึงสถานประกอบการต่าง ๆ ที่เราคุ้นเคยกันดี เป็นอุปกรณ์เคลื่อนย้ายที่ช่วยลากพาเลทสินค้าโดยการใช้ส่วนที่เรียกว่างาในการช้อนพาเลทเพื่อลากไปไว้ยังจุดที่ต้องการ สามารถรับน้ำหนักได้สูงมาก เคลื่อนที่สะดวก จัดเก็บง่าย จึงเป็นอุปกรณ์เคลื่อนย้ายพื้นฐานที่ขาดไม่ได้เลยในโกดัง คลังสินค้า และสถานประกอบการขนาดใหญ่ต่าง ๆ รถเข็นไต่บันไดสำหรับสถานประกอบการ โรงงาน โกดัง หรือคลังสินค้าที่มีพื้นที่ต่างระดับหรือบันได การเลือกใช้งานรถเข็นไต่บันไดก็ตอบโจทย์ เพราะรถเข็นอเนกประสงค์ชนิดนี้ออกแบบลูกล้อมาเพื่อให้สามารถเคลื่อนที่บนพื้นที่ต่างระดับและขึ้นลงบันไดได้สะดวก โดยจะเป็นลูกล้อข้างละ 3 ลูกและใช้หลักการทำงานด้วยแรงดึง ช่วยทุ่นแรงและกำลังคนในการขนย้ายสิ่งของ สินค้า และวัตถุต่าง ๆ ขึ้น - ลงพื้นที่ต่างระดับ รถเข็นอุตสาหกรรมรถเข็นอุตสาหกรรมออกแบบมาเพื่อการขนย้ายสินค้าหรือวัตถุต่าง ๆ ในงานอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ ต่างจากรถเข็นช้อปปิ้งทั่วไปเพราะออกแบบมาให้รองรับน้ำหนักได้สูงมาก ส่วนใหญ่มักเป็นรถเข็นเหล็กเพื่อความแข็งแรงและทนทานในการใช้งาน แต่สำหรับผู้ประกอบการบางแห่ง เช่น โรงแรม โรงพยาบาล อะพาร์ตเม้นต์หรือโรงอาหาร อาจเลือกใช้รถเข็นสแตนเลสที่ทำความสะอาดง่ายและไม่เกิดสนิมก็ได้ นอกจากนี้ยังมีรถเข็นพลาสติกด้วย ส่วนสถานที่เฉพาะอย่างโรงแรมก็อาจเลือกใช้รถเข็นอุตสาหกรรมที่ออกแบบมาเป็นรถเข็นทรงสูงสำหรับขนกระเป๋าโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตามรถเข็นอุตสาหกรรมมีความคล้ายกับรถเข็นช้อปปิ้งหรือรถเข็นที่ใช้ทั่วไปคือเป็นรถเข็นพับได้ เพื่อให้สะดวกต่อการจัดเก็บและเพื่อให้ประหยัดเนื้อที่นั่นเอง โต๊ะยกปรับระดับ (Lift Table)โต๊ะยกปรับระดับ (Lift Table) คือ อุปกรณ์เคลื่อนย้ายชนิดหนึ่งมีลักษณะเป็นแผ่นรับน้ำหนักแบบเรียบ คล้ายโต๊ะขนาดเล็ก สามารถยกขึ้น - ลง ได้โดยไม่ต้องก้มตัวยกของ ช่วยขนย้ายสินค้าและสิ่งของจากที่ต่ำไปที่สูงได้ง่ายกว่า สะดวกกว่า และยังช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บจากการยกของหนักได้เป็นอย่างดี รถยกถังน้ำมัน รถยกถังน้ำมันออกแบบมาเพื่อการเคลื่อนย้ายถังน้ำมันที่มีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากโดยเฉพาะ แต่ละรุ่นออกแบบมาให้สามารถยกถังน้ำมันขนาดและน้ำหนักแตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่เหมือนกันคือการออกแบบโครงสร้างของรถที่มีลักษณะโค้ง โอบรอบถังได้กระชับ สามารถเคลื่อนที่ได้ง่าย ควบคุมด้วยระบบไฮดรอลิก รถเข็นแบบดอลลี่ ปิดท้ายกันที่รถเข็นแบบดอลลี่ซึ่งเป็นรถเข็นอเนกประสงค์ที่ใช้ได้หลากหลายทั้งในโกดัง คลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า ศูนย์โลจิสติกส์ หรือสถานประกอบการทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก จุดเด่นของรถเข็นดอลลี่คือสามารถปรับขนาดให้เหมาะสมกับขนาดของพาเลท ลังพลาสติก หรือสินค้าต่าง ๆ ได้ ประโยชน์ของรถเข็นอุตสาหกรรมและรถยกไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นรถเข็นอุตสาหกรรมและรถเข็นอเนกประสงค์ที่เป็นรถเข็นเหล็ก รถเข็นพลาสติก หรือรถเข็นสแตนเลสก็ตาม ต่างออกแบบมาเพื่อให้รองรับน้ำหนักได้มาก จึงใช้ขนย้ายสินค้าหรือเคลื่อนย้ายสินค้าได้ดี ใช้ในการจัดเรียงสินค้าและเคลื่อนย้ายสินค้าจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดได้โดยไม่ต้องเปลืองแรงคน นอกจากนี้รถเข็นอเนกประสงค์ยังมีลักษณะเฉพาะแตกต่างกันออกไปเพื่อให้เหมาะสมกับสินค้าที่แตกต่างกันหรือการใช้งานแบบเฉพาะทาง เช่น รถยกถังน้ำมัน รถเข็นช้อปปิ้ง หรือรถเข็นไต่บันได เป็นต้น ซึ่งรถเข็นแต่ละแบบออกแบบมาให้เหมาะสมกับพื้นที่ รูปร่าง ลักษณะของพาเลท สิ่งของ หรือสินค้าต่าง ๆ โดยเฉพาะ เลือกใช้งานได้หลากหลายตามความต้องการของผู้ประกอบการที่สำคัญเทคโนโลยีอุปกรณ์เคลื่อนย้ายอย่างรถเข็นอุตสาหกรรมในปัจจุบันยังล้ำสมัยไปมาก มีการออกแบบและผลิตรถยกไฟฟ้าหรือรถแฮนด์ลิฟท์ที่ใช้ไฟฟ้าในการควบคุมแทนระบบไฮดรอลิก ทำให้ใช้งานสะดวกขึ้น มีความรวดเร็ว และช่วยประหยัดแรงประหยัดเวลาในการทำงาน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในที่ทำงาน รวมถึงลดการเกิดอุบัติเหตุระหว่างการเคลื่อนย้ายและจัดเรียงสินค้าด้วย ทำไมต้องเลือกใช้รถเข็นอุตสาหกรรม เนื่องจากลักษณะงานในภาคอุตสาหกรรมมีความแตกต่างจากห้างร้านหรือผู้ประกอบการขนาดเล็ก SME หรือการใช้งานในครัวเรือนทั่วไป การเคลื่อนย้าย ขนถ่ายสินค้า อุปกรณ์ต่าง ๆ ไปจนถึงการขนย้ายวัตถุจึงต้องการอุปกรณ์เคลื่อนย้ายที่ออกแบบมาเพื่องานอุตสาหกรรมหรือสถานประกอบการโดยเฉพาะ รถเข็นอเนกประสงค์ที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมจึงต้องรองรับน้ำหนักได้ดี มีความทนทาน แข็งแรง และมีการทำงานที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะ อาจเป็นรถเข็น 2 ล้อหรือรถเข็น 4 ล้อก็ได้ แต่จุดประสงค์หลักก็คือการเลือกใช้รถเข็นอเนกประสงค์ที่เหมาะสมกับลักษณะงาน ลักษณะสินค้า เพื่อให้การทำงานสะดวก รวดเร็ว เป็นไปอย่างราบรื่นไม่ติดขัด ช่วยประหยัดแรงคน ช่วยเพิ่มความปลอดภัย และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุในที่ทำงาน รถยกไฟฟ้า รถเข็นอเนกประสงค์จากเจนสโตร์ ภายใต้แบรนด์ JUMBO ตัวช่วยที่ผู้ประกอบการไว้วางใจ หากคุณคือผู้ประกอบการโกดัง คลังสินค้า E-Commerce และสถานประกอบการขนาดใหญ่ที่กำลังมองหารถเข็นอเนกประสงค์ รถเข็นอุตสาหกรรม รถลากพาเลท หรือรถยกไฟฟ้าเพื่อการใช้งาน JenStore by เจนบรรเจิด เราคือผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์จัดเก็บ ยก ย้าย และเป็นผู้ผลิตรถเข็นคุณภาพชั้นนำแบรนด์ JUMBO ที่ได้รับสิทธิพิเศษในการใช้ "Thailand Trust Mark" ที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลไทย ผ่านกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความไว้วางใจและมั่นใจได้ในรถเข็นคุณภาพระดับพรีเมียมของไทย รถเข็น JUMBO ผลิตจากเหล็กเกรดสำหรับยานยนต์ แข็งแรงทนทาน รับน้ำหนักบรรทุกได้เต็มพิกัดโดยแผ่นพื้นไม่โก่งตัว เข็นคล่องเบาแรงและไม่เกิดรอยบนพื้นด้วยล้อคุณภาพสูง โดยส่งออกไปกว่า 30 ประเทศทั่วโลก โดยมีแบบรถเข็นให้เลือกใช้งานมากมาย เช่น รถเข็นอเนกประสงค์ รถเข็นพับได้ รถเข็นสแตนเลส รถเข็น 2 ล้อ รถเข็นไต่บันได ดอลลี่ แฮนด์ลิฟท์ รถลากพาเลท รถยกถังน้ำมัน โต๊ะยกปรับระดับ รถยกไฟฟ้า รถเข็นช้อปปิ้ง รถเข็นทำความสะอาด รถเข็นแม่บ้าน รถเข็นเก็บจาน รถเข็นโรงแรม รถเข็นสำหรับงานแพทย์ รถเข็นทำแผล รถเข็นฉีดยา พร้อมบริการรับสั่งทำรถเข็นสแตนเลสและรถเข็นเหล็กทุกรูปแบบตามความต้องการใช้งาน มีบริการหลังการขายรับประกันคุณภาพสินค้า ให้เราเป็นผู้ช่วยที่ทำให้ทุกการจัดซื้ออุปกรณ์เคลื่อนย้ายสินค้าเป็นเรื่องง่าย! เพราะเราเข้าใจผู้ประกอบการว่าการมีรถเข็นอุตสาหกรรมและรถยกไฟฟ้าคุณภาพดีนั้นมีประโยชน์ต่อการทำงานมากแค่ไหน ดังนั้นรถเข็นและรถยกไฟฟ้าแบรนด์ JUMBO จึงออกแบบและพัฒนาขึ้นเพื่อผู้ประกอบการโดยเฉพาะ เพื่อให้คุณมั่นใจทุกครั้งที่ใช้งาน และเพื่อให้พนักงานสามารถเคลื่อนย้ายและจัดเรียงสินค้าได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ได้ใช้งานอุปกรณ์เคลื่อนย้ายที่มีมาตรฐาน โดยผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์เคลื่อนย้ายที่มีประสบการณ์มากว่า 30 ปี สนใจดูรายละเอียดสินค้าแบบต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.jenstore.com/handling-br-lifting.html ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) Tel : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
เก็บอะไหล่และอุปกรณ์ช่างอย่างไรไม่ให้ปวดหัว ?

กล่องอะไหล่ และกล่องพลาสติก ตัวช่วยจัดเก็บอะไหล่ เก็บเครื่องมือช่าง หยิบใช้ได้ง่าย สะดวก และรวดเร็วทันการใช้งาน ในช่วงเวลาเร่งรีบ เร่งด่วนของงานซ่อมแซมระบบไฟฟ้า ซ่อมบำรุงเครื่องจักรกล หรือ ซ่อมแซมประตูหน้าต่าง และสิ่งของต่างๆที่เกิดการชำรุด คงเป็นเรื่องปวดหัวมาก ๆ สำหรับช่าง หากจะหยิบจับเครื่องมือที่ต้องการใช้แต่หาไม่เจอเพราะ เครื่องมือที่มีอยู่ไม่ได้จัดเก็บอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แถมเครื่องมือช่างแต่ละชนิดแต่ละประเภทยังกองอยู่รวมกัน ทำให้ต้องใช้เวลาในการค้นหาเครื่องมือ ดังนั้น เครื่องมือจัดเก็บกลุ่มอุปกรณ์ช่าง จัดเก็บอะไหล่ และชิ้นส่วนอุปกรณ์เครื่องจักร เช่น กล่องอะไหล่ และกล่องพลาสติก ที่ช่วยจัดเก็บหรือแยกจัดเก็บเครื่องมือแต่ละประเภทให้เป็นหมวดหมู่ ช่วยให้ค้นหา หรือหยิบจัดเครื่องมือช่างได้ง่ายขึ้น เพราะปัญหาที่จะตามมาจากการไม่มีการจัดเก็บเครื่องมือให้เป็นระเบียบ หยิบจับไปใช้ได้ง่าย อาจเป็นความเสียหายต่อธุรกิจที่รุนแรงได้ หากเกิดอุบัติเหตุเกิดการชำรุดของอุปกรณ์ หรือ เครื่องจักร บางครั้งกว่าจะหาเครื่องมือช่างที่ต้องการใช้เจอก็เกิดความเสียหายไปมากแล้ว โดยเฉพาะงานซ่อมแซมหรือซ่อมบำรุงในโรงพยาบาล โรงแรม รีสอร์ท หรือโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งธุรกิจเหล่านี้เป็นธุรกิจที่ต้องดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง หากไม่สามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจอย่างร้ายแรง อย่างไรก็ดี ด้วยความหลากหลายของเครื่องมือช่าง ทำให้การจัดเก็บต้องมีการแบ่งแยกประเภทของเครื่องมือออกเป็นหมวดหมู่ เพื่อให้ง่ายต่อการจัดเก็บและนำไปใช้งานเมื่อจำเป็น นอกจากนี้เครื่องมือ เครื่องจักรต่างๆ ยังมีอะไหล่ที่มีความสำคัญ จึงต้องมีการแบ่งแยกกันจัดเก็บ ดังนั้น ผู้จัดเก็บจึงต้องเลือกใช้กล่องอะไหล่และกล่องพลาสติก เพื่อแบ่งแยกประเภทของเครื่องมือช่างและอะไหล่ออกจากกัน และยังเป็นการเลือกอุปกรณ์ในการจัดเก็บให้เหมาะสมกับการใช้งานของเครื่องมือช่างในแต่ละประเภท สำหรับการจัดเก็บกลุ่มอุปกรณ์ช่าง นอกจากจะเป็นการดูแลรักษา เครื่องมือช่าง และอะไหล่แล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเครื่องมือช่างและการใช้อะไหล่ในแต่ละธุรกิจ นอกจากนี้ การเลือกใช้กล่องอะไหล่ และกล่องพลาสติกให้ได้เหมาะสมกับประเภทเครื่องมือช่างและการใช้งาน ยังช่วยให้ช่างประหยัดเวลาในการค้น หรือหยิบเครื่องมือไปใช้งานได้อย่างรวดเร็วและถูกประเภทการใช้งาน ซึ่งช่วยลดเวลาในการซ่อมแซมและซ่อมบำรุงเครื่องจักร หรืออุปกรณ์ที่ชำรุดให้กลับมาใช้งานได้รวดเร็วและทันต่อความต้องการ ซึ่งเป็นการประหยัดต้นทุนในการดำเนินกิจการได้อีกทางหนึ่ง แต่ก่อนที่เราจะมารู้จักวิธีการจัดเก็บและจัดระเบียบเครื่องมือช่างนั้น เรามารู้จักกับกล่องอะไหล่ และกล่องพลาสติก ซึ่งเป็นกล่องที่ใช้ในการจัดเก็บเครื่องมือช่างและใช้การแบ่งประเภทเครื่องมือช่าง รวมถึงใช้ในการจัดเก็บอะไหล่เครื่องจักและอุปกรณ์ช่างกันก่อน “กล่องอะไหล่ และกล่องพลาสติก”คือ กล่องพลาสติกที่มีความหนาและเหนียว ซึ่งผลิตขึ้นมาเพื่อใช้จัดเก็บอุปกรณ์ช่างและอะไหล่ และใช้สำหรับแยกประเภทการจัดเก็บชิ้นส่วน หรือวัสดุขนาดเล็ก ซึ่งสามารถติดการ์ดระบุชื่อหรือรหัสอะไหล่เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาและนำใช้งาน โดย กล่องอะไหล่ และกล่องพลาสติก มีทั้งกล่องขนาดใหญ่ ซึ่งใช้เก็บกลุ่มอุปกรณ์ช่าง ต่างๆ สามารถวางซ้อนกันได้หลายชั้น และยังมีกล่องลิ้นชัก ซึ่งสามารถแบ่งช่องขนาดเล็กเพื่อจัดเก็บอะไหล่ และอุปกรณ์ช่างขนาดเล็ก ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 9 ช่องไป โดยกล่องพลาสติกแบบลิ้นชักนี้สามารถนำไปใช้ได้กับตู้เก็บเครื่องมือช่างได้ด้วย นอกจากนี้เพื่อให้ง่ายต่อการจัดระเบียบและแบ่งประเภทกลุ่มอุปกรณ์ช่าง และ ประเภทของอะไหล่ต่างๆ รวมไปถึงการแยกประเภทการใช้งานเครื่องมือ กล่องอะไหล่ และกล่องพลาสติก ยังมีการแยกเป็นสีต่าง เช่น สีเขียว สีน้ำเงิน สีแดง และสีเหลือง สีเทาอีกด้วย เมื่อรู้เราจักกับ กล่องอะไหล่ และกล่องพลาสติก ในเบื้องต้นกันไปแล้ว คราวนี้เรามาดูกันว่าแนวคิดในการจัดระเบียบการจัดเก็บ กลุ่มอุปกรณ์ช่าง และอะไหล่ เครื่องมือช่างต่างๆ ควรจัดการอย่างไร โดยเฉพาะในภาคธุรกิจภาคบริการต่างๆ ซึ่งให้ความสำคัญกับการจัดระเบียบกลุ่มอุปกรณ์เครื่องมือช่างต่างๆ ว่าการจัดเก็บเครื่องมือช่าง อะไหล่ ในกลุ่มอุปกรณ์ช่างของในธุรกิจต่างๆนั้น มีความเป็นระบบเป็นระเบียบ พร้อมใช้งานแล้วหรือยัง โดยวันนี้ เราได้นำ 5 แนวคิดการจัดระเบียบการจัดเก็บอะไหล่ อุปกรณ์เครื่องมือช่าง เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งาน และเก็บรักษาอุปกรณ์ อะไหล่ และเครื่องมือช่าง มาเป็นแนวทางในการจัดระบบเก็บอุปกรณ์ช่างว่ามีวิธีอย่างไร แบ่งโซนการจัดเก็บเครื่องมือช่าง สำหรับขั้นตอนแรกในการจัดระเบียบเครื่องมือช่างที่ควรทำคือ การแยกเครื่องมือแต่ละประเภทออกจากกัน โดยการแบ่งโซนให้ชัดเจน ด้วยการจัดเรียงเครื่องมือช่างออกเป็นหมวดหมู่ตามประเภทของเครื่องมือช่าง ซึ่งการจัดเก็บแบบนี้สามารถแบ่งแยกประเภทเครื่องมือด้วยกล่องอะไหล่ และกล่องพลาสติก โดยใช้สีของกล่องอะไหล่ และกล่องพลาสติกเป็นตัวแยกประเภท ตัวอย่างเช่น โซนประแจในกล่องพลาสติกสีแดง โซนไขควงใช้กล่องพลาสสติกสีเหลือง โซนเลื่อยใช้กล่องสีน้ำเงิน โซนกลุ่มเครื่องมือไฟฟ้าใช้กล่องพลาสติกสีน้ำเงิน ส่วนเครื่องมือช่างขนาดเล็กและอื่นๆ สามารถใช้กล่องอะไหล่แบบแบ่งช่องจัดเก็บเพื่อแยกอะไหล่ชิ้นเล็กๆ ซึ่งจะช่วยให้ง่ายต่อการใช้งาน เพื่อความสะดวกในการหยิบใช้ในครั้งต่อๆไป สร้างตู้เก็บ หรือชั้นเก็บเครื่องมือช่างด้วยกล่องอะไหล่ และกล่องพลาสติก คืออีกหนึ่งวิธี ที่ช่วยจัดระเบียบอุปกรณ์ และเครื่องมือช่าง โดยเราสามารถนำกล่องอะไหล่ หรือ กลุ่มพลาสติก ซึ่งมีคุณสมบัติที่แข็งแรงและสามารถรองรับน้ำหนักได้มากๆ มาปรับแต่งจัดวางซ้อนกัน เพื่อประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ หรือหากมีตู้เก็บเครื่องมือช่างอยู่แล้ว เราสามารถนำกล่องอะไหล่ แบบแยกช่องเล็กมาวางเป็นชั้นเพื่อแยกเก็บชิ้นส่วนอะไหล่ การมีตู้เก็บเครื่องมือช่างจะทำให้สามารถเก็บรักษาเครื่องมือ อุปกรณ์ช่าง และอะไหล่ ไม่ให้ปัญหา ฝุ่น สนิม ต่างๆ ได้ แล้วยังสะดวกต่อการหยิบมาใช้งานอีกด้วย ปรับแต่งผนังห้องให้เป็นที่เก็บเครื่องมือช่าง มีสำนักงานหรือบริษัทหลายๆ แห่งที่มีพื้นที่จัดเก็บเครื่องมือช่างจำกัด จึงใช้ประโยชน์จากผนังห้องในการเก็บอุปกรณ์และเครื่องมือช่าง ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการติดตั้งผนังไม้ระแนงขนาดใหญ่ และใช้ตะขอช่วยในการแขวนเก็บเครื่องมือช่างที่มีน้ำหนักไม่มาก เช่น ไขควง ประแจ ค้อน สิ่ว เลื่อยมือ ฯลฯ นอกจากนั้นยังสามารถจัดเก็บเครื่องมือช่างไว้ในกล่องพลาสติก หรือตะแกรงเพื่อเกี่ยวเครื่องมือช่างของคุณไว้ได้ จัดเก็บเครื่องมือช่าง ไว้ในกระเป๋าเก็บกล่องพลาสติกใสหรือกล่องอะไหล่ เพราะเครื่องมือช่างบางอย่าง ไม่สามารถเก็บไว้บนผนังบอร์ด หรืออาจจะไม่พอดีกับพื้นที่จัดระเบียบสิ่งของที่มีขนาดใหญ่ เช่น เลื่อยวงเดือน สว่านโรตารี่ หรือเครื่องมือช่างที่มีลักษณะที่หนักมากๆ เราสามารถนำเครื่องมือช่างเหล่านี้ ไปจัดเก็บไว้ในกล่องเครื่องมือ หรือถ้าไม่มีกล่องเครื่องมือให้จัดเก็บไว้ในลัง หรือกล่องพลาสติกในการเก็บเครื่องมือช่างและเพื่อป้องกันลืมเราสามารถติดการ์ดป้ายชื่อไว้หน้ากล่องได้ แยกประเภทเก็บอะไหล่ ด้วยกล่องเก็บอะไหล่แบบแยกช่อง หลายๆ ครั้ง วัสดุช่างหรืออะไหล่ขนาดเล็กมีจำนวนและขนาดที่แตกต่างกันหลาย ๆ ชิ้น หากต้องเก็บรวมกันไว้ จะทำให้ยากแก่การค้นหาเมื่อต้องใช้งานในครั้งต่อ ไป ดังนั้นกล่องอะไหล่แบบแยกช่อง จึงเหมาะสำหรับการแยกจัดเก็บ อะไหล่ขนาดเล็ก การนำกล่องอะไหล่แบบมีช่องแยกหลายๆช่อง มาใช้ยังทำให้สามารถจัดระบบ การจัดเก็บอะไหล่และจัดระเบียบชิ้นส่วนขนาดเล็กได้ดีขึ้น และยังสามารถแยก อุปกรณ์ อะไหล่เก่าและอะไหล่ใหม่ออกจากกัน เช่น การแยกน็อตเก่าน็อตใหม่ ตะปูเก่าและใหม่ เพื่อให้สะดวกในการนำมาใช้ใหม่อีกรอบนั่นเอง ความต้องการจัดเก็บเครื่องมือของแต่ละธุรกิจนั้นอาจมีความแตกต่างกันออกไป แต่ในการจัดเก็บนั้นสามารถใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ในการจัดเก็บแบบเดียวกัน และที่สำคัญคือ มีจุดมุ่งหมายในการเก็บเพื่อรักษาเครื่องมือ และความสะดวกในการค้นหา ประหยัดในเวลาในการหยิบจับเครื่องมือ กลุ่มอุปกรณ์ช่าง เมื่อต้องนำออกมาใช้ในครั้งต่อไป รวมถึงความเป็นระเบียบและปลอดภัยนั่นเอง จากแนวคิดการจัดเก็บอุปกรณ์เครื่องมือช่างข้างต้น หากเจ้าของธุรกิจบริการ ในกลุ่มต่างๆ เตรียมวางแผนบริหารจัดการระบบการจัดเก็บเครื่องมือ และรักษากลุ่มอุปกรณ์ช่าง การเลือกซื้อกล่องอะไหล่ และกล่องพลาสติก หรือแผงแขวนเครื่องมือช่าง รวมถึงสินค้าอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูงและแบรนด์ที่น่าเชื่อถือที่ได้การยอมรับ โดยเฉพาะในปัจจุบัน ยังมีช่องทางการจัดซื้อสินค้าอุปกรณ์สำหรับธุรกิจต่อธุรกิจ (B2B) ได้สะดวกมากขึ้นกว่าแต่ก่อน และที่สำคัญยังผ่านการตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มข้น เพื่อให้ลูกค้า ผู้ใช้งานมั่นใจในคุณภาพ และการใช้งานจัดระเบียบระบบการจัดเก็บเครื่องมือ กลุ่มอุปกรณ์ช่าง และอะไหล่ รวมถึงการเก็บรักษาให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น ด้วยคุณสมบัติของ กล่องอะไหล่ และกล่องพลาสติก คุณภาพสูง มีความแข็งแรงและทนทาน ทั้งหมดนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้อง และมีความต้องการใช้กล่องอะไหล่ และกล่องพลาสติก คุณภาพสูงสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์กล่องอะไหล่ และกล่องพลาสติกผ่านเว็บไซต์ JenStore https://www.jenstore.com/ ได้ตลอด24ชั่วโมง ทุกวัน ทั้งนี้ เว็บไซต์ JenStore https://www.jenstore.com/ ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางอีคอมเมิร์ซให้กับผู้ประกอบการธุรกิจองค์กรทุกขนาด ในการเข้ามาเลือกชมสินค้ากล่องอะไหล่ และกล่องพลาสติก และยังมีสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย ที่มีคุณภาพสูง ผลิตจากวัสดุอย่างดี มีความแข็งแรงและทนทาน ที่ตรงตามต้องการหรือประเภทการใช้งานได้เป็นอย่างดี ด้วยระบบการจัดการเลือกซื้อสินค้าและการชำระเงินที่ง่ายดายและสะดวก JenStore by เจนบรรเจิด เราคือผู้ช่วยที่รู้ใจ พร้อมช่วยดูแลและให้คำแนะนำในการเลือกซื้ออุปกรณ์สำหรับการจัดเก็บยกย้ายสินค้า ที่มีสินค้าหลากหลายที่สุด ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งาน อาทิเช่น แผงแขวนเครื่องมือช่าง รถเข็นเครื่องมือช่าง โต๊ะช่าง เก้าอี้ช่าง โต๊ะสแตนเลส บันไดอลูมิเนียม รับจัดหาสินค้าให้ตรงตามรูปแบบการใช้งานที่ต้องการ มีบริการหลังการขายรับประกันคุณภาพสินค้า ให้เราเป็นผู้ช่วยที่ทำให้ทุกการจัดซื้ออุปกรณ์ช่าง อุปกรณ์จัดเก็บเครื่องมือช่างเป็นเรื่องง่าย! ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) Tel : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
แนะนำรถเข็นรูปแบบต่างๆ ในคลังสินค้า

เปลี่ยนการทำงานในโกดัง คลังสินค้า ให้ง่ายขึ้นด้วยรถเข็นอเนกประสงค์ การทำงานในโกดังและคลังสินค้า นอกจากการให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยในที่ทำงานแล้ว เรื่องการเคลื่อนย้ายสินค้า อุปกรณ์ พาเลท ไปจนถึงการจัดเรียงสินค้าก็สำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นการเลือกใช้งานอุปกรณ์เคลื่อนย้ายอย่าง รถเข็นอเนกประสงค์ จึงเข้ามามีส่วนช่วยให้การทำงานในคลังสินค้าง่าย สะดวก และช่วยทุ่นแรงให้กับพนักงานเป็นอย่างมาก แต่มีรถเข็นอเนกประสงค์ รถลากพาเลท หรือรถเข็นประเภทใดบ้างที่นิยมใช้ในโกดังหรือคลังสินค้า และจะเลือกรถเข็นแบบใดให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด บทความวันนี้มีคำตอบมาฝาก รถเข็นแบบใดนิยมใช้ในโกดังและคลังสินค้า รถเข็นมีหลากหลายรูปแบบ มีทั้งการใช้งานด้วยระบบไฮดรอลิกและระบบไฟฟ้าอย่าง รถยกไฟฟ้า แต่รถเข็นแบบไหนได้รับความนิยมในการใช้งานขนย้ายสินค้าภายในโกดังและคลังสินค้า หรือใช้งานสำหรับการจัดเรียงสินค้าต่าง ๆ มากที่สุด ลองมาดูกัน รถเข็นอเนกประสงค์ รถเข็นอเนกประสงค์เป็นรถเข็นที่ใช้งานในคลังสินค้าบ่อยที่สุดเลยก็ว่าได้ มีลักษณะเป็นรถเข็น 4 ล้อ มีฐานกว้างและแบนราบสำหรับวางของ วางสินค้า และอุปกรณ์ต่าง ๆ โครงสร้างมักเป็น รถเข็นเหล็ก เพื่อความแข็งแรง ล้อรถเข็น เป็น ล้อยาง เพื่อลดการเกิดเสียงดังระหว่างเคลื่อนย้ายสิ่งของ รถเข็นอเนกประสงค์ สามารถรองรับน้ำหนักได้มาก แข็งแรง ทนทาน และบังคับทิศทางได้ง่าย ช่วยทุ่นแรงในการเคลื่อนย้ายสิ่งของได้ดี สามารถใช้ขนสินค้าทั้งที่บรรจุอยู่ในกล่อง ลัง และสินค้าที่วางตั้งบนรถเข็นได้ เช่น ตู้ ลิ้นชัก ชั้นวางของ เป็นต้น รถเข็นดอลลี่รถเข็นดอลลี่เป็นหนึ่งในรถเข็นอเนกประสงค์ มีทั้งแบบ รถเข็นเหล็ก รถเข็นพลาสติก และ รถเข็นสแตนเลส ลักษณะพิเศษคือเป็นรถเข็นที่ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบเนื่องจากไม่มีด้ามหรือราวจับ สามารถนำมาต่อกันเพื่อขนย้ายสินค้าขนาดใหญ่ได้ หรือจะเป็นรถเข็นดอลลี่แบบไม่มีฐานวางก็เป็นรถเข็นที่ออกแบบมาเพื่อเคลื่อนย้าย ลังพลาสติก โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังสามารถปรับการติดตั้งมือจับเพื่อลากรถเข็นในทิศทางที่เหมาะสมกับการจัดวางสินค้าก็ได้ รถเข็นทรงสูง รถเข็นทรงสูงมักเป็นรถเข็นสแตนเลส มีลักษณะเป็นทั้ง รถเข็น 2 ล้อ และ รถเข็น 4 ล้อ จุดเด่นคือมีตะแกรงล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน ภายในอาจแบ่งช่องเพื่อให้ใส่สินค้าได้อย่างเป็นระเบียบ มักใช้งานเพื่อเคลื่อนย้ายสินค้าที่ต้องการแบ่งเป็นหมวดหมู่ เหมาะกับการเคลื่อนย้ายสินค้าในพื้นที่ขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็น รถเข็นช้อปปิ้ง สำหรับคนทั่วไปได้ด้วย รถลากพาเลท รถลากพาเลท หรือ Hand Pallet Truck เป็นรถลากที่มีลักษณะเป็นงาสองข้าง ผลิตจากวัสดุที่เป็นเห็กแข็งแรง สามารถยกพาเลทสินค้าที่มีน้ำหนักมากได้ด้วยระบบไฮดรอลิก ถือเป็นอุปกรณ์เคลื่อนย้ายที่ขาดไม่ได้ในคลังสินค้า โดยเฉพาะในคลังสินค้าขนาดใหญ่ที่ต้องขนย้ายสินค้าน้ำหนักมาก การใช้รถลากพาเลทจะช่วยให้เคลื่อนย้ายสินค้าได้อย่างรวดเร็ว เป็นระเบียบ ปลอดภัยและช่วยทุ่นแรงในการเคลื่อนย้ายสินค้าได้เป็นอย่างดี ความจริงอุปกรณ์เคลื่อนย้ายอย่าง รถเข็น แบบต่าง ๆ นั้นยังมีอีกหลายประเภท ดังนั้นจึงควรทำความรู้จักกับลักษณะการใช้งานให้ดี เพื่อให้สามารถเลือกรถเข็นที่เหมาะสมกับพื้นที่และการใช้งานของเรามากที่สุดได้ ประโยชน์ของรถเข็นอเนกประสงค์ ประโยชน์ที่สำคัญที่สุดของรถเข็นอเนกประสงค์ คือช่วยอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายสินค้า ขนย้ายสินค้า อุปกรณ์ และช่วยในการจัดเรียงสินค้าต่าง ๆ แต่นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ด้านต่าง ๆ อีกหลากหลาย คือ การใช้รถเข็นอเนกประสงค์ รถยกไฟฟ้า หรืออุปกรณ์เคลื่อนย้ายอื่น ๆ ช่วยให้ประหยัดเวลามากขึ้น เพาะสามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของได้คราวละมาก ๆ ในครั้งเดียว การใช้รถเข็นช่วยประหยัดและทุ่นแรงคนได้มาก เพราะรถเข็นเป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อให้เคลื่อนย้ายของหนักได้ง่ายขึ้น จึงออกแบบและดีไซน์รถมาให้รองรับน้ำหนักได้มาก รวมถึงช่วยลดการใช้แรงเมื่อต้องเคลื่อนย้ายด้วย รถเข็นอเนกประสงค์ รถยกไฟฟ้า รถลากพาเลท รวมถึงอุปกรณ์เคลื่อนย้ายอื่น ๆ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยในที่ทำงาน อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของพนักงานในระยะยาว การใช้รถเข็นให้เหมาะกับงานช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดความเสียหายต่อตัวสินค้า โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายสินค้าที่มีน้ำหนักมาก และการขนสินค้าขึ้นที่สูง รถเข็นอเนกประสงค์ ส่วนใหญ่ผลิตจากเหล็ก สแตนเลส หรือพลาสติกที่มีความคงทน แข็งแรง รวมถึงติดตั้งลูกล้อที่รองรับน้ำหนักและแรงกระแทกได้ดี จึงรับน้ำหนักได้มากและใช้งานได้นาน รถเข็นบางรุ่นเป็น รถเข็นพับได้ ทำให้ประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บ ไม่เปลืองพื้นที่ในโกดังและคลังสินค้า เลือกรถเข็นอเนกประสงค์ อย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด นอกจากการเลือกรถเข็นให้เหมาะสมกับการใช้งานแล้ว ต้องไม่ลืมเลือกรถเข็นอเนกประสงค์ ให้ทนทาน ใช้งานได้นาน คุ้มค่า และเหมาะสมกับงานมากที่สุดด้วย โดยเลือกจากปัจจัยดังต่อไปนี้ รถเข็น 2 ล้อ รถเข็น 2 ล้อเป็นรถเข็นที่มีลูกล้อเพียง 2 ล้อด้านหลัง ส่วนด้านหน้าจะเป็นโครงเหล็ก สามารถวางตั้งหรือพิงผนังได้ เหมาะสำหรับการเคลื่อนย้ายและขนสินค้า เช่น ลังกระดาษ ตะกร้าสินค้า เป็นต้น ช่วยทุ่นแรงและทำให้ขนย้ายสินค้าได้คล่องตัวมากขึ้น มีทั้งแบบรถเข็น 2 ล้อทั่วไปและแบบโค้งที่ใช้ในการขนย้ายตะกร้ากลมหรือถังกลม เราสามารถเห็นการใช้งานรถเข็น 2 ล้อได้บ่อย ๆ ในตลาด ห้างสรรพสินค้า หรือร ถยกถังน้ำมัน บางรุ่นก็เป็นรถเข็นแบบ 2 ล้อเช่นกัน รถเข็น 4 ล้อรถเข็น 4 ล้อคือรถเข็นที่มีลูกล้อขนาดเล็ก 4 ล้อติดอยู่มุมของตัวรถหรือฐานของรถช่วยรองรับน้ำหนักได้ดีอีกทั้งยังช่วยรองรับแรงกระแทกและกระจายน้ำหนัก นิยมใช้ใน รถเข็นพาเลท รถยกไฟฟ้า หรือรถเข็นอื่น ๆ ที่ใช้ในโกดังและคลังสินค้า วัสดุที่นำมาผลิต รถเข็นอเนกประสงค์ หลายแบบ ทั้ง รถเข็นเหล็ก รถเข็นสแตนเลส และรถเข็นพลาสติก การเลือกวัสดุของตัวรถขึ้นอยู่กับการใช้งาน หากต้องการความทนทาน รองรับน้ำหนักมาก ควรเลือกรถเข็นที่ทำจากเหล็ก หากต้องการให้ทำความสะอาดง่าย ลดการเกิดสนิมก็เลือกรถเข็นสแตนเลส ซึ่งวัสดุแต่ละอย่างก็เหมาะกับลักษณะสินค้าแตกต่างกันออกไป ลูกล้อของรถเข็นนอกจากตัวรถแล้ว ลูก ล้อรถเข็น ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน การเลือกลูกล้อควรเลือก ล้อยาง ที่มีความทนทาน แข็งแรง รองรับแรงกระแทกได้ดี นอกจากนี้หากต้องขนสินค้าขึ้น-ลงบันได ควรเลือกรถเข็นที่มีลูกล้อ 3 เหลี่ยมเพื่อให้สามารถขนสินค้าบนพื้นที่ต่างระดับได้ด้วย หรืออาจเลือกเป็น รถเข็นไต่บันได โดยเฉพาะก็ได้ การเลือกรถเข็น รถยกไฟฟ้า หรืออุปกรณ์เคลื่อนย้ายให้คุ้มค่าที่สุดนั้นต้องพิจารณาจากหน้างานเป็นสำคัญว่านำไปใช้กับหน้างานลักษณะใด ขนาดพื้นที่กว้าง แคบ หรือเป็นแนวดิ่งหรือไม่ รวมถึงสินค้าที่ขนย้ายมีน้ำหนักมากน้อยเท่าไร หรือเป็นการขนย้ายสินค้าที่มีลักษณะเฉพาะ เพื่อให้สามารถเลือก รถเข็น ที่เหมาะสมกับงาน ใช้งานได้นาน และคุ้มค่ากับการลงทุนมากที่สุด เลือกรถเข็นอเนกประสงค์ สำหรับคลังสินค้า ต้อง JUMBO รถเข็นอเนกประสงค์ รถยกไฟฟ้า และอุปกรณ์เคลื่อนย้ายจากแบรนด์ JUMBO ออกแบบและผลิตด้วยมาตรฐานระดับสากล ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการโกดัง คลังสินค้า E-Commerce โรงพยาบาล โรงแรม โรงงานอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการโลจิสติกส์ได้เป็นอย่างดี เพราะมีรถเข็นหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้งานตามความเหมาะสม สามารถสั่งผลิตรถเข็นแบบที่คุณต้องการได้ เพื่อให้ลูกค้าของเรามั่นใจว่าจะได้รถเข็นและอุปกรณ์เคลื่อนย้ายที่เหมาะสมกับการใช้งานในราคาที่คุ้มค่ามากที่สุด รถเข็นอเนกประสงค์ รถลากพาเลท รถยกไฟฟ้า และอุปกรณ์เคลื่อนย้าย JUMBO จัดจำหน่ายภายใต้บริษัท เจนบรรเจิด จำกัด ผู้นำด้านการผลิต จำหน่าย และส่งออกอุปกรณ์จัดเก็บยกย้าย (Materials Handling Equipment) มีประสบการณ์มานานกว่า 30 ปี เราพร้อมให้บริการทั้งก่อนและหลังการขาย ด้วยทีมงานที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ พร้อมให้บริการแบบครบวงจรตั้งแต่การออกแบบ ติดตั้ง เพื่อช่วยพัฒนาคลังสินค้าและธุรกิจของลูกค้าทุกรายให้สามารถดำเนินการได้อย่างปลอดภัย มีศักยภาพ และได้มาตรฐานระดับสากล รวมถึงยกระดับโกดัง คลังสินค้า และสถานประกอบการของลูกค้าไปสู่คลังสินค้าอัตโนมัติระดับ หรือ Intelligent Warehouse เพื่อให้พัฒนาเป็นโกดังและคลังสินค้าชั้นนำระดับอาเซียน เพราะเราเข้าใจความสำคัญของการเคลื่อนย้าย จัดเรียง และขนถ่ายสินค้า เราจึงมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและการบริการเพื่อให้ตอบรับความต้องการของลูกค้าและผู้ประกอบการมากที่สุด หากท่านสนใจอุปกรณ์เคลื่อนย้ายรถเข็นอเนกประสงค์ รถยกไฟฟ้า รถเข็นพาเลท และ รถเข็น ประเภทอื่น ๆ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่ https://www.jenstore.com/handling-br-lifting.html ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) Tel : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
Zero Accident ในโรงงานเป็นไปได้ในองค์กร ด้วยอุปกรณ์ความปลอดภัย

Zero Accident ในโรงงานเป็นไปได้ในองค์กร ด้วยอุปกรณ์ความปลอดภัย 7 เคล็ด (ไม่) ลับ ลดอุบัติเหตุภายในโรงงานอุตสาหกรรมให้เป็นศูนย์ ด้วยการจัดเตรียมอุปกรณ์ความปลอดภัย ควบคู่ไปกับการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรม การทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยผู้คน เครื่องจักรกล และวัตถุดิบต่าง ๆ ที่วางเรียงรายอยู่มากมาย ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ปฏิบัติงานหลาย ๆ คนมีความเสี่ยงต่อการประสบอุบัติเหตุในระหว่างการทำงานจากความประมาทและความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จนนำไปสู่การได้รับบาดเจ็บที่รุนแรงและการสูญเสียต่อทั้งชีวิตและทรัพย์สินได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นแล้วเพื่อเป็นการช่วยเพิ่มความปลอดภัยในระหว่างการปฏิบัติงานให้กับพนักงานทุกคน การวางแผนการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยเพื่อการลดสถิติอุบัติเหตุภายในโรงงานอุตสาหกรรมให้เป็นศูนย์ (Zero Accident Campaign) ด้วยการจัดเตรียมอุปกรณ์ความปลอดภัย อย่างเช่น กรวยจราจร เสากั้นจราจร และ ถังดับเพลิง ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ควบคู่ไปกับการกำหนดแนวทางการปฏิบัติตนเพื่อเป็นการป้องกันและลดความเสี่ยงในการอุบัติเหตุภายในสถานที่ปฏิบัติงาน จึงถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากสำหรับทุกโรงงานอุตสาหกรรม วันนี้ JenStore by Jenbunjerd จึงได้ทำการรวบรวม 7 เคล็ด (ไม่) ลับดี ๆ ในการลดอุบัติเหตุภายในโรงงานอุตสาหกรรมให้เป็นศูนย์มาฝากเจ้าของธุรกิจและผู้บริหารองค์กรทุกคน ดังนี้ 7 เคล็ด (ไม่) ลับ ลดอุบัติเหตุภายในโรงงานอุตสาหกรรมให้เป็นศูนย์ จัดเตรียมอุปกรณ์ความปลอดภัยส่วนบุคคลให้พร้อมสำหรับการใช้งานอยู่เสมอในการป้องกันและลดอุบัติเหตุไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการปฏิบัติงานภายในโรงงานอุตสาหกรรมให้เหลือศูนย์ องค์กรจำเป็นที่จะต้องมีการวางแผนและจัดเตรียมอุปกรณ์ความปลอดภัยส่วนบุคคลที่มีคุณภาพให้กับพนักงานผู้ทำงานภาคปฏิบัติในโรงงานอุตสาหกรรมทุกคนอย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นชุดป้องกันหรือเสื้อนิรภัย ชุดป้องกันสารเคมี ชุด PPE หมวกเซฟตี้ แว่นตานิรภัย ที่ครอบหู หน้ากากกันฝุ่น ถุงมือนิรภัย หรือ รองเท้าเซฟตี้ พร้อมกันนี้ยังควรทำการตรวจสอบและดูแลให้อุปกรณ์ความปลอดภัยต่าง ๆ เหล่านี้อยู่ในสภาพที่พร้อมสำหรับการใช้งานอยู่เสมอ เพื่อเป็นการช่วยให้พนักงานทุกคนได้รับการปกป้องอย่างปลอดภัยในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในขณะที่กำลังปฏิบัติงาน ยกตัวอย่างเช่น การชนเข้ากับสิ่งของ การถูก รถยกไฟฟ้า หรือ รถลากพาเลท เฉี่ยวชน ตลอดจนการถูกวัสดุตกลงมากระทบ เป็นต้น แบ่งพื้นที่ในการทำงานออกจากกันอย่างชัดเจนปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบ่อยครั้งที่การเกิดอุบัติเหตุภายในโรงงานอุตสาหกรรมหรือคลังจัดเก็บสินค้าขนาดใหญ่ มักมีสาเหตุมาจากการที่ผู้บริหารองค์กรและหัวหน้างานไม่ได้ทำการวางแผนและนำเอาอุปกรณ์ความปลอดภัย อย่างเช่น กรวยจราจร และเสากั้นจราจร มาใช้งานเพื่อการช่วยจัดแบ่งพื้นที่สำหรับการปฏิบัติงาน พื้นที่สำหรับจัดวางเครื่องจักร อุปกรณ์ รวมถึงวัตถุดิบต่าง ๆ ตลอดจนเส้นทางสำหรับการเดิน รถยกไฟฟ้า หรือรถบรรทุกสินค้า ออกจากกันอย่างชัดเจนจนทำให้ผู้ปฏิบัติงานภายในพื้นที่ทุกคนมีความเสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บจากการชนเข้ากับสิ่งของหรือเครื่องจักรที่ถูกวางเอาไว้อย่างระเกะระกะ หรือการถูกเฉี่ยวชนโดยรถบรรทุกและขนย้ายสินค้าที่สัญจรไปมาอย่างไม่รู้ทิศทางได้มากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นแล้วจึงเป็นหน้าที่สำคัญของผู้บริหารองค์กรทุกคนที่จำเป็นจะต้องคอยตรวจสอบดูแลความเรียบร้อยภายในโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมวางแผนการนำเอา กรวยจราจร และเสากั้นจราจรมาใช้ในการแบ่งพื้นที่ในการทำงานออกจากกันอย่างชัดเจน เพื่อเป็นการช่วยป้องกันและลดอุบัติเหตุภายในโรงงานอุตสาหกรรมให้เป็นศูนย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จัดอบรมชี้แจงเกี่ยวกับกฎระเบียบและมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในโรงงานอุตสาหกรรมการจัดอบรมเพื่อทำการชี้แจงกฎระเบียบ และมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อการบังคับใช้งานภายในโรงงานอุตสาหกรรม ถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเปิดโอกาสให้พนักงานที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับกฎระเบียบและมาตรการรักษาความปลอดภัยต่าง ๆ ภายในโรงงานอุตสาหกรรมได้มีโอกาสซักถามข้อสงสัยเพื่อการสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน พร้อมกันนี้ยังเป็นการช่วยส่งเสริมให้พนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ภายในโรงงานอุตสาหกรรมทุกคนมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติตน และการใช้งานอุปกรณ์ความปลอดภัยในขณะที่กำลังปฏิบัติงานภายในโรงงานอุตสาหกรรมได้ดีมากยิ่งขึ้น เพื่อการมุ่งไปสู่เป้าหมายในการช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากความประมาทและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ในระหว่างการปฏิบัติงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เตรียมบทลงโทษทางวินัยสำหรับพนักงานที่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบและมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในโรงงานอุตสาหกรรมการมอบบทลงโทษทางวินัยไม่ว่าจะเป็นการว่ากล่าวตักเตือนด้วยวาจา การออกใบเตือนหรือหนังสือเตือน ตลอดจนการให้พักงานและการเลิกจ้าง ให้กับพนักงานที่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบและมาตรการรักษาความปลอดภัย และไม่ได้มีการใช้งานอุปกรณ์ความปลอดภัยภายในโรงงานอุตสาหกรรมอย่างถูกต้องไม่ว่าจะด้วยเจตนาหรือไม่ก็ตาม ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในข้อปฏิบัติสำคัญที่จะช่วยทำให้พนักงานทุกคนได้รับรู้ถึงข้อผิดพลาดที่ตนเองได้ลงมือทำและนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นเหล่านั้น พร้อมกันนี้การมอบบทลงโทษทางวินัยยังเป็นการช่วยส่งเสริมให้พนักงานที่เคยทำพลาดเกิดความระมัดระวังในการปฏิบัติตัวมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันการทำผิดพลาดซ้ำเดิมที่อาจนำไปสู่การได้รับบทลงโทษทางวินัยที่รุนแรงมากขึ้นจนถึงขั้นถูกไล่ออกได้ ให้ความสำคัญกับการติดตั้งป้ายแจ้งเตือนภายในโรงงานอุตสาหกรรมในการสร้างพื้นที่การทำงานภายในโรงงานอุตสาหกรรมให้มีความปลอดภัยจากการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด อีกหนึ่งอุปกรณ์ความปลอดภัยที่สำคัญ จะขาดไปไม่ได้เลยในพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรมนั้น คือ ป้ายแจ้งเตือน หรือป้ายสะท้อนแสงประเภทต่าง ๆ เนื่องจากรูปลักษณ์และสีสันของป้ายแจ้งเตือนและป้ายสะท้อนแสงเหล่านี้คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้ผู้ปฏิบัติงานภายในโรงงานอุตสาหกรรมทุกคนสามารถสังเกตเห็นถึงการแจ้งเตือนให้หลีกเลี่ยง และเพิ่มความระมัดระวังเมื่อต้องทำการสัญจรผ่านพื้นที่มีการซ่อมแซมบำรุงรักษาเครื่องจักร หรือพื้นที่ที่มีการชำรุดทรุดโทรมที่กำลังรอการปรับปรุงแก้ไข ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าการติดตั้งและใช้งานอุปกรณ์ความปลอดภัยอย่าง กรวยจราจร และ เสากั้นจราจร ในการกั้นเขตพื้นที่ดังกล่าวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น หมั่นดูแลและเอาใจใส่สุขภาพของพนักงาน ในการลดการเกิดอุบัติเหตุภายในโรงงานอุตสาหกรรมให้เป็นศูนย์ แม้ว่าเจ้าของธุรกิจหรือผู้บริหารองค์กรจะมีการเตรียมความพร้อมในด้านของการจัดแบ่งพื้นที่ใช้สอยภายในโรงงานอย่างเป็นระบบระเบียบด้วยการใช้กรวยจราจร และเสากั้นจราจร ตลอดจนมีการจัดเตรียมอุปกรณ์ความปลอดภัยทั้งแบบส่วนบุคคลและแบบส่วนรวมมาอย่างเพียบพร้อมมากสักแค่ไหน แต่ถ้าหากเจ้าของธุรกิจหรือผู้บริหารองค์กรไม่ได้มีความให้ความใส่ใจกับสุขภาพของพนักงานอย่างสม่ำเสมอ ก็อาจทำให้ปัญหาด้านสุขภาพที่พนักงานหลาย ๆ คนกำลังเผชิญอยู่กลายมาเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้พนักงานเหล่านี้เสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บในระหว่างการทำงานจากความไม่พร้อมของร่างกายตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น การหน้ามืดและเป็นลมในระหว่างการปฏิบัติงานจนนำไปสู่การพลัดตกหรือลื่นหกล้ม หรือการโดนเครื่องจักรและอุปกรณ์บาด เกี่ยว หรือหนีบจนเกิดการบาดเจ็บที่อาจรุนแรงไปจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ สอดส่องดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของพื้นที่ปฏิบัติงานภายในโรงงานอุตสาหกรรมอยู่เสมอการสอดส่องดูแลพื้นที่ปฏิบัติงานภายในโรงงานอุตสาหกรรมให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยตามแบบแผน และมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้มีการวางแผนเอาไว้อยู่เสมอ เป็นหนึ่งในหน้าที่ปฏิบัติที่สำคัญของผู้บริหารองค์กรและหัวหน้างานทุกคน เพราะการมีสถานที่และสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงานที่ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยและสะอาดตาจะช่วยทำให้พนักงานทุกคนสามารถทำการหยิบจับสิ่งของหรืออุปกรณ์ความปลอดภัยมาใช้งานได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ยังเป็นการช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุภายในโรงงานอุตสาหกรรมจากการโดนข้าวของที่ถูกจัดวางเอาไว้อย่างไม่เป็นระเบียบหล่นใส่ หรือการเดินชนเข้ากับสิ่งของที่วางกองทิ้งเอาไว้โดยไม่ตั้งใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อตอบสนองต่อเป้าหมายสำคัญของการรณรงค์ช่วยลดสถิติอุบัติเหตุภายในโรงงานอุตสาหกรรมให้เป็นศูนย์ (Zero Accident Campaign) JenStore by Jenbunjerd เราคือผู้ช่วยคู่คิด ที่พร้อมช่วยให้เจ้าของธุรกิจทุกคนสามารถเลือกสรรอุปกรณ์ความปลอดภัย และอุปกรณ์ใช้สำหรับอาคารสถานที่จากหลากหลายแบรนด์สินค้าชั้นนำ คุณภาพและความทนทานสูง ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลก อาทิ อุปกรณ์จราจร กรวยจราจร เสากั้นจราจร ไม้กั้นเขตยืดได้ อุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัยและอุบัติเหตุ ถังดับเพลิง เครื่องส่งสัญญาณ อุปกรณ์กั้นเขต แผงกั้น เสากั้นทางเดินสเตนเลส และสายคล้องเสากั้นทางเดิน อุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ ชุดป้องกันสารเคมี หรือชุด PPE หน้ากากกันสารเคมี เข็มขัดกันตก หมวกนิรภัย ที่ครอบหูกันเสียง แว่นตานิรภัย แผ่นยางกันลื่น รองเท้าเซฟตี้ ถุงมือกันความร้อน ถุงมือกันไฟฟ้า เป็นต้น มาใช้งานภายในองค์กรและโรงงานอุตสาหกรรมของคุณได้อย่างตรงตามความต้องการมากที่สุด เจนสโตร์ บริการให้คำปรึกษาในการเลือกใช้งานอุปกรณ์ความปลอดภัย และอุปกรณ์ใช้สำหรับอาคารสถานที่ พร้อมบริการจัดหาสินค้าให้ตรงตามรูปแบบการใช้งานที่ต้องการ และบริการติดตั้งและการดูแลหลังการขายแบบครบวงจร ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) Tel : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
รถยกไฟฟ้า และอุปกรณ์ยกสินค้าขึ้นที่สูง เลือกใช้งานอย่างไรให้ตอบโจทย์

รถยกไฟฟ้า และอุปกรณ์ยกสินค้าขึ้นที่สูง เลือกใช้งานอย่างไรให้ตอบโจทย์ แนะนำ 5 อุปกรณ์ยกสินค้าและรถยกไฟฟ้าสำหรับการช่วยจัดเก็บ ยก ย้าย สินค้าขึ้นที่สูง ในการบริหารจัดการคลังจัดเก็บสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าทั้งศูนย์กระจายสินค้าที่มีขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ที่มีสินค้า วัตถุดิบ รวมถึงอุปกรณ์และเครื่องจักรอุตสาหกรรมจำนวนมากถูกเคลื่อนย้ายเพื่อการนำเข้าและส่งออกอยู่ตลอดเวลา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการมีอุปกรณ์และเครื่องมือที่สามารถช่วยในการทุ่นแรงให้กับผู้ปฏิบัติงานไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์สำหรับเคลื่อนย้ายสินค้า หรืออุปกรณ์สำหรับยกสินค้าในคลังสินค้าขึ้นที่สูง อย่างเช่น รถยกไฟฟ้า รถยกลาก รถแฮนด์ลิฟท์ และรถยกสูง คือหนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่สามารถช่วยให้การปฏิบัติงานภายในคลังจัดเก็บสินค้าเป็นไปด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย และมีความปลอดภัยต่อผู้ปฏิบัติงานภายในคลังจัดเก็บสินค้าทุกคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้นแล้วในวันนี้ JenStore by Jenbunjerd จึงอยากจะขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ 5 อุปกรณ์สำหรับการช่วยจัดเก็บ ยก ย้าย สินค้าในคลังสินค้าขึ้นที่สูง ซึ่งเปรียบได้กับผู้ช่วยคนสำคัญที่จะมาช่วยลดภาระในการทำงาน และช่วยอำนวยความสะดวกเพื่อให้การบริหารจัดการภายในคลังจัดเก็บสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าเป็นไปได้อย่างสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แนะนำ 5 อุปกรณ์ยกสินค้าและรถยกไฟฟ้าสำหรับการช่วยจัดเก็บ ยก ย้าย สินค้าในคลังสินค้าขึ้นที่สูง รถฟอร์คลิฟท์ (Forklift) หรือรถยกไฟฟ้ารถยกไฟฟ้า หรือที่หลาย ๆ คนรู้จักกันในชื่อของรถฟอร์คลิฟท์ (Forklift) เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ช่วยทุ่นแรงในการจัดเก็บ ยก ย้าย สินค้าแบบอเนกประสงค์ ที่ได้รับความนิยมในการนำมาใช้งานภายในคลังจัดเก็บสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าในหลากหลายอุตสาหกรรมอย่างแพร่หลาย เนื่องด้วยจุดเด่นในด้านของลักษณะของตัว รถยกไฟฟ้า หรือรถฟอร์คลิฟท์ ที่ถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็กกะทัดรัดเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการในการนำมาใช้งานในพื้นที่คลังจัดเก็บสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าทั้งที่มีขนาดใหญ่และขนาดเล็กได้อย่างเหมาะสม แต่ทว่าในส่วนของตัวโครงสร้างหลักของตัวรถยกไฟฟ้า หรือที่เรานิยมเรียกกันว่า “งา” ของรถยกไฟฟ้านั้นกลับถูกออกแบบมาให้มีสมรรถนะในการใช้งานที่ค่อนข้างสูง จึงทำให้โดยทั่วไปแล้วรถยกไฟฟ้าส่วนใหญ่จึงสามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกของสินค้าได้มากถึง 1 ตันเลยทีเดียวเพราะฉะนั้นแล้วการเลือกใช้งาน รถยกไฟฟ้า หรือรถฟอร์คลิฟท์ ภายในคลังจัดเก็บสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะสามารถช่วยทุ่นแรงและช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานทุกคนสามารถทำการขนย้ายสินค้า วัตถุดิบ หรืออุปกรณ์ที่มีน้ำหนักมากขึ้นไปจัดเก็บยังที่สูงได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และนอกจากนี้ ในปัจจุบันนี้รถยกไฟฟ้ายังได้ถูกพัฒนาขึ้นมาให้มีการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่แทนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง จึงทำให้สามารถช่วยแก้ไขปัญหาเสียงรบกวน รวมถึงเขม่าควันและมลพิษที่เกิดขึ้นจากการใช้งานรถยกไฟฟ้าแบบใช้น้ำมัน พร้อมทั้งยังสามารถช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถยกไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย โต๊ะยกปรับระดับ (Mobile Lift Table)ในการขนย้ายสินค้าและวัตถุดิบต่าง ๆ ในคลังสินค้าขึ้นไปจัดเก็บยังชั้นวางของที่อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง โต๊ะยกปรับระดับ (Mobile Lift Table) ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ทุ่นแรงที่สำคัญ ที่ได้รับความนิยมในการนำมาใช้งานเพื่อเป็นการช่วยสนับสนุนให้การยก ย้าย และจัดเก็บสินค้าภายในคลังจัดเก็บสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าเป็นไปได้อย่างสะดวก ราบรื่น และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว โต๊ะยกปรับระดับ ถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ช่วยทุ่นแรงแบบอเนกประสงค์ที่สามารถนำมาใช้งานได้ในหลากหลายอุตสาหกรรมเช่นเดียวกันกับ รถยกไฟฟ้า เนื่องด้วยจุดเด่นของหน้าโต๊ะที่มีลักษณะเป็นพื้นเรียบ จึงทำให้สามารถช่วยกระจายน้ำหนักเพื่อการรองรับการจัดวางสินค้าและวัตถุดิบต่าง ๆ ในทุกรูปแบบได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกทั้ง โต๊ะยกปรับระดับ ยังมีจุดเด่นในด้านของระบบการทำงานแบบไฮดรอลิค ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำการยกและเคลื่อนย้ายสินค้าและวัตถุดิบต่าง ๆ ขึ้น-ลง เพื่อการนำไปจัดเก็บและใช้งานได้อย่างว่องไวและนุ่มนวล รวมไปถึงระบบป้องกันการทรุดตัวของโต๊ะยกปรับระดับที่ช่วยให้ผู้ใช้งานทุกคนสามารถไว้วางใจในความปลอดภัยของการใช้งานโต๊ะยกปรับระดับได้มากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตามด้วยรูปแบบและโครงสร้างของโต๊ะยกปรับระดับที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสำหรับการเคลื่อนย้ายและการพับเก็บเมื่อไม่ได้มีการใช้งานนั้น ส่งผลให้โต๊ะยกปรับระดับจึงเป็นอุปกรณ์ช่วยทุ่นแรงที่มีข้อจำกัดในด้านของการรองรับน้ำหนักบรรทุกที่ค่อนข้างน้อย จึงทำให้โต๊ะยกปรับระดับเป็นอุปกรณ์ที่ไม่เหมาะสำหรับการนำมาใช้ในการยกหรือเคลื่อนย้ายสินค้าในอุตสาหกรรมหนักเหมือนอย่างเช่นรถยกไฟฟ้าหรือรถยกสูงคลังสินค้าประเภทอื่น ๆ รถสแตกเกอร์ (Stacker)รถสแตกเกอร์ (Stacker) เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของรถยกสูงคลังสินค้าที่ได้รับความนิยมในการนำมาใช้งานภายในคลังจัดเก็บสินค้าทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่อย่างแพร่หลาย เช่นเดียวกันกับรถยกไฟฟ้า หรือรถฟอร์คลิฟท์ เพื่อประโยชน์ในการช่วยทุ่นแรงและเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ปฏิบัติงานทุกคนในการยกหรือย้ายสินค้าขึ้นไปจัดเก็บยังพื้นที่สูง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วรถสแตกเกอร์ถือได้ว่าเป็นรถยกสูงคลังสินค้าที่ถูกออกแบบมาให้มีโครงสร้าง รูปแบบ รวมไปถึงระบบการทำงานที่ใกล้เคียงกันกับรถฟอร์คลิฟท์เป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามหนึ่งในข้อแตกต่างที่สำคัญที่สุดระหว่างรถสแตกเกอร์และรถฟอร์คลิฟท์นั้น คือการที่รถสแตกเกอร์จะมีขนาดที่เล็กกว่ารถฟอร์คลิฟท์ค่อนข้างมากและประกอบกับความสามารถในการยกพาเลทแบบซ้อนกันได้ในแนวดิ่ง หรือที่เรียกว่าการยกแบบซ้อนสูง และการรองรับน้ำหนักในการบรรทุกสินค้าที่ไม่ได้ด้อยไปกว่ารถยกไฟฟ้าอย่างรถโฟล์คลิฟท์เท่าไหร่นัก ส่งผลให้รถสแตกเกอร์จึงเป็นรถยกไฟฟ้าที่เหมาะสำหรับการนำมาใช้งานเพื่อการขนย้ายสินค้าหรือวัตถุดิบในคลังจัดเก็บสินค้าที่มีขนาดพื้นที่ค่อนข้างจำกัด หรือการขนย้ายสินค้าในพื้นที่ที่รถโฟล์คลิฟท์ไม่สามารถเข้าถึงได้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญคือด้วยขนาดที่เล็กกว่าของรถสแตกเกอร์นั้นยังส่งผลให้รถสแตกเกอร์เป็นรถยกสูงคลังสินค้าที่มีราคาถูกกว่ารถโฟล์คลิฟท์ 50–60% อีกทั้งยังมีค่าดูแลและบำรุงรักษาที่ต่ำกว่า จึงทำให้การใช้งานรถสแตกเกอร์สามารถช่วยให้ธุรกิจประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สะพานพาด (Dock Leveler)นอกเหนือไปจากการใช้งาน รถยกไฟฟ้า และรถยกสูงคลังสินค้าเพื่อประโยชน์ในการขนย้ายสินค้าและวัตถุดิบต่าง ๆ ขึ้นไปจัดเก็บบนพื้นที่สูงแล้วนั้น อุปกรณ์ที่มีการติดตั้งเพื่อการใช้งานแบบฝังพื้นอย่างสะพานพาด (Dock Leveler) ก็ถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ทุ่นแรงอีกประเภทหนึ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลยในคลังจัดเก็บสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าทั้งที่มีขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เพราะสะพานพาดที่มีลักษณะเป็นพื้นหรือทางลาดต่างระดับนี้เอง คืออุปกรณ์ที่มีหน้าที่สำคัญในการช่วยยกและย้ายสินค้า รวมถึงวัตถุดิบและเครื่องมือต่าง ๆ ขึ้นไปจัดเก็บยังรถบรรทุก รถตู้คอนเทนเนอร์ และรถขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ เพื่อการทำการจัดส่งต่อในลำดับถัดไปซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว สะพานพาดนั้นถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่นิยมนำมาใช้งานร่วมกับรถยกไฟฟ้าและรถยกสูงคลังสินค้า เพื่อประโยชน์ในการช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานภายในคลังจัดเก็บสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าสามารถประหยัดแรงในการขนถ่ายหรือเคลื่อนย้ายสินค้าขึ้น-ลงจากชั้นวางสินค้าหรือรถขนส่งสินค้า และยังช่วยให้สินค้า รวมถึงวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ต้องทำการขนย้ายโดยเฉพาะสินค้าที่มีขนาดใหญ่มีความปลอดภัยจากการตกหรือกระแทกในระหว่างการขนย้ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย เครน (Crane)เครนยกสินค้า (Crane) หรือที่มีชื่อเรียกแบบไทย ๆ ว่าปั้นจั่น เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ช่วยทุ่นแรงสำหรับการจัดเก็บ ยก ย้ายสินค้าที่ได้รับความนิยมในการนำมาใช้งานในคลังจัดเก็บสินค้าและอุตสาหกรรมหนักหลายประเภทร่วมกับการใช้งานรถยกไฟฟ้าและรถยกสูงคลังสินค้าอย่างแพร่หลาย เพื่อประโยชน์ในการช่วยขนถ่ายและเคลื่อนย้ายสินค้าและวัตถุดิบต่าง ๆ ที่มีขนาดใหญ่ อย่างเช่น เครื่องจักรอุตสาหกรรม แท่งปูน หรือเหล็กเส้น เป็นต้น ไปทำการจัดเก็บหรือนำไปใช้งานได้อย่างสะดวก รวดเร็ว นิ่มนวล และมีความปลอดภัยต่อผู้ปฏิบัติงานทุกคนมากยิ่งขึ้นโดยสำหรับรูปแบบของเครนยกสินค้าที่ปรากฏการนำมาใช้งานภายในโรงงานอุตสาหกรรมร่วมกับรถยกไฟฟ้าและรถยกสูงคลังสินค้าหลากหลายประเภทมากที่สุดนั้น คือเครนในรูปแบบของเครนเหนือศีรษะและเครนขาสูง (Overhead Crane) เนื่องจากเครนประเภทดังกล่าวเป็นเครนยกสินค้าที่มีน้ำเบา และสามารถทำการติดตั้งเพื่อการใช้งานได้ง่ายโดยที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อโครงสร้างของคลังจัดเก็บสินค้าและศูนย์กระจายสินค้ามากนัก อีกทั้งยังมีความสามารถในการรองรับน้ำหนักบรรทุกที่ค่อนข้างมากกว่ารถยกไฟฟ้าและรถยกสูงคลังสินค้า จึงทำให้เครนเหนือศีรษะและเครนขาสูงเหมาะสำหรับการนำมาใช้งานเพื่อการยกย้ายสินค้าในแนวดิ่ง หรือการยกสินค้าขึ้นที่สูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่กำลังมองหาอุปกรณ์สำหรับยกสินค้าในคลังสินค้าขึ้นที่สูง อย่างเช่น รถยกไฟฟ้า และรถยกสูงคลังสินค้าประเภทต่าง ๆ มาใช้งานเพื่อการขนถ่ายหรือเคลื่อนย้ายสินค้าภายในโรงงานหรือคลังสินค้าของคุณ JenStore by Jenbunjerd เราคือผู้ช่วยคู่คิด ที่พร้อมช่วยดูแลและให้คำแนะนำในการเลือกซื้ออุปกรณ์สำหรับการจัดเก็บ ยก ย้ายสินค้า ไม่ว่าจะเป็น รถเข็นอเนกประสงค์ รถเข็นไต่บันได ดอลลี่ แฮนด์ลิฟท์ รถลากพาเลท รถยกถังน้ำมัน และ โต๊ะยกปรับระดับ เป็นต้น พร้อมด้วยบริการติดตั้ง ดูแลหลังการขาย และบริการรับ สั่งทำตู้โต๊ะสแตนเลส สั่งทำรถเข็นสแตนเลส และ รถเข็น ทุกรูปแบบตามความต้องการของลูกค้า โดย เจนบรรเจิด มีทีมผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์ในวงการอุปกรณ์ “จัด เก็บ ยก ย้าย”ให้คำปรึกษาแนะนำด้านระบบคลังสินค้าที่ตอบโจทย์รูปแบบการใช้งานอย่างครบวงจร ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) Tel : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
ถังขยะที่เหมาะกับการใช้งานในโรงพยาบาล

ถังขยะที่เหมาะกับการใช้งานในโรงพยาบาล ทำไมต้องให้ความสำคัญต่อการเลือกถังขยะในโรงพยาบาล ? ถังขยะ เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยกักเก็บและแยกขยะประเภทต่าง ๆ ให้เป็นระเบียบ เป็นที่เป็นทาง เพื่อนำไปคัดแยก รีไซเคิล หรือทำลายในลำดับต่อไป แต่รู้หรือไม่ว่าการเลือกถังขยะให้เหมาะกับสถานที่นั้นสำคัญมาก โดยเฉพาะถังขยะสำหรับใช้งานในโรงพยาบาล เพราะโรงพยาบาลมีขยะหลายประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งขยะอันตรายและขยะติดเชื้อ ดังนั้น การเลือกถังขยะที่เหมาะสมกับประเภทของขยะจึงมีความจำเป็น และไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง แล้วจะเป็นถังขยะแบบไหนที่เหมากับโรงพยาบาลบ้าง ลองมาดูกัน ถังขยะมีกี่ประเภท หากจะกล่าวถึงประเภทของถังขยะ ระบบการแบ่งประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือการแบ่งตามสีเพื่อให้รู้ว่าเป็นถังขยะสำหรับขยะประเภทใด สามารถแบ่งได้ดังนี้ ถังขยะสีแดง ถังขยะสีแดงเป็นถังขยะอันตราย สำหรับใส่ขยะอันตราย ขยะมีพิษ สารเคมี ขยะติดเชื้อ ไปจนถึงขยะที่อาจเกิดปฏิกิริยาอย่างเช่น วัตถุไวไฟ วัตถุประเภทออกไซด์หรือเปอร์ออกไซด์ ขยะกัมมันตภาพรังสี ไปจนถึงขยะหรือวัตถุที่อาจทำให้เกิดโรคและมีสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม เราจึงพบถังขยะแบบนี้ได้บ่อย ๆ ในโรงงานอุตสาหกรรมไปจนถึงโรงพยาบาล ถังขยะสีเหลือง ถังขยะสีเหลืองเป็น ถังขยะรีไซเคิล ใช้สำหรับทิ้งขยะที่สามารถนำกลับมาใช้งานใหม่ได้ เช่น พลาสติก แก้ว เศษโลหะ อะลูมิเนียม กล่องกระดาษลูกฟูก กระป๋องต่าง ๆ เป็นต้น เป็นถังขยะที่พบได้ทั่วไปตามจุดคัดแยกขยะ โรงเรียน โรงพยาบาล และสถานที่สาธารณะอื่น ๆ ถังขยะสีเขียว ถังขยะสีเขียวเป็นถังขยะสำหรับใส่ขยะทั่วไปที่สามารถย่อยสลายได้ หรืออาจนำไปใส่เศษอาหารที่เน่าเสียได้ก็ได้เช่นกัน ขยะในถังสีเขียวนั้นสามารถนำไปเป็นอาหารสัตว์หรือนำไปทำปุ๋ยหมักได้ จึงเป็นถังขยะที่พบได้ทั้งรูปแบบของ ถังขยะใหญ่ ถังขยะ 120 ลิตร และพบได้ทั่วไปในทุกสถานที่ ถังขยะสีน้ำเงินปิดท้ายกันที่ถังขยะสีน้ำเงิน ถังขยะสีนี้ใช้ใส่ขยะประเภทที่ไม่สามารถย่อยสลายได้และไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ เช่น เปลือกลูกอม โฟม พลาสติก หรือฟอยล์ห่ออาหาร ซึ่งขยะเหล่านี้นั้นไม่คุ้มค่ากับการนำไปรีไซเคิล โรงพยาบาลมีขยะแบบใดบ้าง ในโรงพยาบาลนั้นมีขยะมากมายหลากหลายประเภท เพราะโรงพยาบาลเป็นทั้งศูนย์รักษา บริบาล และดูแลผู้ป่วย ขยะอันดับแรกที่พบจึงเป็นขยะติดเชื้อหรือขยะอันตรายที่สามารถปนเปื้อนไปสู่คน สัตว์ หรือสิ่งแวดล้อมได้ เนื่องจากอาจมีสารคัดหลั่งของผู้ป่วยอย่างน้ำเลือด น้ำลาย หรือน้ำมูก เป็นต้น ดังนั้นโรงพยาบาลจึงต้องเข้มงวดในเรื่องการกำจัดขยะประเภทนี้เป็นอย่างมาก วิธีการกำจัดขยะติดเชื้อภายในโรงพยาบาลจึงต้องเริ่มจากการทิ้งขยะ หากจุดทิ้งขยะเป็นพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น ห้องส่วนตัวของแพทย์ พยาบาล หรือคนไข้ อาจเลือกใช้ ถังขยะแบบเหยียบ รองรับด้วยถุงพลาสติกอีกครั้งเพื่อรองรับขยะติดเชื้อ ขณะที่ในพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น รอบ ๆ โรงพยาบาล ห้องปฏิบัติการ หรือบริเวณจุดทิ้งขยะ อาจเลือกใช้ ถังขยะ 120 ลิตร ที่มีการแยกสีชัดเจนว่าถังใดเป็นถังขยะทั่วไปและถังใดเป็น ถังขยะอันตราย ส่วนพื้นที่คัดแยกขยะก่อนมีรถขยะมาเคลื่อนย้ายนั้นควรเลือกใช้เป็นถังขยะใหญ่เพื่อให้รองรับขยะปริมาณมาก ๆ ได้อย่างเพียงพอ ส่วนการเคลื่อนย้ายขยะนั้นไม่ควรทำด้วยมือเปล่า แต่แม่บ้านหรือผู้ที่รับผิดชอบควรสวมถุงมือและใช้คีมคีบขยะในการเคลื่อนย้ายทุกครั้ง หากเป็นขยะติดเชื้อต้องปิดปากถุงให้สนิท ใส่ถุงสีแดงหรือถุงที่มีการระบุว่าเป็นขยะติดเชื้อ จากนั้นขณะเคลื่อนย้ายก็ต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสมเพื่อความปลอดภัยของทุกคนในโรงพยาบาลด้วย นอกจากขยะมีพิษหรือขยะติดเชื้อที่ต้องการ ถังขยะอันตราย สำหรับรองรับขยะเป็นพิเศษแล้ว ในโรงพยาบาลยังมีขยะทั่วไป เช่น กล่องอาหาร กล่องโฟม กล่องนม ขวดน้ำดื่ม และอื่น ๆ ดังนั้นทางโรงพยาบาลควรจัด ถังขยะ 120 ลิตร แบบมีฝาเปิดปิดเพื่อรองรับขยะเหล่านี้ตามจุดต่าง ๆ ของโรงพยาบาลด้วย ส่วนขยะประเภทเศษกระดาษจากเอกสารต่าง ๆ หรือขยะชิ้นเล็กที่ทิ้งในห้องทำงานหรือห้องส่วนตัวของแพทย์และพยาบาล อาจเลือกใช้ถังขยะขนาดเล็กอย่างถังขยะแบบเหยียบก็ได้ ทำไมต้องให้ความสำคัญต่อการเลือกถังขยะในโรงพยาบาล สำหรับผู้ประกอบการสถานพยาบาลคงทราบกันดีว่าในโรงพยาบาลนั้นมีผู้คนหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล ผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ ไปจนถึงญาติผู้ป่วยและผู้ที่เข้ามาใช้บริการโรงพยาบาล ดังนั้นในแต่ละวันจึงมีขยะปริมาณมหาศาล และขยะเองก็มีหลายประเภท แต่ขยะที่ต้องใส่ใจมากที่สุดก็คือขยะติดเชื้อและขยะอันตรายที่อาจก่อให้เกิดการปนเปื้อน เพราะฉะนั้นหากต้องเลือกถังขยะเพื่อนำไปใช้ในโรงพยาบาลแล้วละก็ ต้องให้ความสำคัญกับวัสดุที่นำมาผลิต ตัวถังต้องมีความหนาแน่น ทนทาน สามารถรองรับขยะอันตรายได้ นอกจากนี้เรื่องขนาดเองก็สำคัญ ควรเลือกขนาดของถังขยะให้เหมาะสมกับบริเวณต่าง ๆ ที่นำไปวาง เพื่อให้รองรับขยะได้อย่างเพียงพอ ลดการทิ้งขยะไม่เป็นที่ ลดการเกิดปัญหาขยะล้นจนเกิดทัศนียภาพไม่น่ามองหรือปัญหาการปนเปื้อนตามมา ถังขยะแบบใดเหมาะกับการใช้งานในโรงพยาบาล ถังขยะใหญ่ ถังขยะใหญ่ คือ ถังขยะขนาดใหญ่ที่ใช้งานภายนอก มีความจุตั้งแต่ถังขยะ 120 ลิตร ไปจนถึงงขนาด 1,100 ลิตรขึ้นไป ส่วนใหญ่ถังขยะแบบนี้มักมีล้อเนื่องจากต้องรองรับน้ำหนักสูงมาก จึงควรมีล้อเพื่อให้เคลื่อนย้ายขยะไปยังจุดคัดแยกขยะได้ง่ายและสะดวก เพื่อเป็นการทุ่นแรงของผู้เก็บขยะ โดยถังขยะใหญ่ที่ขาดไม่ได้ในโรงพยาบาลเลยก็คือถังขยะอันตราย ถังแยกประเภทขยะถังแยกประเภทขยะก็คือถังขยะที่มีสีชัดเจนเพื่อบ่งบอกว่า แต่ละถังใช้รองรับขยะประเภทไหนนั่นเอง ส่วนหลักการใช้สีเพื่อคัดแยกขยะก็ตามที่เรากล่าวไปข้างต้นคือ สีแดงสำหรับถังขยะอันตราย สีเหลืองสำหรับ ถังขยะรีไซเคิล สีเขียวสำหรับถังขยะมูลฝอยย่อยสลายได้ และสีฟ้าหรือสีน้ำเงินสำหรับถังขยะที่ไม่สามารถย่อยสลายหรือรีไซเคิลได้ ผู้ประกอบการสถานพยาบาลควรมีถังคัดแยกขยะตั้งไว้ตามจุดทิ้งขยะ เพื่อให้ผู้ทิ้งสามารถทิ้งขยะในถังรองรับได้อย่างเหมาะสม และเป็นการช่วยคัดแยกขยะอันตรายออกจากขยะทั่วไปในเบื้องต้น และถังควรเป็นถังขยะขนาด 120 ลิตรขึ้นไปที่มีฝาปิดด้วย ถังขยะ ความหนาแน่นสูง เนื่องจากในโรงพยาบาลอาจมีขยะที่เป็นพิษ ติดเชื้อ หรือเป็นอันตราย ดังนั้นจึงต้องเลือกถังขยะที่มีความหนาแน่นสูง ผลิตจากพลาสติกพอลิเมอร์ HDPE ที่มีความหนาแน่นสูง ทนทานต่อการกัดกร่อน ความร้อน ความเย็น และยังทนต่อสารเคมีอีกหลายชนิด โดยทั่วไปถังขยะประเภทนี้มักผ่านการผลิตด้วยกระบวนการ UV-stabilization จึงทำให้ถังขยะมีความคงทนไม่เปลี่ยนรูป ถังขยะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โรงพยาบาลบางแห่งอาจเลือกใช้ถังขยะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการรองรับขยะ โดยถังขยะประเภทนี้จะผลิตโดยไม่มีส่วนผสมของสาแคกเมียม ทำให้ทุกส่วนของ ถังขยะรีไซเคิลได้และยังไม่ต้องกังวลเรื่องสารอันตรายที่อาจปนเปื้อนไปสู่คน สัตว์ หรือสิ่งแวดล้อมภายนอกด้วย ถังขยะแบบเหยียบ นอกจากการใช้ ถังขยะอันตราย และ ถังขยะใหญ่ แล้ว ถังขยะแบบเหยียบ ที่มีขนาดเล็กก็สามารถใช้งานได้ในห้องทำงานทั่ว ๆ ไปของโรงพยาบาล ส่วนในห้องปฏิบัติการหรือห้องน้ำอาจเลือกถังขยะแบบเหยียบที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ผลิตจากพลาสติกความหนาแน่นสูงหรืออะลูมิเนียม รองรับด้วยถุงขยะอีกชั้น สามารถใช้ทิ้งขยะปนเปื้อน ขยะติดเชื้อ หรือขยะอื่น ๆ ได้ ถือเป็นถังขยะอีกแบบที่ขาดไม่ได้ในโรงพยาบาล เพราะใช้เท้าเหยียบเพื่อเปิดฝาและทิ้งขยะได้เลยโดยไม่ต้องสัมผัสตัวถัง จึงช่วยลดการติดเชื้อได้ดี เลือกถังขยะสำหรับโรงพยาบาล ต้องไว้ใจเลือกถังขยะจากเจนสโตร์ เจนสโตร์ คือศูนย์รวมอุปกรณ์ทำความสะอาดระดับมืออาชีพ เราคือตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ทำความสะอาดและถังขยะแบรนด์ชั้นนำหลากหลายแบรนด์พร้อมบริการแบบครบวงจร ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นคัดสรรอย่างดี คุณภาพและความทนทานสูง เรามีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยจำหน่ายครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ถังขยะ ถังขยะแยกประเภท ถังขยะรีไซเคิล ถังขยะอันตราย ถังขยะแบบเหยียบ ถังขยะสแตนเลส ถังขยะใหญ่ ถังขยะ 120 ลิตร ถังขยะเทศบาล ถังขยะ กทม. ถังขยะพลาสติก ถังขยะ 4 สี และถุงขยะ ครบทุกความต้องการเรื่องการเก็บและแยกขยะในที่เดียว นอกจากนี้ยังมีเครื่องทำความสะอาด เครื่องกวาดพื้น เครื่องขัดพื้น เครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรม อุปกรณ์ทำความสะอาด รถเข็นแม่บ้าน รถเข็นทำความสะอาด ถังม็อบถูพื้น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ผลิตภัณฑ์ล้างจาน ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดห้องน้ำ ผลิตภัณฑ์ซักผ้า ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดรถ อุปกรณ์สุขอนามัย เครื่องจ่ายแอลกอฮอล์ เครื่องพ่นแอลกอฮอล์ สเปรย์แอลกอฮอล์ เจลแอลกอฮอล์ เพื่อให้รองรับความต้องการการใช้งานด้านผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยของเจ้าหน้าที่ พนักงาน แพทย์ พยาบาล และทุกคนที่มาใช้บริการโรงพยาบาล JenStore by Jenbunjerd มาพร้อมการบริการครบวงจร เราพร้อมให้คำปรึกษาการเลือกใช้งานสินค้าอุปกรณ์ทำความสะอาดที่เหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจ และรับจัดหาสินค้าให้ตรงตามความต้องการของธุรกิจทุกประเภท พร้อมด้วยบริการดูแลหลังการขายแบบครบวงจรโดยทีมขายผู้เชี่ยวชาญจากเจนสโตร์ที่มากประสบการณ์ในวงการเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ พร้อมบริการจัดหาสินค้าและรับทำสินค้าอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น รถเข็นจ่ายยา ตู้เก็บยา โต๊ะแพทย์เจนสโตร์ช่วยให้ทุกการจัดซื้อของคุณเป็นเรื่องง่าย ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) Tel : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
ความเหมือนที่แตกต่างระหว่างเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดสำหรับการแพทย์กับโรงงานอุตสาหกรรม

ความเหมือนที่แตกต่างระหว่างเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดสำหรับการแพทย์กับโรงงานอุตสาหกรรม ประโยชน์ของ เครื่องวัดอุณหภูมิ แต่ละชนิด ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักกับโควิด-19 โรคระบาดที่มีอาการป่วยเหมือนกับการเป็นไข้หวัดธรรมดาๆ แต่โควิด-19 นั้น มีผลของโรคที่รุนแรงมากกว่า ทุกหน่วยงานจึงหาวิธีป้องกันซึ่งวิธีเบื้องต้นที่ทุกคนจะต้องปฏิบัติตามคือการวัดอุณหภูมิของร่างกาย เมื่อเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ เป็นการคัดกรองขั้นต้นเพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ดังนั้นเครื่องวัดอุณหภูมิ จึงเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญอันดับแรกๆ ที่ขาดไม่ได้ในยุคที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 เครื่องวัดอุณหภูมิ ที่นิยมใช้ในการวัดอุณหภูมิของร่างกายคือเครื่องวัดอุณหภูมิ อินฟราเรด เนื่องจากสามารถวัดอุณหภูมิของร่างกายได้โดยไม่ต้องสัมผัส ช่วยลดความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคโควิด-19 ได้ แต่เครื่องวัดอุณหภูอินฟราเรดไม่ได้มีใช้แค่ในทางการแพทย์เท่านั้นในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ก็มีการใช้เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดในการวัดอุณหภูมิอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่องจักร ระบบแผงวงจร และอาหาร ดังนั้นการเลือกใช้เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดให้ถูกต้องกับการใช้งานจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะในบางอุตสาหกรรมไม่สามารถใช้เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดแทนกันได้ โดยเฉพาะในทางการแพทย์ ดังนั้นเราควรรู้เกี่ยวกับหลักการการทำงานของเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรด และความแตกต่างของเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดที่ใช้ในทางการแพทย์กับโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ เบื้องต้นกัน หลักการทำงานของเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรด การทำงานของเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดไม่ว่าในอุตสาหกรรมไหนก็จะมีหลักการทำงานที่เหมือนกัน โดยสามารถวัดอุณหภูมิสิ่งต่างๆ โดยที่ไม่ต้องสัมผัส และยังสามารถวัดอุณหภูมิได้ในระยะไกลด้วย การออกแบบขั้นพื้นฐานของเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วย เลนส์ และ เครื่องตรวจจับพลังงาน เลนส์ ทำหน้าที่โฟกัสพลังงานอินฟราเรดที่ปล่อยออกมาจากวัตถุ และส่งพลังงานนั้นไปที่เครื่องตรวจจับพลังงานซึ่งเรียกว่า เทอร์โมไพล์ เทอร์โมไพล์จะแปลงพลังงานนั้นให้เป็นสัญญาณไฟฟ้า และแปลงค่าเป็นหน่วยของอุณหภูมิหลังจากที่ได้รับการชดเชยอุณหภูมิแวดล้อมแล้ว เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดในบางอุตสาหกรรมจะมีเลเซอร์เพื่อช่วยในการเล็งเป้าหมายที่จะวัดอุณหภูมิเพื่อช่วยให้การวัดอุณหภูมิมีความแม่นยำมากขึ้น ลักษณะของเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดจะมีรูปร่างคล้ายปืนและน้ำหนักเบา ประโยชน์ของเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรด ไม่ต้องสัมผัส และตรวจอุณหภูมิได้ในระยะไกล ด้วยคุณสมบัติของ เครื่องวัดอุณหภูมิ อินฟราเรดที่สามารถวัดอุณหภูมิได้โดยไม่ต้องสัมผัสกับวัตถุ และยังสามารถวัดอุณหภูมิได้ในระยะไกล ทำให้สามารถป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นได้กับผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะทัังในด้านการแพทย์และด้านโรงงานอุตสากรรม ทางการแพทย์ช่วยลดความเสี่ยงของผู้ใช้งานที่จะได้รับเชื้อโรคเข้ามาในร่างกาย ส่วนในโรงงานอุตสาหกรรมลดความเสี่ยงอันตรายที่จะเกิดขึ้นได้หากวัตถุที่ต้องการวัดอุณหภูมิถูกวางไว้ในตำแหน่งหรือใช้งานในพื้นที่อันตราย รวมถึงใช้งานอยู่ในพื้นที่แคบ ซึ่งลำแสงอินฟราเรดสามารถยิงไปถึงวัตถุดังกล่าวโดยไม่ต้องเข้าใกล้ สำหรับอุตสาหกรรมอาหารก็ลดความเสี่ยงที่จะเกิดการปนเปื้อนในอาหารได้ ตรวจจับอุณหภูมิจากวัตถุที่เคลื่อนไหวได้ เช่น มอเตอร์ อาหารที่อยู่บนสายพาน หรือโลหะหลอมเหลวในเตาเผา ทำให้เกิดความรวดเร็วในการทำงาน ลดความผิดพลาดของข้อมูล เครื่องวัดอุณหภูมิ อินฟราเรดในบางเครื่องจะมีฟังกชั่นสำหรับบันทึกข้อมูลเพื่อสามารถย้อนกลับมาดูได้โดยไม่ต้องกังวลกับการจดบันทึกและยังช่วยให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำ สะดวกในการพกพา เนื่องจาก เครื่องวัดอุณหภูมิ มี ขนาดเล็กลักษณะคล้ายปืน และมีน้ำหนักเบาทำให้สะดวกในการพกพาและสะดวกในการใช้งาน มีความแม่นยำในการวัดอุณหภูมิ ทำให้ได้ค่าอุณหภูมิที่ถูกต้องสามารถนำไปใช้งานได้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพ ข้อจำกัดของเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรด เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดสามารถวัดอุณหภูมิได้แค่พื้นผิวเท่านั้น จึงไม่สามารถรู้อุณหภูมิที่อยู่ภายในวัตถุได้ เช่น อุณหภูมิของเนื้อที่กำลังย่างจึงไม่รู้ว่าเนื้อสุกรึยัง ความแม่นยำจะลดลงเมื่อมีความชื้น ฝุ่นละออง หรือหมอกควัน เพราะว่าอนุภาคเหล่านี้อาจจะเป็นตัวกันกลางระหว่างเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรด และ วัตถุที่ต้องการวัด อนุภาคดังกล่าวจะดูดพลังงานทำให้วัดอุณหภูมิได้ค่าที่ลดลงจากอุณหภูมิจริง ไม่สามารถวัดอุณหภูมิทะลุกระจก พื้นผิวโปร่งใส หรือของเหลวได้ สามารถวัดได้แค่พื้นผิวเท่านั้น เช่น รู้อุณหภูมิของน้ำได้จากพื้นผิวน้ำแต่ไม่สามารถรู้อุณหภูมิภายในน้ำได้ มารู้จักเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดในทางการแพทย์ และเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดในอุตสาหกรรมกันเถอะ เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดในทางการแพทย์ เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดในทางการแพทย์นั้นสิ่งสำคัญคือ ความแม่นยำของอุณหภูมิ และช่วงอุณหภูมิจะต้องรองรับกับอุณหภูมิร่างกายของมนุษย์ ดังนั้นส่วนใหญ่ เครื่องวัดอุณหภูมิในทางการแพทย์จะมีอุณหภูมิอยู่ในช่วง 32 °C ถึง 42.5 °C และค่าความคลาดเคลื่อนอยู่ที่ ± 0.3°C โดยเมื่อใช้เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดบนหน้าผาก เครื่องจะล็อคค่า Emissivity ซึ่งเป็นค่าที่แสดงถึงความสามารถในการแผ่รังสีความร้อนของวัตถุที่อุณหภูมิใดอุณหภูมิหนึ่ง โดยผิวหนังของมนุษย์จะมีค่า Emissivity ประมาณ 0.98 ซึ่งหากเครื่องวัดอุณหภูมิในทางการแพทย์ตรวจพบผู้ที่มีอุณหภูมิสูงกว่าที่ตั้งไว้จะมีเสียงร้องเตือน และมีแสงกระพริบที่หน้าจอแสดงผล เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดในโรงงานอุตสาหกรรม เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดในโรงงานอุตสาหกรรมจะออกแบบมาเพื่อใช้วัดอุณหภูมิของพื้นผิววัตถุซึ่งมีช่วงของอุณหภูมิที่กว้าง -60 ถึง 2,500° C เพื่อให้เหมาะในการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลาย เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดจะมีค่าความคลาดเคลื่อนอยู่ที่ ± 1 ถึง 1.5°C และสามารถปรับค่า Emissivity ได้ตั้งแต่ 0-1.0 เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดในโรงงานอุตสาหกรรมสามารถวัดอุณหภูมิวัตถุที่เคลื่อนที่ได้ทำให้สะดวกและรวดเร็วในการใช้งาน ความแตกต่างระหว่าง เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดในทางการแพทย์ และเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดในโรงงานอุตสาหกรรม ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนคือเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดในทางการแพทย์จะมีช่วงวัดอุณหภูมิที่สั้นกว่าตามอุณหภูมิของร่างกายมนุษย์ และมีค่าความคลาดเคลื่อนที่น้อยมากเพียง ± 0.3°C ซึ่งทั้งสองค่าเป็นค่าการวัดที่มีความสำคัญมากต่อร่างกายมนุษย์โดยเฉพาะค่าความคลาดเคลื่อน หากเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดมีความคลาดเคลื่อนมากอาจทำให้วินิจฉัยโรคผิดและเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ ดังนั้นเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดในทางการแพทย์จึงต้องมีความแม่นยำในการวัดอุณหภูมิ แต่เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดในอุตสาหกรรมจะมีช่วงวัดอุณหภูมิที่กว้างกว่าเพื่อรองรับวัตถุชนิดต่างๆ ที่ใช้วัดในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เช่น อาหาร เครื่องจักร วัสดุในโรงงานต่างๆ เช่น ฉนวนกันความร้อน งานด้านไฟฟ้า งานซ่อมบำรุงอาคาร โดยที่ค่าความคลาดเคลื่อนอยู่ที่ ± 1 ถึง 1.5°C ซึ่งเป็นตัวเลขค่าความคลาดเคลื่อนที่โรงงานอุตสาหกรรมยอมรับได้ ดังนั้นการเลือกใช้งานเครื่องวัดอุณหภูมิ อินฟราเรดควรเลือกใช้ให้ตรงตามวัตถุประสงค์การใช้งาน เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดทั้งในทางการแพทย์ และ ในโรงงานอุตสาหกรรมไม่สามารถใช้ทดแทนกันได้เพราะมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่แตกต่างกัน หากนำมาใช้งานอาจทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ถ้าในทางการแพทย์อาจถึงขั้นเสียชีวิต ในด้านอุตสาหกรรมอาจทำให้ธุรกิจเสียหายและทำให้สูญเสียรายได้และสูญเสียลูกค้าได้ การเลือกใช้เครื่องวัดอุณหภูมิ อินฟราเรดทั้งในทางการแพทย์ และในด้านอุตสาหกรรมควรเลือกใช้เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดที่ได้รับการรับรองจากองค์กรหรือหน่วยงานที่เป็นที่ยอมรับเพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดได้มาตรฐานและมีประสิทธิภาพในการใช้งาน โดยส่วนใหญ่เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดในทางการแพทย์ควรได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) และ เครื่องวัดอุณภูมิ อินฟราเรดในโรรงานอุตสาหกรรมควรได้รับการรับรองจาก GMP (ระบบประกันคุณภาพ) หรือถ้าใช้เครื่องอินฟราเรดในโรงงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับอาหารควรได้รับการรับรองจาก H.C.C.P (ระบบการวิเคราะห์อันตรายและจุดวิกฤตที่ต้องควบคุมในการผลิตอาหาร) หรือ ISO 22000:2005 (Food Safety Management System: FSMS ระบบการจัดการความปลอดภัยของอาหาร) หัวใจที่สำคัญที่สุดของการใช้เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดคือการเลือกใช้เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดให้เหมาะสมกับงานและควรเลือกใช้เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานหรือองค์กรที่เป็นที่ยอมรับ หากลูกค้าต้องการคำปรึกษาหรือต้องการซื้อเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรด เจนสโตร์ มีจำหน่าย เครื่องวัดอุณหภูมิ อินฟราเรดทั้งทางการแพทย์และโรงงานในอุตสาหกรรมต่างๆ และยังเป็นศูนย์รวมในการจัดจำหน่ายเครื่องมือช่างแบบครบวงจรสำหรับธุรกิจและอุตสาหกรรต่างๆ จากแบรนด์ชั้นนำต่างๆ ที่ได้รับมาตรฐานระดับสากล จึงมั่นใจได้ว่า Jenstore by Jenbunjerd มีเครื่องมือและอุปกรณ์ช่างจากแบรนด์ชั้นนำ โดยทีมขายจากเจนสโตร์ยินดีให้คำแนะนำในการเลือกใช้อุปกรณ์และเครื่องมือช่าง เพื่อช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้งานได้อย่างตรงความต้องการ เจนสโตร์รับจัดหาสินค้าและงานสั่งทำ เช่น รถเข็นงานช่าง ตู้เครื่องมือช่าง โต๊ะช่าง ตามความต้องการและรูปแบบการใช้งานของคุณ ช่วยให้การจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือช่างของคุณเป็นเรื่องง่าย ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) Tel : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
วิธีเลือกเครื่องวัดอุณหภูมิในอุตสาหกรรมอาหาร

วิธีเลือกเครื่องวัดอุณหภูมิในอุตสาหกรรมอาหาร เลือกใช้เครื่องวัดอุณหภูมิให้ถูกที่ และถูกต้องตามมาตรฐาน อุตสาหกรรมอาหารเป็นอุตสากรรมที่อยู่คู่กับประเทศไทยมาช้านานด้วยประเทศไทยมีพื้นที่เหมาะสำหรับทำเกษตรทำให้ประเทศไทยสามารถผลิตอาหารเพื่อใช้บริโภคภายในประเทศและส่งออกไปยังต่างประเทศได้ ซึ่งขั้นตอนการผลิตอาหารไม่ว่าจะบริโภคในประเทศหรือส่งออกต่างประเทศ สิ่งที่สำคัญคือ อุณหภูมิ การควบคุณอุณหภูมิเป็นสิ่งที่สำคัญมากในขั้นตอนการผลิต เพราะอุณหภูมิเป็นเครื่องชี้วัดถึงคุณภาพของอาหาร รวมถึงความสดใหม่ ดังนั้นการวัดอุณหภูมิของอุตสาหกรรมของอาหารจึงต้องเริ่มตั้งแต่ต้นทางจากฟาร์มไปจนถึงปลายทางที่ผู้บริโภครับประทาน เพื่อควบคุมอุณหภูมิให้เป็นไปตามที่กำหนดเพื่อให้ได้อาหารที่ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค เครื่องวัดอุณหภูมิ จึงเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากในอุตสาหกรรมนี้ เครื่องวัดอุณหภูมิจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยคัดกรองอาหารให้มีมาตรฐานเพราะหากขั้นตอนการผลิตไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิอาหารให้ได้ตามที่มาตรฐานกำหนดอาจส่งผลต่อผู้บริโภคที่รับประทานเข้าไปอาจเจ็บป่วยได้ เช่น อาหารแช่แข็งควรรักษาอุณหภูมิที่ 8°C เพื่อหยุดการเติบโตของแบคทีเรีย ส่วนอาหารที่ปรุงสุกก็ต้องมีอุณภูมิที่เหมาะสมเพื่อจะทำลายแบคที่เรียที่อยู่ในอาหาร ในขั้นตอนการผลิตการวัดอุณหภูมิเป็นด่านแรกในการตรวจสอบคุณภาพของชิ้นอาหารหากชิ้นอาหารไม่ได้คุณภาพจะได้คัดแยกออกมา แต่การวัดอุณหภูมิในอุตสาหกรรมอาหารไม่ใช่แค่การวัดที่ชิ้นอาหารเท่านั้นสภาพแวดล้อม รวมถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ทุกอย่างที่อยู่ในกระบวนการผลิตก็ต้องมีอุณหภูมิที่เหมาะสม ดังนั้นเครื่องวัดอุณหภูมิในอุตสาหกรรมอาหารจึงมีหลายชนิดซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน ประเภทของเครื่องวัดอุณหภูมิในอุตสาหกรรมอาหาร ที่คล้ายกันในหน้าตาแต่แตกต่างในการใช้งาน เครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรด เป็นเครื่องมือวัดอุณหภูมิที่ใช้รังสีความร้อนหรือรังสีอินฟราเรดในการตรวจวัดอุณหภูมิจากการแผ่ความร้อน เป็นเครื่องวัดอุณหภูมิที่วัดอุณหภูมิบนพื้นผิวของอาหารโดยไม่มีการสัมผัสกับอาหารโดยตรงเพื่อลดการปนเปื้อน เหมาะกับการวัดอุณหภูมิกับอาหารจำนวนมากเพราะสามารถวัดอุณหภูมิในระยะไกลได้ เช่น การวัดอุณหภูมิเพื่อการเก็บรักษา หรือวัดอุณหภูมิในจุดรับวัตถุดิบ เครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรดบางรุ่นมี Laser Pointer แบบคู่ ช่วยให้วัดค่าได้แม่นยำและถูกต้อง มีฟังก์ชั่นในการจับเวลาการเพิ่มขึ้นและลดลงของอุณหภูมิ มีฟังก์ชั่นหน่วยความจำที่จะช่วยจัดเก็บค่าอุณหภูมิที่อ่านได้หลายครั้ง โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาในการจดบันทึกและลดความผิดพลาดในการจดบันทึกข้อมูล มีขนาดกะทัดรัดสามารถพกพาได้ ทนทานต่อการใช้งาน และตัวเครื่องภายนอกสามารถล้างน้ำได้ นอกจากวัดอุณหภูมิอาหารในอุตสาหกรรมอาหารแล้วเครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรดยังสามารถใช้ในงานไฟฟ้า งานซ่อมบำรุงได้อีกด้วย เครื่องวัดอุณหภูมิแบบเครื่องถ่ายภาพความร้อน หรือที่เรียกว่า เทอร์โมสแกน เป็นอุปกรณ์ที่ตรวจจับพลังงานอินฟราเรดที่ปล่อยออกมาหรือสะท้อนออกมาและแปลงพลังงานเป็นอุณหภูมิและแสดงออกมาเป็นภาพความร้อนโดยที่ไม่สัมผัสกับวัตถุที่ใช้ในการตรวจสอบ ซึ่งความแม่นยำในการวัดอุณหภูมิของเครื่องวัดอุณหภูมิแบบ เทอร์โมสแกนขึ้นอยู่กับ ชนิดและลักษณะพื้นผิวของวัตถุที่ต้องการวัดอุณหภูมิ ระยะห่างระหว่างเครื่องมือและวัตถุที่ต้องการวัดอุณหภูมิ บางครั้งวัตถุมีการเคลื่อนที่ทำให้รังสีอินฟราเรดของวัตถุผ่านตัวกลาง เช่น ไอ ควัน หรือฝุ่นละออง ทำให้ดูดซับพลังงานไปก่อนถึงเครื่องวัดอุณหภูมิทำให้อุณหภูมิที่ได้มีความคลาดเคลื่อนไป โดยส่วนใหญ่เครื่องวัดอุณหภูมิแบบ เทอร์โมสแกน จะใช้ในงานอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เช่น งานอุตสาหกรรมอาหาร ใช้ตรวจสอบหาความผิดปกติของฉนวนความร้อน เช่น การเสื่อมของฉนวน ในฉนวนห้องเย็น ฉนวนห้องแช่แข็ง ตรวจสอบการทำงานของมอเตอร์ในกระบวนการผลิต ใช้วัดอุณภูมิของผู้ปฏิบัติงานในสายการผลิตอาหาร เพื่อตรวจสอบความเจ็บป่วยที่ไม่แสดงอาการป้องกันการแพร่เชื้อโรคไปสู่อาหาร ตรวจสอบคุณภาพของชิ้นอาหารในกระบวนการแปรรูปอาหาร ให้ได้อุณหภูมิตามที่กำหนดหากตรวจพบว่ามีอุณหภูมิที่สูงกว่าหรือต่ำกว่า ก็สามารถนำชิ้นอาหารแยกออกมาได้ทันที หรือหากพบว่าเครื่องจักรที่ใช้แปรรูปมีความผิดปกติก็สามารถหยุดการผลิตได้ทันทีทำให้ไม่สิ้นเปลืองวัตถุดิบในการผลิต นอกจากนี้เครื่องวัดอุณหภูมิแบบ เทอร์โมสแกนยังใช้ในการงานซ่อมบำรุงเครื่องจักร เช่น ตรวจสอบระบบไฟฟ้า ตรวจสอบการรั่วซึมของอาคารเป็นต้น เครื่องวัดอุณหภูมิอาหาร เป็นเครื่องวัดอุณหภูมิแบบเทอร์โมมิเตอร์ มีลักษณะหลายแบบ เช่น แบบโพรบ แบบปากกา ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอาหารโดยเฉพาะ เช่น ใช้วัดอุณหภูมิภายในเนื้อสัตว์เพื่อเช็คความสุกเพื่อให้แน่ใจว่าความร้อนได้ทำลายแบคมีเรียแล้ว หัววัดเครื่องวัดอุณหภูมิทำด้วยหัวสแตนเลสเพื่อใช้วัดอุณหภูมิในอาหาร ในแท่งสแตนเลสจะมีเซนเซอร์ติดอยู่เพื่อให้สามารถวัดอุณหภูมิของอาหารได้แม่นยำ เซนเซอร์ที่นิยมใช้กันมีอยู่ 2 ชนิดคือ1.เทอร์มิสเตอร์ มีความแม่นยำสูง ช่วงวัดอุณหภูมิอยู่ที่ -40°C ถึง +125°C2.เทอร์โมคัปเปิล มีความแม่นยำน้อยกว่าแต่มีช่วงอุณหภูมิที่กว้างกว่าถึง -200°C ถึง +1372° จีงนิยมใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องวัดอุณหภูมิอาหารแบบเทอร์โมมิเตอร์นอกจากใช้วัดอุณหภูมิภายในอาหารแล้วบางชนิดออกแบบมาเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอาหารประเภทอื่น เช่น ติดตั้งในตู้เย็น หรือตู้แช่แข็ง เพื่อใช้ตรวจสอบอุณหภูมิการเก็บรักษาอาหารว่าเป็นไปตามที่กำหนดหรือไม่เพื่อให้ปลอดภัยต่อผู้บริโภค หรือติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิไว้ในเครื่องล้างจานเพื่อตรวจสอบอุณหภูมิที่ใช้ว่ามีอุณหภูมิที่ถูกต้องเหมาะสมในการใช้ทำความสะอาดหรือไม่ เครื่องวัดอุณหภูมิและความชื้น มีความสำคัญมากต่ออายุของอาหาร เพราะอุณหภูมิและความชื้นมีผลโดยตรงต่ออาหาร หากเก็บรักษาในห้องที่มีความชื้นสูงเพราะอุณหภูมิไม่ได้ตามที่กำหนดจะทำให้อาหารไม่สด และยังทำให้เชื้อโรคสามารถเติบโตได้ แต่หากเราควบคุมอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสมจะทำให้ยืดอายุของอาหารออกไปและอาหารจะยังมีความสดใหม่ และรักษาคุณค่าทางอาหารไว้ได้อีกด้วย โดยส่วนใหญ่เครื่องวัดอุณหภูมิและความชื้นจะใช้ในห้องคลังสินค้า ห้องแช่แข็งอาหาร หรือโรงงานผลิตอาหารเป็นต้น เครื่องวัดอุณหภูมิเป็นอุปกรณ์ที่ใกล้ชิดกับอาหารเพราะเป็นเครื่องมือที่บ่งบอกว่าอาหารชิ้นนั้นมีคุณภาพตรงตามมาตรฐานหรือไม่ นอกเหนือจากชิ้นอาหารแล้ว เครื่องจักร หรือสภาพแวดล้อมที่ใช้ในการผลิตอาหารก็ต้องมีอุณหภูมิที่เหมาะสมจึงต้องติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิตามจุดต่างๆในกระบวนการผลิตอาหาร เพราะหากไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิโดยรวมในขั้นตอนการผลิตอาหารได้จะส่งผลให้อาหารมีการปนเปื้อน อาจมีการเติบโตของเชื้อโรคส่งผลให้อาหารไม่ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคดังนั้นการเลือกใช้เครื่องวัดอุณหภูมิในอุตสาหกรรมอาหารให้ได้ตามมาตรฐานควรได้รับการรับรองจากหน่วยงานหรือองค์กรที่เกี่ยวกับอาหารเพื่อเป็นการรับรองว่าเครื่องวัดอุณหภูมินี้ได้มาตรฐานและมีความแม่นยำในการใช้งาน เครื่องหมายรับรองที่เครื่องวัดอุณหภูมิในอุตสาหกรรมอาหารควรต้องมี GMP (Good Manufacturing Practice) เป็นหลักเกณฑ์และวิธีการที่ดีในการผลิตสินค้า ซึ่งเป็นข้อกําหนดขั้นพื้นฐานที่จําเป็นในขั้นตอนการผลิต โดยผู้ผลิตจะต้องปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนดไว้ เพื่อจะได้ผลิตสินค้าที่มีความปลอดภัยกำจัดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายกับผู้บริโภค ซึ่งการผลิตเครื่องวัดอุณหภูมิหากได้การรับรองจาก GMP ย่อมหมายถึงเป็นเครื่องมือที่มีความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล เพราะ GMP เป็นระบบประกันคุณภาพที่ได้รับการยอมรับจากนักวิชาการด้านอาหารทั่วโลก รวมถึงผู้บริโภคด้วย HACCP (Hazard Analysis and Critical Control Point) เป็นระบบการวิเคราะห์จุดวิกฤตที่ต้องควบคุม ซึ่งเป็นระบบที่ป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับความปลอดภัยของอาหารในทุกขั้นตอนการผลิต เป็นการป้องกันความเสี่ยงที่เป็นพิษต่อผู้บริโภค ระบบ HACCP เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในปัจจุบันและเป็นระบบที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกมากที่สุด เพราะได้ผนวกโปรแกรมสุขาภิบาลขั้นพื้นฐานมาร่วมด้วย ดังนั้นหากเครื่องวัดอุณหภูมิที่ใช้งานได้รับการรับรองจาก HACCP สามารถเชื่อมั่นได้ว่าเครื่องวัดอุณหภูมิที่ได้ผลิตภายใต้ระบบ HACCP จะมีความปลอดภัยทั้งต่ออาหารและผู้บริโภค การเลือกใช้เครื่องวัดอุณหภูมิในอุตสาหกรรมอาหารนั้นต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวอุปกรณ์ และต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพในการใช้งานทั้งเรื่องระบบ ความแม่นยำ และเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกที่ต้องสะดวกและมีประสิทธิภาพในการใช้งาน ดังนั้นในการเลือกใช้เครื่องวัดอุณภูมินั้นควรเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีการรับรองจากหน่วยงานหรือองค์กรที่มีคุณภาพและได้รับการยอมรับเพราะจะทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของเรามากขึ้น หากกลุ่มธุรกิจด้านอาหารมีความสนใจในเครื่องวัดอุณหภูมิสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสามารถติดต่อสอบถาม JenStore by Jenbunjerd ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องวัดอุณหภูมิที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารที่มีมาตรฐาน โดยเจนสโตร์มีจำหน่ายเครื่องวัดอุณหภูมิ หลากหลายชนิด เช่น เครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรด เครื่องวัดอุณหภูมิอาหาร เครื่องวัดอุณหภูมิและความชื้น พร้อมทั้งให้คำปรึกษาในการเลือกใช้เครื่องวัดอุณหภูมิอย่างถูกต้องในอุตสาหกรรมอาหาร ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) Tel : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
ทำความรู้จักกับประเภทล้อรถเข็นอุตสาหกรรม

ทำความรู้จักกับประเภทล้อรถเข็นอุตสาหกรรม ลูกล้ออุตสาหกรรมแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร รถเข็น อุตสาหกรรมถือได้ว่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์อเนกประสงค์ที่จะขาดไปไม่ได้เลยสำหรับอาคาร โรงงานอุตสาหกรรม โกดังจัดเก็บสินค้า หรือศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่ เพราะรถเข็นอุตสาหกรรมเหล่านี้คือสิ่งที่มีหน้าที่สำคัญในการช่วยทุ่นแรงที่เราจะต้องใช้ไปกับการขนย้ายสิ่งของ และช่วยอำนวยความสะดวกให้การขนย้ายสิ่งของไปยังจุดต่าง ๆ สามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นแล้วการเลือกวัสดุที่จะนำมาใช้ในการผลิตขึ้นรูปเป็นรถเข็นอุตสาหกรรมที่มีความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานในทุกสภาวะ จึงเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานทุกคนควรให้ความสำคัญควบคู่ไปกับการเลือกคุณภาพของ “ ล้อรถเข็น หรือ ล้ออุตสาหกรรม ” ให้มีความเหมาะสมกับประเภทของงานและพื้นที่ในการใช้งาน เนื่องจากล้อรถเข็นหรือล้ออุตสาหกรรมเหล่านี้ไม่ได้มีหน้าที่สำคัญเพียงแค่การช่วยขับเคลื่อนให้รถเข็นอุตสาหกรรมสามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าตามทิศทางที่ต้องการได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ล้อรถเข็นเหล่านี้ยังเป็นสิ่งที่จะต้องทำหน้าที่ในการช่วยรองรับน้ำหนักของอุปกรณ์หรือสิ่งของที่ถูกขนย้ายมาบนรถเข็นอุตสาหกรรมอีกด้วย เพราะฉะนั้นแล้วเพื่อช่วยให้การใช้งาน รถเข็น อุตสาหกรรมสำหรับการขนย้ายสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุดนั้น วันนี้เราจึงมีข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับประเภทของล้อรถเข็นอุตสาหกรรมมาให้ทุกคนได้ศึกษาทำความเข้าใจก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อรถเข็นอุตสาหกรรมมาใช้งาน เพื่อการเลือกใช้งานล้อรถเข็นหรือล้ออุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ทำความรู้จักกับประเภทล้อรถเข็นอุตสาหกรรม ล้อรถเข็นไนล่อน (Nylon Caster) ล้อรถเข็นสีขาว หรือล้อรถเข็นไนล่อน เป็นล้ออุตสาหกรรมประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการนำมาใช้งานในหลากหลายสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมที่มีความเปียกชื้น มีอุณหภูมิสูง อุณหภูมิต่ำ มีสารเคมี หรือมีคราบน้ำมัน เพราะ ล้อไนล่อน เป็นล้ออุตสาหกรรมที่ถูกผลิตขึ้นรูปมาจากเส้นใยพลาสติกสังเคราะห์ จึงทำให้ล้อรถเข็นไนล่อนมีความแข็งแรง ทนทาน และยืดหยุ่นดีมากกว่าล้อพลาสติกทั่วไป อีกทั้งล้อไนล่อนยังสามารถทนทานต่อการกัดกร่อนและทนทานต่อการใช้งานในทุกช่วงอุณหภูมิตั้งแต่ -40 °C ไปจนถึง +80 °C และอีกหนึ่งจุดเด่นที่สำคัญของการใช้งาน ล้อไนล่อน คือ ล้อรถเข็นไนล่อนเป็นล้อที่สามารถเข็นได้ง่ายและไม่เกิดการยุบตัวในขณะที่กำลังเข็นแม้จะรองรับน้ำหนักบรรทุกที่มากก็ตาม จึงทำให้การใช้งานล้อไนล่อนสามารถช่วยอำนวยความสะดวกและทุ่นแรงของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี และนอกจากนี้ล้อไนล่อนยังไม่ก่อให้เกิดคราบสกปรกบนทุกพื้นผิวที่ได้มีการนำมาใช้งาน จึงทำให้ล้อรถเข็นไนล่อนเหมาะสำหรับการนำมาใช้งานทั้งภายในและภายนอกอาคารหรือโรงงานอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ล้อรถเข็นยางธรรมชาติ (Rubber Caster) ล้อรถเข็นยางธรรมชาติที่มีสีดำโดดเด่น ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในประเภทของล้อรถเข็นที่หลาย ๆ คนคงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะล้อรถเข็นยางธรรมชาติเป็นล้ออุตสาหกรรมที่ได้รับความนิยมในการนำมาใช้งานในหลากหลายพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานภายในอาคาร ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ตลอดจนการนำมาใช้งานภายในโรงงานอุตสาหกรรม โกดังจัดเก็บสินค้า และคลังสินค้า เป็นต้น เนื่องด้วยข้อดีของ ล้อยาง ธรรมชาติที่มีความนิ่มและยืดหยุ่นดีกว่าล้อรถเข็นประเภทอื่น ๆ จึงทำให้ล้อยางธรรมชาติสามารถเข็นง่าย เลี้ยวคล่อง และไม่ก่อให้เกิดเสียงรบกวนในขณะใช้งาน ยิ่งไปกว่านั้นด้วยความยืดหยุ่นที่เหนือระดับของล้อรถเข็นยางธรรมชาตินี้เอง ยังช่วยทำให้ไม่เกิดร่องรอยการใช้งานของล้อรถเข็นบนพื้นแทบจะทุกประเภทไม่ว่าจะพื้นกระเบื้อง พื้นไม้ พื้นหินอ่อน หรือพื้นคอนกรีต จึงทำให้ ล้อยาง ธรรมชาติเหมาะสำหรับการนำมาใช้งานในพื้นที่ที่ต้องมีการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์หรือสินค้าไปตามจุดต่าง ๆ อยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งล้อรถเข็นยางธรรมชาติยังสามารถรองรับน้ำหนักในการบรรทุกได้ดีและมีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างยาวนานอีกด้วย ล้อรถเข็นยูรีเทน (Polyurethane Caster) ล้อรถเข็นยูรีเทน เป็นหนึ่งในประเภทของล้ออุตสาหกรรมที่ได้รับความนิยมในการนำมาใช้งานร่วมกับรถเข็นอุตสาหกรรม เพื่อการใช้งานสำหรับการขนย้ายสินค้าทั้งบริเวณภายในและภายนอกอาคารอย่างแพร่หลาย เนื่องจาก ล้อยูรีเทน ถือได้ว่าเป็นล้ออุตสาหกรรมที่ได้มีการรวบรวมข้อดีของล้อรถเข็นที่ผลิตจากไนล่อนและยางธรรมชาติเข้ามาไว้ด้วยกัน จึงทำให้ล้อยูรีเทนมีความแข็งแรง ทนทาน สามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกได้มากโดยไม่ทำให้ล้อรถเข็นเสียรูปทรง อีกทั้งตัวล้อยูรีเทนยังมีความเหนียว ไม่ฉีกขาดง่าย จึงทำให้สามารถนำมาใช้งานบนพื้นผิวที่มีความหยาบและขรุขระได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ล้อยูรีเทน ยังสามารถนำมาใช้งานได้ในทุกสภาพแวดล้อมไม่ว่าจะเป็นการนำมาใช้งานในพื้นที่แห้ง พื้นที่เปียก หรือพื้นที่ที่มีสารเคมี และที่สำคัญคือล้อรถเข็นยูรีเทนเป็นล้ออุตสาหกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดเสียงรบกวน และไม่ก่อให้เกิดรอยล้อหรือคราบสกปรกบนพื้นในระหว่างการใช้งาน จึงทำให้ล้อยูรีเทนเหมาะสำหรับการนำมาใช้งานบนพื้นผิวของอาคารและโรงงานอุตสาหกรรมได้ทุกรูปแบบทั้งพื้นไม้ พื้นกระเบื้อง พื้นเซรามิก พื้นหินอ่อน และพื้นคอนกรีต เป็นต้น ล้อรถเข็นพลาสติก (Polypropylene Caster) โดยส่วนใหญ่แล้วล้อรถเข็นพลาสติกจะเป็นล้ออุตสาหกรรมที่สามารถผลิตขึ้นรูปมาได้จากพลาสติกหลายประเภท แต่สำหรับประเภทของพลาสติกที่ได้รับความนิยมในการนำมาผลิตเป็นล้อรถเข็นพลาสติกมากที่สุดนั้น คือ พลาสติกประเภทโพลีโพรพิลีน (Polypropylene – PP) เนื่องจากพลาสติกดังกล่าวนี้เป็นพลาสติกที่มีคุณสมบัติที่ดีในด้านของความเหนียว แข็งแรง ทนทาน และมีความยืดหยุ่นค่อนข้างดี จึงทำให้ล้อรถเข็นพลาสติกที่ได้ออกมานั้นมีความแข็งแรง ทนทาน คงรูป และไม่แตกหักง่ายตามไปด้วย และนอกจากนี้ล้อรถเข็นพลาสติกยังสามารถทนทานต่อการกระแทก การขีดข่วน และการกัดกร่อนจากสารเคมีต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งล้อรถเข็นพลาสติกยังสามารถนำมาใช้งานได้ในหลากหลายสภาวะตั้งแต่สภาวะที่มีอุณหภูมิต่ำตั้งแต่อุณหภูมิ -20 °C ไปจนถึงอุณหภูมิสูงถึง +60 °C แต่อย่างไรก็ตามด้วยข้อจำกัดในเรื่องของความสามารถในการรองรับน้ำหนักบรรทุกที่ไม่ได้ดีมากเท่ากับล้ออุตสาหกรรมประเภทอื่น ๆ ส่งผลให้ล้อรถเข็นพลาสติกจึงเป็นล้อที่ได้รับความนิยมในการนำมาใช้งานเพื่อการขนย้ายอุปกรณ์และสิ่งของภายในอาคารมากกว่าภายนอกอาคาร ล้อรถเข็นเหล็กหล่อ (Cast Iron Caster) ล้อรถเข็นเหล็กหล่อ ถือได้ว่าเป็นล้ออุตสาหกรรมที่มีความแข็งแรงและทนทานมากที่สุดในล้ออุตสาหกรรมทุกประเภท จึงทำให้โดยทั่วไปแล้วล้อรถเข็นเหล็กหล่อจึงได้รับความนิยมในการนำมาใช้งานในอุตสาหกรรมหนัก และการใช้งานเพื่อขนย้ายอุปกรณ์และสิ่งของที่บริเวณพื้นที่กลางแจ้งหรือพื้นที่ภายนอกอาคารที่มีความหยาบ ขรุขระ หรือมีพวกเศษไม้และของมีคม เนื่องจากล้อรถเข็นเหล็กหล่อสามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกได้มาก และสามารถรองรับต่อแรงกระแทกที่เกิดขึ้นในระหว่างการใช้งานได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตามความแข็งแรงและทนทานของล้อเหล็กหล่อนั้นก็ต้องแลกมาด้วยข้อจำกัดในการใช้งานที่มากกว่าล้ออุตสาหกรรมประเภทอื่น ๆ เนื่องจากล้อรถเข็นเหล็กหล่อเป็นล้ออุตสาหกรรมที่ไม่สามารถนำมาใช้งานภายในอาคารหรือบนพื้นผิวที่เป็นพื้นไม้ พื้นกระเบื้อง พื้นหินอ่อน หรือพื้นเซรามิกได้ เพราะอาจทำให้พื้นผิวเหล่านี้เกิดรอยขีดข่วนหรือรอยของล้อรถเข็นบนพื้นที่ไม่สามารถเช็ดทำความสะอาดออกได้ อีกทั้งการใช้งานล้อรถเข็นเหล็กหล่อบนพื้นเหล่านี้ยังก่อให้เกิดเสียงรบกวนในระหว่างการใช้งานที่มากกว่าการใช้งานล้อรถเข็นประเภทอื่น ๆ อีกด้วย หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่กำลังมองหา รถเข็น อุตสาหกรรมคุณภาพสูง ที่มีความแข็งแรงทนทานในการใช้งาน และเหมาะสำหรับการนำมาใช้งานเพื่อการขนย้ายสิ่งของทั้งบริเวณภายในและภายนอกอาคารได้เป็นอย่างดี JenStore by Jenbunjerd เราคือผู้ช่วยคู่คิด ที่พร้อมช่วยดูแลและให้คำแนะนำในการเลือกซื้ออุปกรณ์รถเข็นอุตสาหกรรมสำหรับการจัดเก็บยกย้ายสินค้า โดยมีลูก ล้อรถเข็น และ ล้ออุตสาหกรรม ที่ตอบโจทย์และเหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานของแต่ละธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น ล้อยูรีเทน , ล้อยาง , ล้อยางธรรมชาติ, ล้อยางสังเคราะห์, ล้อไนล่อน , ล้อพลาสติก, และล้อเหล็กหล่อ พร้อมด้วยบริการติดตั้งและการดูแลหลังการขายแบบครบวงจรโดยทีมผู้เชี่ยวชาญจากเจนสโตร์ที่มากประสบการณ์ในวงการอุปกรณ์ “จัด เก็บ ยก ย้าย” มากว่า 35 ปี เพื่อการตอบสนองต่อความต้องการของคุณได้อย่างดีและสมบูรณ์แบบมากที่สุด ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) Tel : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
สแตนเลสประเภทที่เจนบรรเจิดเลือกใช้ใน รถเข็น โต๊ะ เก้าอี้ ตู้ เกรดพรีเมี่ยม

สแตนเลสประเภทที่เจนบรรเจิดเลือกใช้ใน รถเข็น โต๊ะ เก้าอี้ ตู้ เกรดพรีเมี่ยม เปิดเบื้องหลังที่เจนบรรเจิดต้องเลือกใช้สแตนเลส 304 ผลิตรถเข็น โต๊ะ เก้าอี้ ตู้ เกรดพรีเมี่ยม ‘สแตนเลส’ นับว่าเป็นวัสดุที่มีความคงทนต่อการกัดกร่อนได้ดีเยี่ยม และมีความแข็งแรง ทน ทานอุณหภูมิได้ตั้งแต่เย็นจัดจนถึงประมาณ 600°C รวมทั้งใช้สามารถนำมาใช้งานที่เกี่ยวข้องกับงานที่ต้องการสุขอนามัยหรือความสะอาด จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า ยิ่งนับวันธุรกิจหลากหลายประเภท มีความต้องการใช้อุปกรณ์ทั้ง โต๊ะสแตนเลส รถเข็นสแตนเลส และ เก้าอี้ หรือ กระทั่งตู้สแตนเลสเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบัน ‘สแตนเลส’ ที่เรานำมาเป็นวัสดุในการผลิต โต๊ะสแตนเลส รถเข็นสแตนเลส และเก้าอี้สแตนเลส มีมากมายหลากหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับใช้งานที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ดังนั้นการเลือกสแตนเลสเพื่อใช้ดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาล ในห้องแล็บ ห้องเย็น โรงงานอาหารและยา เป็นต้น ควรเลือกให้สอดคล้องกับการใช้งานหรือธุรกิจนั่นเอง โดยสแตนเลสที่ใช้งานกันอยู่ในขณะนี้สามารถจำแนกได้ ดังนี้ Type 102 เป็นสแตนเลสออสเทนนิติก (Austenitic) เหมาะสำหรับการใช้งานเฟอร์นิเจอร์ 200 Series เป็นสแตนเลสที่ผสมออสเทนนิติกโครเมียม-นิกเกิล-แมงกานีส (Ustenitic chromium-nickel-manganese alloy ) ที่ใช้สำหรับงานโลหะทั่วไป 300 Series เป็นสแตนเลสโลหะผสมโครเมียม-นิกเกิลออสเทนนิติก (Austenitic chromium-nickel alloy) ประกอบด้วยสแตนเลสเกรดยอดนิยม เกรด 304 สแตนเลสชุดนี้ใช้สำหรับช้อนส้อมอาหารและอ่างขัดสำหรับผ่าตัดและเครื่องมือต่างๆ 400 Series เป็นสแตนเลส โลหะผสมโครเมียมเฟอร์ริติกและมาร์เทนซิติก (Ferritic and martensitic chromium alloy) ถือว่าเป็นสแตนเลสที่ถูกที่สุด โดยนำไปใช้สำหรับท่อไอเสียรถยนต์ เหล็กช้อนส้อมคุณภาพสูงกว่า และใช้สำหรับดาบและมีดจำลอง 500 Series เป็นสแตนเลส โครเมียมอัลลอยด์ทนความร้อน 600 Series เป็นสแตนเลส ที่ผสมมาร์เทนซิติกที่เกิดขึ้นจากการชุบแข็งแบบตกตะกอน Type 2205 เป็นสแตนเลส ที่ผสมดูเพล็กซ์ (ทั้งเฟอริกและออสเทนนิติก) ที่มีความแข็งแรงและทนต่อการกัดกร่อนได้ดีเยี่ยม Type 2304 เป็นสแตนเลสโลหะผสมที่คล้ายกับประเภท 2205 ทุกประการ ยกเว้นปริมาณโมลิบดีนัมที่ต่ำกว่า ส่งผลให้การกัดกร่อนแบบหลุมลดลง สแตนเลสเกรด 304 เป็นที่นิยมใช้กันมากที่สุด เพราะมีโครเมียม 18-20% และปริมาณนิกเกิล 8-10.5% จึงมีความแข็งแรง ทนทานต่อการกัดกร่อน เหมาะกับการใช้งานที่ต้องทนต่อการสัมผัสกับอาหาร สารเคมี หรือกระทั่งน้ำ สแตนเลสเกรด 316 เป็นที่นิยมรองลงมาจากเกรด 304 โดยมีความแตกต่างที่สำคัญคือเหล็กกล้าไร้สนิม 316 มีโมลิบดีนัมประมาณ 2-3 % โมลิบดีนัมมีความสามารถในการป้องกันคลอไรด์และตัวทำละลายอุตสาหกรรมอื่นๆ ซึ่งทำให้เหล็กมีความทนทานต่อการกัดกร่อนมากขึ้น เหมาะกับการใช้กับงานทนกรด ทนเคมี หรือเป็นเกรดที่ปฏิกิริยากับกรดน้อย สแตนเลส 316L เหมาะกับการใช้งานในสภาวะทนกรดที่เข้มข้นมากกว่า ทนเคมีมากกว่า หรือเป็นเกรดที่ปฏิกิริยากับกรดน้อยมาก (มีความทนกรดมากกว่า) สแตนเลส 420 (มาตรฐานอเมริกา) 420J2 (มาตรฐานญี่ปุ่น) เป็นสแตนเลสที่มีคุณสมบัติสามารถนำไปชุบแข็งได้ (ชุบแล้วความแข็งขึ้นประมาณ 58 HRC) อย่างไรก็ดี หากจะเลือกใช้สแตนเลสให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน หรือโอกาสเกิดการกัดกร่อนและเป็นสนิมน้อย ควรจะเป็นสเตนเลสที่มีส่วนผสมของธาตุโลหะต่างๆ ด้วยกัน 3 ด้าน ดังนี้ คือ 1.มีปริมาณ คาร์บอน น้อยกว่า 0.15 % เพื่อป้องกันการเกิดสนิมและการกัดกร่อน 2.ปริมาณ โครเมี่ยม มากกว่า 18 % เพื่อให้เกิดชั้นฟิลม์ในการป้องกันการกัดกร่อน และ 3.ปริมาณ นิเกิล มากกว่า 8 % เพื่อเสริมความแข็งแรงและเกิดกระบวนการซ่อมแซมตัวเองของชั้นฟิล์ม เมื่อเกิดการกัดกร่อน สแตนเลสประเภทที่เจนบรรเจิดเลือกใช้ในโต๊ะและรถเข็นสแตนเลส สำหรับ “เจนบรรเจิด” เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายและส่งออกสินค้าในอุตสาหกรรมครบครัน ทั้งอุปกรณ์จัดเก็บ ยก ย้าย (Materials Handling Equipment) และเป็นผู้ผลิต โต๊ะสแตนเลส รถเข็นสแตนเลส เก้าอี้สแตนเลส รวมทั้ง รับทําโต๊ะสแตนเลส มากมายหลากหลายรูปแบบ โดยวัสดุในการผลิตได้คัดสรร ‘สแตนเลส’ (Stainless) เกรดระดับพรีเมี่ยม ซึ่งก็คือ สแตนเลส304 (Stainless 304) ซึ่งอยู่ในสแตนเลส ตระกูล ออสเทนิติค (Austenitic stainless steel) ที่ถือว่าเป็นสแตนเลส มาตรฐาน Food Grade เหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้ในการผลิต และแปรรูปอาหาร การทำเบเกอรี่ (Bakery) ไปจนถึงอุปกรณ์เวชภัณฑ์ต่าง ๆ ในโรงพยาบาล ห้องแล็ป ห้องยา เป็นต้น “สเตนเลส 304” คืออะไร มีชื่อเป็นทางการ เหล็กกล้าไร้สนิม ที่มีความต้าน ทานการกัดกร่อนสูง สแตนเลสเป็นโลหะผสมระหว่างเหล็กและคาร์บอน ซึ่งส่วนประกอบจะมีปริมาณคาร์บอนต่ำ มีโครเมียม เป็นส่วนผสมหลัก ประมาณ 10.5 % หรือมากกว่าทำให้เกิดการสร้างฟิล์มโครเมียมออกไซด์ (chromium oxide film : CrO2 หรือเรียกว่า passive film) ที่มองไม่เห็นเกาะติดแน่นอยู่ที่ผิวหน้าทำให้เหล็กกล้า มีความต้านทานการกัดกร่อน ฟิลม์ปกป้องนี้จะมีความบางเทียบเท่ากับวางกระดาษ 1 แผ่นบนตึกสูง 20 ชั้น ถ้าฟิล์มที่ผิวหน้านั้น ถูกทำลายไม่ว่าจากแรงกล สารเคมี หรือออกซิเจนที่มีอยู่ในบรรยากาศ แม้จำนวนน้อยนิดจะเข้าทำปฏิกิริยากับโครเมียม สร้างฟิล์มโครเมียมออกไซด์ทดแทนขึ้นใหม่ด้วยตัวมันเอง ข้อดีของสแตนเลส 304 เป็นสแตนเลสชนิดหนึ่งในกลุ่มออสเตนนิติค (Austenitic) ซึ่งสแตนเลสชนิดนี้ จะมีจุดเด่นที่ ความทนทาน มีความเหนียวสูง ต้านการการกัดกร่อนสูง ทนความร้อนได้สูง ขึ้นรูปได้ดี ไม่เป็นสนิม ไม่ดูดซึมสาร กล่น และรสชาติ สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานเกิดจากการผสมโลหะระหว่างเหล็ก และคาร์บอน โครเมียม และนิกเกิล เป็นส่วนผสมหลัก อย่างไรก็ดีสแตนเลส 304 จะมีราคาค่อนข้างแพง เนื่องจากการเติมนิเกิลซึ่งมีคุณสมบัติต้านทานการกัดกร่อนที่ดีกว่า นอกจากนี้ยังให้ความสว่างที่ดีกว่าและมีความยืดหยุ่นที่ดี ด้วยคุณสมบัติของ “สเตนเลส 304” เจนบรรเจิด จึงนำมาผลิต โต๊ะสแตนเลส รถเข็นสแตนเลส เก้าอี้สแตนเลส รวมทั้งยังมีบริการ รับทําโต๊ะสแตนเลส รวมทั้งยังมีอุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งปัจจุบันมีกลุ่มสินค้าให้เลือกมากมาย ได้แก่ โต๊ะสเตนเลส พร้อมชั้นวางด้านล่าง ที่เหมาะสำหรับงานในห้องแล็บ ห้องเย็น โรงงานอาหารและยา หรืองานเปียกชื้น โดยมีโครงสร้างสเตนเลสทั้งตัว หน้าโต๊ะผลิตจากสเตนเลสเกรด 304 เก้าอี้สเตนเลส แบบทั่วไปที่มีความแข็งแรง ทนแดด ทนฝนและเก้าอี้สแตนเลสแบบมีล้อสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก และยังสามารถปรับสูง-ต่ำ ได้ 500-650 มม. ตามความต้องการของการใช้งาน โดยที่นั่งของเก้าอี้ผลิตจากสเตนเลสเกรด 304 ระดับพรีเมี่ยม รถเข็นสแตนเลส แบบชั้นเดียวและแบบสองชั้นและแบบสามชั้น โดยมีดีไซน์ที่สวยงามและรองรับน้ำหนักได้ดีและฟังก์ชั่นสอดคล้องกับการใช้งานแบบมีด้ามจับและขอบป้องกันของตก ผลิตจากสแตนเลส 304 สามารถใช้งานทั้งโรงพยาบาล ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจค้าปลีก เป็นต้น บริการ รับทําโต๊ะสแตนเลส เจนบรรเจิด มีบริการรับทำโต๊ะสแตนเลสตามมาต้องการของลูกค้าทั้งโรงพยาบาล ธุรกิจร้านอาหาร ห้องแล็ป ห้องยา ที่ต้องการขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่ หรือกระทั่งการออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานที่เหมาะสมกับธุรกิจหรือการใช้งาน ด้วยวัสดุสแตนเลส 304 เหตุผลที่เจนบรรเจิดเลือกใช้สเเตนเลสเกรด 304 เพื่อส่งมอบ โต๊ะสแตนเลส รถเข็นสแตนเลส เก้าอี้สแตนเลส รวมทั้ง รับทําโต๊ะสแตนเลส ที่มีความแข็งเเรงคงทนในการใช้งานและไม่เป็นสนิม และยังทำความสะอาดและดูแลรักษาง่ายเนื่องจากคุณสมบัติของสแตนเลสที่ไม่เป็นสนิม และความเป็นกลางสูงไม่ดูดซึมรสชาติอาหารใดๆ อีกทั้งยังมีความคงทน แข็งแรงเนื่องจากจุดหลอมเหลวสูงกว่าเหล็กมาก และมีความสวยงาม ด้วยเนื้อสแตนเลสที่มีความเงางาม ซึ่งจะส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจ JenStore by Jenbunjerd จำหน่าย โต๊ะสแตนเลส รถเข็นสแตนเลส หลากหลายรูปแบบ และ รับผลิตโต๊ะสแตนเลสและรถเข็นสแตนเลสตามแบบและความต้องการใช้งาน ผลิตโดยโรงงานสแตนเลสด้วยช่างมืออาชีพ หากต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อทีมขายเจนสโตร์สายด่วนสั่งซื้อสินค้าบริการจัดหาสินค้า สินค้าสั่งทำ เลขหมายโทรศัพท์ 02 096 9999 (200 คู่สาย) บริการหลังการขาย 02 096 9898 ต่อ 3102-3103 หรือ Line@jenstore ในเวลาทำการ 08.30 - 17.30 น. ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) Tel : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บด้วยการใช้ชั้นวางสินค้าให้ถูกประเภท

เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บด้วยการใช้ชั้นวางสินค้าให้ถูกประเภท ชั้นวางของเหล็ก ชั้นวางสินค้า หรือชั้นวางของอเนกประสงค์แบบไหนที่เหมาะกับการจัดเก็บของคุณ ใครหลายคนอาจมองว่าการจัดเก็บเอกสารหรือการจัดเก็บสิ่งของสำนักงานเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ไม่ว่าใครก็สามารถจัดการได้ทั้งนั้น แต่สำหรับคนที่ทำงานสำนักงานที่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ท่ามกลางเอกสารและพัสดุมากมายโดยเฉพาะบริษัทที่ทำธุรกิจขนาดใหญ่ ที่มีการดิลกับคู่ค้ามากมาย การจัดเก็บข้อมูลเอกสารและพัสดุอาจไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากจะต้องเก็บรักษาข้อมูลเอกสารและพัสดุแล้วยังต้องแยกหมวดหมู่ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเพื่อที่จะได้ง่ายต่อการค้นหา และด้วยสาเหตุนี้เองจึงส่งผลให้มีการจัดจำหน่ายชั้นวางที่หลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็น ชั้นวางของเหล็ก , ชั้นวางสินค้า , ชั้นวางของอเนกประสงค์ ,ชั้นวางเสาเรียบ ,ชั้นวางตะแกรงลวด ,ชั้นวางพัสดุทั่วไป และชั้นวางอื่นๆ เป็นต้น ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะได้ตอบโจทย์ต่อความต้องการของผู้ใช้งานให้ได้มากที่สุด ประเภทของชั้นวางมีอะไรบ้าง ? เชื่อว่าหลายคนคงเคยพบเห็นชั้นวางของประเภทต่างๆ ที่จัดจำหน่ายตามท้องตลาดกันมาบ้างแล้ว สำหรับบทความนี้เราจะขอแยกประเภทชั้นวางออกเป็นสี่ประเภทหลักๆ โดยแบ่งประเภทตามลักษณะและโครงสร้างของการนำไปใช้งาน อันได้แก่ ชั้นวางของเหล็ก ,ชั้นวางตะแกรงลวด ,ชั้นวางเสาเรียบ และ ชั้นวางสินค้า / ชั้นวางของอเนกประสงค์ ซึ่งชั้นวางของทั้งสี่ประเภทนี้มักจะถูกไปนำใช้งานที่แตกต่างกันออกไป สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่หากต้องการชั้นวางสินค้าคุณภาพ สามารถสอบถามรายละเอียดสินค้าหรือดิลราคาส่งเพิ่มเติมได้ที่นี่ ชั้นวางของเหล็ก : สำหรับชั้นวางของเหล็กหรือที่หลายคนมักเรียกว่าชั้นวางของเหล็กพ่นสีมักจะทำมาจากวัสดุเหล็กขึ้นรูปซึ่งมีคุณภาพสมบัติที่เน้นในเรื่องความแข็งแรงทนทานเป็นหลัก เพราะสามารถรองรับน้ำหนักได้มากถึง 300 กิโลกรัม/ชั้นวาง อีกทั้งยังสามารถเลือกสเปคจำนวนชั้นวางสินค้า/ชั้นวางเอกสารได้ตามใจชอบโดยมักจะเริ่มตั้งแต่ชั้นวางของเหล็กสี่ชั้นไปจนถึงชั้นวางของเหล็กหกชั้น ทั้งนี้ก็สามารถเลือกชั้นวางของเหล็ก ให้ตอบโจทย์ต่อการใช้งานได้เลย ชั้นวางตะแกรงลวด : สำหรับชั้นวางตะแกรงลวดส่วนใหญ่แล้วจะออกแบบให้มีขนาดความกว้าง ยาว สูงที่แตกต่างกันออกไปเพื่อที่จะได้ตอบโจทย์ต่อการใช้งานได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะทั้งธุรกิจขนาดเล็กและขนาดใหญ่โดยความกว้าง ยาว สูงที่แตกต่างกันออกไปนั้นก็ส่งผลให้เกิดความแตกต่างในเรื่องความสามารถในการรองรับน้ำหนักเช่นกัน โดยมีสเปคจำนวนชั้นวางสินค้า/ชั้นวางเอกสารสองแบบ อันได้แก่ ชั้นวางตะแกรงลวดสี่ชั้นและห้าชั้น ความพิเศษของชั้นวางตะแกรงลวด คือบางรุ่นมีล้อและสามารถรองรับน้ำหนักได้ตั้งแต่ 100-250 กิโลกรัม/ชั้นวางเลยทีเดียว ชั้นวางเสาเรียบ : สำหรับชั้นวางเสาเรียบ จะมีความแตกต่างกับชั้นวางของเหล็กและชั้นวางตะแกรงลวดที่กล่าวไปข้างต้น เพราะชั้นวางเสาเรียบจะมีการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างเหล็กเคลือบสีชั้นดีกับไม้ลามิเนตคุณภาพก่อให้เกิดเป็นชั้นวางเสาเรียบที่มีการดีไซต์ที่สวยงาม หลายคนอาจกังวลว่าทำจากไม้ลามิเนตชั้นวางสินค้าอาจไม่มีความแข็งแรงทนทานเหมือนกับที่ทำจากเหล็ก แต่สำหรับเราที่คัดสรรเฉพาะแผ่นไม้ลามิเนตคุณภาพหนาถึง 10 มิลลิเมตร อีกทั้งยังมีคุณสมบัติที่ทนต่อรอยขีดข่วนและรับแรงกดกระแทกได้เป็นอย่างดีเพราะสามารถรองรับน้ำหนักได้มากถึง 180-250 กิโลกรัม/ชั้นวาง ในส่วนของเสาก็ทำจากเหล็กเคลือบสีอย่างดีทนทานต่อการใช้งานอย่างแน่นอน และที่สำคัญมีดีไซต์ที่โมเดิร์นทันสมัยสามารถนำไปประดับเป็นอีกหนึ่งเฟอร์นิเจอร์ในออฟฟิศสำนักงานให้ดูดีมีระดับขึ้นได้ ชั้นวางสินค้า / ชั้นวางของอเนกประสงค์ : สำหรับชั้นวางสินค้า/ชั้นวางของอเนกประสงค์จะเหมาะสมกับการจัดเก็บพัสดุสำนักงาน ,โชว์รูม ,ของใช้ภายในบ้าน หรือของใช้สำนักงาน โดยมักมีการออกแบบโครงสร้างที่ผลิตจากเหล็กพ่นสี แต่ความแข็งแรงทนทานและการรับน้ำหนักอาจไม่มากเท่าชั้นวางของเหล็ก โดยเฉลี่ยต่อชั้นวางจะสามารถรองรับน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 70 กิโลกรัม จุดเด่นของชั้นวางสินค้าประเภทนี้คือประกอบได้ง่าย ,ปรับระดับความสูงต่ำได้ตามที่ต้องการ และไม่จำเป็นต้องใช้น็อตในการยึดชั้นวางสินค้า ดังนั้นจึงเหมาะอย่างยิ่งในการวางของภายในบ้านหรือภายในสำนักงาน สามารถสอบถามหรือดิลราคาปลีก-ส่งเพิ่มเติมได้ที่นี่ การเลือกชั้นวางสินค้าให้ถูกประเภทเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บ หลังจากที่เราทราบถึงประเภทของชั้นวางสินค้าทั้งสี่ประเภทพอสังเขปแล้ว ลำดับต่อไปเราจะขอพูดถึงการเลือกชั้นวางให้ถูกประเภทเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บ เพราะอย่างที่กล่าวไปข้างต้นการเก็บเอกสารหรือพัสดุสำหรับบางคนอาจเป็นเรื่องที่ง่ายเพราะอาจเป็นธุรกิจขนาดเล็ก แต่สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ไม่ว่าจะเป็นเอกสารหรือพัสดุย่อมมีมากมายหลายรูปแบบ หลากหลายประเภท ดังนั้นการเลือกชั้นวางสินค้า ชั้นวางของอเนกประสงค์ให้เหมาะสมจึงเป็นเรื่องที่สำคัญและควรมีการเลือกอย่างไร ไปอ่านพร้อมๆ กันเลย ทราบถึงขนาดและลักษณะของธุรกิจตัวเอง : หากลักษณะของธุรกิจเป็นประเภทขายสินค้า แน่นอนว่าก็ควรเลือกซื้อ ชั้นวางสินค้า ที่สามารถบรรจุพัสดุที่จำนวนมากและมีน้ำหนักที่มากได้เพราะจำเป็นที่ต้องสต็อคของ แต่ถ้าหากเป็นออฟฟิศสำนักงานที่จำเป็นต้องใช้ ชั้นวางของอเนกประสงค์ ก็สามารถเลือกขนาดชั้นวางที่ไม่จำเป็นต้องรองรับน้ำหนักที่มากเพราะส่วนใหญ่ก็มีไว้เพื่อจัดเก็บเอกสารต่างๆ ประเมินพื้นที่ของการจัดเก็บ : หากมีพื้นที่ในการจัดเก็บที่น้อยเราก็ควรเลือกซื้อชั้นวางที่ถูกออกแบบให้มีชั้นวางสินค้าที่สูงเพื่อประหยัดพื้นที่ในแนวราบ การเลือกชั้นวางสินค้าที่เหมาะสมนอกจากจะช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยแล้วยังสามารถช่วยประหยัดงบในการเช่าพื้นที่จัดเก็บของเพิ่มเติมได้อีกด้วย ประหยัดค่าขนส่งสินค้า : การสต็อคของเป็นเรื่องที่สำคัญหากเราต้องการประหยัดค่าขนส่ง เพราะแน่นอนว่าการขนส่งหนึ่งครั้งเราสามารถประหยัดงบได้มากกว่าขนส่งหลายครั้ง แต่ทั้งนี้หากเราต้องการซื้อของจำนวนมากๆ ในราคาที่ถูกลงเรื่องสำคัญต่อมาก็คือการหาพื้นที่ในการจัดเก็บนั่นเอง ดังนั้นควรเลือกชั้นวางให้เหมาะสมกับหน้างานมากที่สุด ป้องกันปัญหาสินค้าขาดแคลนไม่พอจำหน่าย : อย่างที่ทราบกันดีบางสินค้าเราจำเป็นต้องสต็อคในจำนวนที่มากเพื่อป้องกันการสูญเสียโอกาสในการขายหากสินค้านั้นขาดตลาด ดังนั้นการวางแผนพื้นที่จัดเก็บจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น ที่สำคัญก็ควรมีการวางแผนในเรื่องการเลือกประเภทชั้นวางสินค้าให้เหมาะสมและตอบโจทย์ต่อการใช้งานให้ได้มากที่สุด JenStore by Jenbunjerd ให้บริการจัดจำหน่าย ชั้นวางของเหล็ก ชั้นวางของอเนกประสงค์ ชั้นวางสินค้า ชั้นวางอุตสาหกรรม อุปกรณ์จัดเก็บสินค้าสำหรับคลังสินค้า โรงงานอุตสาหกรรม และธุรกิจร้านค้า คุณภาพมาตรฐาน แข็งแรงทนทาน พร้อมบริการให้คำปรึกษาแนะนำในการเลือกใช้งานและติดตั้งชั้นวางประเภทต่างๆให้เหมาะสมและตอบโจทย์รูปแบบการใช้งานโดยทีมขายมืออาชีพจากเจนสโตร์ หากต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สายด่วนสั่งซื้อสินค้า บริการจัดหาสินค้า สินค้าสั่งทำ เลขหมายโทรศัพท์ 02 096 9999 (200 คู่สาย) บริการหลังการขาย 02 096 9898 ต่อ 3102-3103 หรือ Line @jenstore ในเวลาทำการ 08.30 - 17.30 น. ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) Tel : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
×
สายด่วนสั่งซื้อสินค้า บริการจัดหาสินค้า สินค้าสั่งทํา 02 096 9999
บริการหลังการขาย 02 096 9898
ต่อ 3102-3103
ไลน์ @jenstore
เวลาทําการ 08.30 - 17.30 น.
Copy to Clipboard